6 พ.ค. 2021 เวลา 07:59 • ปรัชญา
ข้าว
จากกิจกรรมการปลูกข้าวของลูก ได้ลองทำไปพร้อมกันกับลูก ตั้งแต่การแช่ข้าวเปลือก นำไปเพาะในกล่องที่วางกระดาษทิชชูชุ่มน้ำ รอเวลาให้ข้าวงอกใช้เวลาสามสี่วัน จะเริ่มงอกต้นอ่อน ในขั้นตอนนี้ถ้าใส่เมล็ดข้าวเปลือกเยอะแน่นเกินไปจะงอกแย่งกันแน่นมาก ไม่สามารถแยกออกมานำไปลงดินได้ สุดท้ายตายหมด จบกันในครั้งแรก
ทำใหม่ครั้งที่สอง แยกเพาะเมล็ดห่างๆรอเวลามันงอกสามสี่วัน รอให้งอกออกมาสูงประมาณ 3-4 เซนติเมตร แยกออกมาลงดินกระถางเล็กๆ ใช้ดินร่วนธรรมดา พอโตสูงได้ 20 เซนติเมตร ครูบอกว่าให้ย้ายลงปลูกในดินเหนียวที่เป็นก้อนแบบที่ใช้ปลูกบัว แล้วใช้กระถางใหญ่ขึ้น ย้ายมาปลูกในดินเหนียวได้ไม่กี่วันก็ใบเหลืองตายหมดสิ้น
เริ่มใหม่อีกครั้งถ้าตายอีกก็จะไม่มีอะไรส่งครูแล้วงานนี้ คราวที่แล้วตายเนื่องจากไม่มีการเตรียมดิน ดินเหนียวมันแน่นมากจนรากไม่สามารถแทงออกไปได้ อีกอย่างต้นข้าวอาจจะเล็กเกินไปยังไม่แข็งแรงพอจึงตาย คราวนี้เตรียมดินโดยแช่น้ำไว้ แล้วผสมกับดินร่วนเพื่อไม่ให้ดินแน่นเกินไป แบ่งออกเป็นสองกระถาง กระถางหนึ่งใช้ดินร่วนเป็นหลักเพราะกลัวมันตายแล้วลูกจะไม่มีส่ง อีกกระถางดินเหนียวเป็นหลัก ตายก็ช่างมันแล้วไม่มีเมล็ดข้าวให้ปลูกอีก กระถางที่ลูกเอาไปส่งครูที่โรงเรียน ต้นข้าวสูงได้ประมาณ 30-40 เซนติเมตร ส่วนกระถางที่เหลืออยู่บ้านก็ปล่อยให้มันเติบโตต่อไป โดยไม่ลืมลดน้ำให้ท่วมกระถางเสมอ
สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็นเริ่มมีรวงข้าว จากบทเรียนการปลูกข้าวครั้งนี้ เราได้เรียนรู้ว่าถ้าทำผิดแล้วแก้ไขปรับปรุง ทำต่อไปย่อมที่จะเห็นผลเข้าสักวัน เราอาจจะไม่รู้ว่าจะเห็นผลนั้นเมื่อไหร่ ขอเพียงให้ทำ ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน แค่เล่าให้ฟัง
โฆษณา