มึงชอบประวัติศาสตร์ไม๊...อืม ก็ไม่ได้ชอบมาก แต่ก็เคยอ่านอยู่บ้าง จำได้ตอนเรียนนี่ ใครต่อใคร แม่งบอกว่าเป็นวิชาน่าเบื่อว่ะ...เออใช่ คนคิดกันแบบนั้นแหละ ยิ่งเดี๋ยวนี้ หลายคนบอกไม่รู้จะเรียนมันไปทำไม เรียนไปไม่ได้ใช้ประโยชน์...ก็มันมีแต่ให้อ่าน อ่านอ่านอ่าน แล้วก็อ่าน แล้วมึงต้องจำให้ได้ด้วยแล้วไปสอบ มีแต่ท่องจำน่ะว่ะ มันก็น่าเบื่อดิ...เออ แต่กูว่าประวัติศาสตร์น่าสนุกนะเว้ย หยั่งพ่อกูนี่ชอบเรื่องสงครามโลกครั้งที่สองมาก อะไรที่เกี่ยวกับสงครามโลกนี่เล่าเป็นฉากฉาก...แล้วมึงชอบที่พ่อมึงเล่าป่าวล่ะ คือน่าสนุกหยั่งที่มึงว่าไม๊น่ะ...คือกูฟังแกหลายร้อยหลายพันครั้งแล้วท่าจะได้ แรกๆ ก็สนุกนะมึง แต่หลายครั้ง มันซ้ำน่ะว่ะ ฟังแล้วก็ฟังอีก กูก็ได้แต่คิดในใจว่า เอาอีกแล้วพ่อ เล่าเรื่องสมัยสงครามอีกแล้ว...นั่งไง กูถึงบอกมันน่าเบื่อไง เอางี้ สมัยมึงกับกูยังเด็ก ไม่ต้องก็ได้ เอาเดี๋ยวนี้แหละ มึงลองถามเด็กๆ แถววัดนี่ดูดิ ว่าโตขึ้นมันอยากเป็นอะไร มีไม๊ที่มันบอกมึงว่า มันอยากเป็นประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ หมายถึงเป็นนักประวัติศาสตร์น่ะ มีไม๊ ไม่มีไง ใช่ป่ะ...แต่บางทีกูว่า ประวัติศาสตร์ก็ยังน่าสนุกอยู่ดี ตรงไหนไม๊ คือที่กูคิดนะ ประวัติศาสตร์เนี่ยมันจะเกี่ยวกับคน หมายถึงคนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นๆ น่ะ แล้วก็เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย...เดี๋ยว กูต้องนอนฟังมึงไม๊เนี่ยประวัติศาสตร์เนี่ย ท่าจะยาวแน่วันนี้...ไม่ยาวๆ กูแค่คิดเล่นๆ ชวนมึงคุยเท่านั้นแหละ...เฮ้อ...ทีนี้แต่ละเหตุการณ์เกิดขึ้น มันจะมีคนที่เกี่ยวข้อง แล้วต้องคิดต้องตัดสินใจ เนี่ยกูว่าตรงนี้แหละที่น่าสนุก...กูยังไม่เห็นมันสนุกตรงไหนเลย...อ้าว มึงไม่ลองคิดดูล่ะ คือทำไมตอนนั้นเค้าคิดแบบนั้น ตัดสินใจแบบนั้น ทำไมไม่คิดอย่างอื่น ตัดสินใจแบบอื่นล่ะ...แล้วมึงจะไปคิดทำไม มามึงมา วันนี้มึงวิชาการกับกู กูก็จะวิชาการกับมึง...วิชากง วิชาการอะไร ก็ชวนมึงคุยกันสนุกๆ ไง...คือประวัติศาสตร์น่ะมันผ่านมาแล้วเว้ย เหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นแล้ว ถ้าคิดแบบมึง คือเค้าตัดสินใจไปแล้ว เค้าทำไปแล้ว...นั่นสิ แล้วทำไมคิดแบบนั้น ทำแบบนั้น...เอ๋า ก็มันมีเรื่องแวดล้อมไง มีปัจจัยอะไรต่ออะไรเยอะแยะที่ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่มึงว่าน่ะ เค้าต้องตัดสินใจแบบนั้น...แต่บางอย่างนี่ทำไปแล้วมันส่งผลเสียเยอะนะเว้ย แบบเสียหายกันไปหมดน่ะ หลายเหตุการณ์นี่มีผลกระทบมหาศาลเลยนะมึง...ก็ถูก แต่มันตัดสินใจแล้ว ผ่านมาแล้วไง จบไม๊...อย่างนั้นประวัติศาสตร์มันก็ไม่มีประโยชน์น่ะสิวะ งั้นเราจะรู้มันไปทำไม...ก็ให้เข้าใจไงว่าที่ผ่านมาเค้าคิดยังไง ตัดสินใจยังไงล่ะ...ตรงนี้ไง ตอนเด็กน่ะครูให้ท่องจำประวัติศาสตร์ แสดงว่ามึงท่อง แต่มึงไม่จำเลยไง มึงเลยไปตัดสินใจแบบเดิมๆ อีก แล้วก็เสียหายซ้ำซาก แบบประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยไง มึงเคยได้ยินป่าว...อันนี้กูไม่เกี่ยว กูไม่เอามาคิดให้หนักหัวกู อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ใครจะคิดจะตัดสินใจยังไง ไม่เกี่ยวอะไรกับกู...แบบรู้ว่าตัดสินใจแบบนั้นเป็นปัญหาแน่ๆ ก็ยังทำ...เค้าก็อาจมีเหตุผลของเค้า มึงก็ ใช่ไม๊ล่ะ...เอาจริงๆ นะ เท่าที่กูอ่านมา หลายเรื่องดีดีในประวัติศาสตร์ มักเกิดจากการกล้าตัดสินใจที่ต่างไปจากเดิม แบบไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยน่ะ...บางทีมึงก็ต้องเข้าใจ บางคนมันไม่ได้เคยสนใจประวัติส่ง ประวัติศาสตร์อะไรทั้งนั้น ไม่ท่องไม่จำอะไรทั้งนั้น กูจะคิดแบบนี้ กูจะตัดสินใจแบบนี้ จะทำไม ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง...อืม หยั่งงั้นประวัติศาสตร์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรน่ะสิวะ...ประโยชน์น่ะมี ไม่ใช่ไม่มี ไม่งั้นมันจะเป็นวิชาให้มึงนั่งเรียนเหรอ แค่มันน่าเบื่อหน่อยๆ เท่านั้น...ไม่หรอก กูอยากให้เราสนใจประวัติศาสตร์ให้มากๆ น่ะ แล้วอย่าตัดสินใจทำอะไรที่มันจะกลายเป็นการซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่ไม่ดีน่ะ...ดูมึงหงอยๆ นะ เอางี้มึงตั้งใจฟังกูนะ ประวัติศาสตร์น่ะ คนน่ะคน มนุษย์น่ะมนุษย์ เป็นคนสร้างโว้ย อยู่ที่คนมันจะเลือกว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ไว้แบบไหน...โดยไม่สนใจผลที่จะเกิดเลยหรือวะ...สนสิทำไมมันจะไม่สน มันคิดแล้วไง มันเลยตัดสินใจแบบนั้น...แล้วถ้ามันเกิดผลเสียล่ะ ใครรับผิดชอบ...มึงไม่ต้องไปสนใจ เพราะประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากเหตุการณ์นั้น จะบอกมึงเองว่า ใครบ้างเป็นคนต้องรับผิดชอบ...เฮ้อ...ไง เป็นไงล่ะ กูพอละนะ เหนื่อยว่ะ กูไปหาหลวงพ่อก่อนดีก่า ไปป่าว...มึงไปก่อน ขอกูนั่งคนเดียวเงียบๆ ซักพัก...เออ งั้นกูไปก่อนละกัน…?!@#$%^&*+?...จะว่าไป ประวัติศาสตร์ก็น่าสนุกหยั่งมันว่าเหมือนกัน ฮืม...