อันพี่น้องเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้อผ้า..
คุณว่าประโยคนี้จริงหรือไม่
หลายคนสงสัยทำไมคนมีฝีมืออย่าง กวนอู เตียวหุย ขงเบ้ง จึงมาอยู่กับคนอนาถาอย่างเล่าปี่ มีผู้ตีความไว้หลายเหตุผล หนึ่งในนั้นก็คือ
เล่าปี่มีน้ำใจเป็นเลิศ พูดให้เห็นภาพชัดคือเล่าปี่ถนอมใจคนได้ดีมาก เช่นเหตุการณ์นี้
เตียวหุย เป็นหนึ่งในสามพี่น้องแห่งสวนท้อ
มีชื่อเสียงเรื่องฝีมือทางการรบ มีกำลัง ใจกล้า
แต่ข้อเสียคือใจร้อนวู่วาม และขี้เมา
ครั้งเล่าปีเริ่มตั้งตัวได้ ได้ครองเมืองซีจิ๋ว ตอนนั้นลิโป้ก็มาขอพึ่งใบบุญเล่าปี่อยู่ โจโฉจึงออกอุบายอ้างรับสั่งฮ่องเต้มีบัญชาให้เล่าปี่ไปตีอ้วนสุด เพราะโจโฉรู้ว่าหากฝ่ายใดแพ้ ลิโป้ต้องเหยียบซ้ำแน่นอน
เล่าปี่แม้รู้ว่าเป็นอุบายโจโฉ แต่ไม่อาจฝืนราชโองการได้ จึงจำเป็นต้องยกทัพไปตีอ้วนสุด ส่วนเมืองซีจิ๋วก็ฝากให้เตียวหุยดูแล
เตียวหุยนั้นติดสุรามาก แม้เล่าปี่จะกำชับไว้แล้ว
แต่คนมันเปรี้ยวปากก็ต้องจัดสักหน่อย
ที่แย่คือไม่เพียงดื่มสุราคนเดียว ยังชวนลูกน้อง
นายกองดื่มด้วย แต่มีนายทหารคนหนึ่งชื่อโจป้าไม่ยอมดื่ม เตียวหุยโมโหสั่งโบย 100 ที ทำเอาลูกน้องเอือมระอา
มีชายคนหนึ่งสงสารโจป้า จึงเอ่ยปากห้าเตียวหุย ชายคนนี้คือตันเต๋ง ตันเต๋งคงคิดว่าเค้าเป็นพ่อตาของลิโป้ เตียวหุยคงเกรงใจบ้างจึงเอ่ยปากเตือน
"หากไม่เห็นแก่หน้าข้า ก็เห็นแก่ลิโป้ลูกเขยข้าเถอะ"
ผิดคาดค่ะ แทนที่เตียวหุยจะเกรงใจ กลับยิ่งโมโหหนัก เพราะเหม็นหน้าลิโป้เป็นทุนอยู่แล้ว โจป้าจึงถูกโบยตามระเบียบ(ของเตียวหุย)
หลังจากถูกโบยเสร็จ โจป้าแบกความเจ็บใจไปฟ้องลิโป้ ลิโป้ตอนนี้ก็เพียงแค่คนอาศัย จึงเกิดความคิดไฉนเราไม่ยึดเมืองมาเป็นของเราเสียเลยล่ะ
พวกนั้นก็เมากันอยู่ ตอนนี้ถือเป็นโอกาสอันดีแล้ว
ทีเหลือก็ตามคาด ลิโป้ยึดเมืองได้
ส่วนเตียวหุยต้องหนีตายไปหาเล่าปี่
เตียวหุยสารภาพทั้งหมดแก่เล่าปี่ กวนอูถามว่าแล้วครอบครัวพี่ใหญ่เล่า เป็นเช่นไร
"ข้าหนีมาก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นเช่นไร.."
คำตอบนี้ทำเอากวนอูกับเล่าปี่อึ้ง
เตียวหุยก็รู้สึกผิดอยู่ บวกกับแก้ไขอะไรไม่ได้ จึงคิดฆ่าตัวตายไถ่โทษ แต่เป็นเล่าปี่เองที่ห้ามน้องขี้เมาคนนี้ไว้ พร้อมปลอบใจอีกว่า
"เราสามคนสาบานเป็นพี่น้องกัน แม้ไม่ได้เกิดวันเดียวกัน ก็ขอตายวันเดียวกัน อันพี่น้องเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้อผ้า แขนขาขาดแล้วก็ยากที่จะต่อได้ น้องคงเข้าใจ"
ไอ้ประโยคพี่น้องเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้อผ้านี่แหละค่ะที่ในขัดใจเรา ๆ ผู้อ่านคงคิดว่าสงสารเมียเล่าปี่เหลือเกิน ผู้ชายแบบนี้อย่าได้เอาทำผัว
แต่....ถามหน่อยว่าตอนที่พูดประโยคนี้ เมียเล่าปี่ได้ฟังมั้ย..ก็ไม่ เตียวหุยกับกวนอูจะไปบอกมั้ย..ก็ไม่
เล่าปี่เองคิดแบบนี้จริงมั้ย..ก็คงไม่อีก
คนที่ได้ฟังคือเตียวหุยกับกวนอู ผู้สาบานเป็นน้อง
ผู้ซึ่งเล่าปี่เปรียบไว้ว่าสำคัญยิ่งกว่าลูกเมีย มาโปรยคำหวานใส่แบบนี้คนฟังมีหรือจะไม่ซาบซึ้งคะ
ในสถานการณ์นั้นเล่าปี่ต้องการรักษาชีวิตเตียวหุยไว้ เพราะหากเตียวหุยตายก็ไม่ทำให้ครอบครัวเล่าปี่มายืนตรงหน้าได้ การมีเตียวหุยไว้มีประโยชน์อย่างมากในการออกศึกตรงหน้าและศึกต่อไป จึงส่งผลให้เกิดประโยคนี้ออกมา
ต้องนับถือสติปัญญาของเล่าปี่ด้วยซ้ำที่แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี พลิกจากร้ายเป็นดีที่สุดคือผูกใจเตียวหุยและกวนอูไว้มั่นคงยิ่งกว่าโซ่ทองใด
เล่าปี่ถือเป็นผู้นำที่เด่นเรื่องน้ำใจ
และวาทศิลป์ก็ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย
...
ส่วนที่ตัดเอาประโยคพี่น้องเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้อผ้าไปพูดโดยไม่ดูบริบท ประมาณหาพวกว่าเมียไม่สำคัญ ก็พึงรักษาชีวิตตัวเองไว้ให้ดีนะคะ😆
ใครตีความเพิ่มเติมคอมเมนต์คุยกันได้เลยนะคะ
จะเล่าอะไรให้ฟัง 5 May 21
- 12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
