6 พ.ค. 2021 เวลา 06:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไมเทรดแล้วรู้สึกเครียดจัง? ทำไมเทรดแล้วไม่รวยซักที?
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงความคิดผิดๆของผมตั้งแต่เข้าสู่วงการเก็งกำไร ผมใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะหลุดพ้นความความคิดเหล่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์มือใหม่นะครับ
ความคิดแบบผิดๆมีอยู่ดังนี้
1. ต้องจัดหนัก ถึงจะรวยเร็ว
อย่าไปปักใจเชื่อตามที่ตัวเองวิเคราะห์ หรือตามที่ได้ยินได้ฟังจากเหล่ากูรูแล้วซื้อแบบจัดหนัก เพราะความเสี่ยงเกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งซื้อเยอะๆ ก็อาจขาดทุนได้เยอะเช่นกัน ไม่มีใครเก็งกำไรถูกต่อเนื่องกันทุกครั้ง การจำกัดความเสี่ยงและขนาดของการเทรดจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ (แนะนำให้อ่านบทความครั้งก่อน)
ไม่จำเป็นต้องไปเร่งรีบให้รวยเร็วๆ แค่จำกัดความเสี่ยงให้เป็นและเทรดอย่างมีระบบ รับรองว่าผ่านไปไม่กี่ปีคุณจะรวยกว่าเทรดเดอร์ที่ไม่จำกัดความเสี่ยงแน่นอน
2. ต้องติดตามดูกราฟบ่อยๆ
อันนี้คือผลพวงต่อเนื่องมาจากข้อ 1. เพราะว่าเมื่อคุณเทรดด้วยเงินจำนวนเยอะ เวลากราฟมันร่วงลง คุณก็จะเห็นจำนวนเงินติดลบที่มันเยอะ จิตใจคุณก็จะรู้สึกกังวล กลัวว่ามันจะร่วงไปอีก ก็เลยต้องเปิดดูกราฟอยู่บ่อยๆเพื่อหวังให้กราฟมันเด้งขึ้นแล้วจะทำให้สบายใจ
แต่ถ้าคุณรู้จักใช้ขนาดการเทรดที่เหมาะสม มีการตั้งจุดตัดขาดทุน และคิดไว้ก่อนเสมอว่าถ้าโดนตัดขาดทุนจะเสียเงินในจำนวนที่พอรับได้ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง แค่นี้ความเครียด ความกังวลก็จะหายไปเยอะเลยครับ
3. เทรดแล้วขาดทุน ต้องรีบเอาคืน
ด้วยความที่ธรรมชาติของมนุษย์ไม่ค่อยยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ใจปรารถนาทุกครั้ง การเทรดเพื่อเอาคืนหลังจากที่ขาดทุน จึงเป็นสิ่งที่พบเห็นจากเทรดเดอร์มือใหม่อยู่บ่อยๆ และมักจะลงเอยด้วยการขาดทุนซ้ำเติมเข้าไปอีก จนสุดท้ายก็ต้องหายออกจากวงการกันไป
วิธีแก้คือ คิดบวกเสมอว่าที่เราพลาดครั้งนี้ก็ไม่เป็นไร เรียนรู้ถึงเหตุผลที่ผิดพลาด และรอโอกาสเทรดครั้งใหม่ ไม่ต้องไปรีบร้อนเทรดเอาคืน เพราะมันจะเป็นการเทรดด้วยอารมณ์ ไม่ใช่ด้วยเหตุผล
4. เชื่อมั่นใน Indicator
Indicator ยอมนิยมของเทรดเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น RSI, MACD, EMA รวมถึง Pattern ของกราฟแท่งเทียน หรือแม้แต่ Fibonacci ล้วนถูกเอามาวิเคราะห์ว่ามันเป็นตัวทำนายทิศทางของราคาได้อย่างแม่นยำ แต่พอเทรดเดอร์มือใหม่ได้ลอง กลายเป็นว่ามันนำมาซึ่งการขาดทุนมากกว่าได้กำไรเสียอีก
แล้วควรใช้ Indicator ยังไงให้ถูกวิธี?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า Indicator มันบ่งบอกถึงสภาวะราคาในปัจจุบัน การที่เราใช้มันเพื่อคาดการณ์อนาคตจึงเป็นเพียง "ความน่าจะเป็น" ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะถูกและผิดได้เสมอ จึงไม่ควรเชื่อมั่นใน Indicator มากเกินไป
การใช้ Indicator ไม่จำเป็นต้องเอาหลายๆ Indicator มาวิเคราะห์รวมกัน ส่วนตัวผมใช้แค่ 3 Indicator เท่านั้น จากนั้นลองดูกราฟย้อนหลังหลายๆปีเพื่อพิสูจน์ว่าเงื่อนไขที่เราใช้ มันเพิ่มความน่าจะเป็นในการทำนายทิศทางราคาได้ดีพอหรือยัง และควรนำเงื่อนไขนี้ไปทดสอบกับหลายๆสินค้า ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรือคริปโตก็ตาม
แนะนำให้เทรดเดอร์มือใหม่ ใช้เว็บ www.tradingview.com ในการดูกราฟและใช้ Indicator เพราะค่อนข้างดูได้หลากหลายกว่าในแอพเทรดทั่วๆไป ที่สำคัญคือใช้ได้ฟรีด้วย
อ.ป๊อก
Trader คนหนึ่ง
โฆษณา