#Hospitel โรงแรมที่พักรูปแบบใหม่ที่คุณต้องรู้จัก ในยุค Covid-19 By A-LISA👩🏻‍💻
Hospital หรือเรียกเป็นภาษาไทยที่เข้าใจง่ายว่า หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ Covid-19 โรงแรมที่พักรูปแบบใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างต่อเนื่องและมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เราทุกคนจึงจำเป็นต้องรู้จักคำว่า Hospitel ค่ะ
Hospitel มาจาจากคำว่า Hospital แปลว่า โรงพยาบาล + Hotel แปลว่า โรงแรม เป็นนโยบายเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดที่มีจำนวนมากขึ้นตามนโยบายของภาครัฐค่ะ ตามแผนรองรับระดับที่ 2 คือการจัดตั้งHospitel หรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจขึ้น ขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 ซึ่งมีผลตรวจเป็นบวก (Positive) แต่อาการของโรคไม่ได้รุนแรง บางคนไม่แสดงอาการของโรค บางคนมีอาการเพียงเจ็บคอและมีไข้เล็กน้อยคล้ายอาการของคนเป็นหวัด แต่อยู่ในระยะที่สามารถแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้
#แนวคิดในการจัดตั้ง Hopitel
✅เพื่อให้โรงพยาบาลหลักมีเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด
✅Hospitel ช่วยขยายพื้นและเพิ่มจำนวนเตียงในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาที่จำกัด
✅ส่งเสริมการดูแลผู้ป่วย Covid-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ
✅สนับสนุนโรงแรมซึ่งช่วงนี้ยังไม่มีดีมานด์จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
#แนวทางเข้าพักรักษาตัวใน Hopitel
❇️ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Covid-19 ไม่สารถแจ้งความประสงค์ขอเข้าพักกับทางโรงแรมได้โดยตรง ต้องให้โรงพยายาลเป็นผู้วินิจฉัยว่าอาการอยู่ในระดับที่จะเข้ารักษา กักตัวเองใน Hospitel ได้หรือไม่
❇️ต้องให้ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ไปรับและส่งตัวผู้ป่วยมาที่ Hospitel เท่านั้น ผู้ป่วยไม่สามารถ walk-in เข้ามาได้โดยตรง
❇️เหมาะกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน และมีผลภาพถ่ายรังสีปอดคงที่
❇️ผู้ป่วยยินดีให้ความร่วมมือ สามารถสื่อสารได้รู้เรื่อง ดูแลตนเองได้ดี ไม่ก้าวร้าวและไม่มีความเสี่ยงทางจิตเวช
❇️ผู้ป่วยต้องเป็นผู้ใหญ่ที่อายุไม่เกิน 50 ปี ไม่เป็นสตรีตั้งครรภ์ กรณีมีโรคประจำตัวต้องควบคุมอาการได้ดี
❇️ต้องจัดยาให้พร้อม สำหรับผู้ป่วยรับประทานยาด้วนตนเองจนครบตามแผนการรักาาของแพทย์
❇️โรงพยาบาลต้นสังกัดต้องยินดีรับผู้ป่วยกลับเข้ารักาาที่โรงพยาบาล หากผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง
#เกณฑ์มาตรฐานในการนำโรงแรมมาเปลี่ยนเป็น Hospitel
❇️จะต้องเป็นโรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 30 ห้องขึ้นไป มีเกณฑ์สำหรับโรงแรมที่จะเปลี่ยนเป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจครอลคลุม 5 ด้าน ได้แก่
หมวด 1 โครงสร้างอาคารและวิศวกรรมความปลอดภัยพร้อมเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน
หมวด 2 บุคลการทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเกี่ยวกับาตรการด้านสุขภาพ
หมวด 3 ติดตั้งวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น
หมวด 4 ความพร้อมด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
หมวด 5 มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อชุมชนและระบบการจัดการของเสีย
#อัตราค่าบริการของ Hospitel
ค่าใช้จ่ายรายหัวของ Hospitel อยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท/14 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรม ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ได้แก่ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร 3 มื้อ ค่าชุด PPe ค่าบริการบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น
คนไทยที่ติดเชื้อและได้รับบริการที่ Hospitel จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดค่ะ เพราะรายจ่ายดังกล่าวสามารถเข้าไปเบิกกับประกันสังคมหรือบัตรทองได้ค่ะ ส่วนคนที่มีประกันส่วนบุคคลก็สามารถใช้ได้ถ้าวงเงินไม่พอก็สามารถไปเบิกส่วนต่างกับประกันสังคมหรือบัตรทองได้เช่นกันค่ะ
ทุก Hospital จะต้องมีแพทย์ประจำ 1 คน มีอัตราส่วนพยาบาล 1 คนต่อ 20 เตียง มีการตรวจคนไข้ผ่านเทเลเมดิซีน และแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารได้ มีการเยี่ยมผู้ป่วยทุกวัน พร้อมทั้งมีเครื่องมือพื้นฐานต่าง ๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือ เครื่องเอกซเรย์ เป็นต้น
#โรงแรมกักตัว หรือเรียกว่า ASQ ย่อมาจาก Alternative State Quarantine 😷
เมื่อรู้จักกับ Hospitel กันแล้ว ก็ควรต้องรู้จักโรงแรมอีกประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของCovid-19 ด้วยนะคะ โรงแรมประเภทนี้เรียกกันว่า โรงแรมกักตัวค่ะ หรือรู้จักกันดีในชื่อ ASQ ย่อมาจาก Alternative State Quarantine หมายถึงเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก และปัจจุบันได้เพิ่ม ALQ ย่อมาจาก Alternative Local State Quanrantine คือโรงแรมกักตัวระดับจังหวัดซึ่งตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพฯเพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ
สำหรับ ASQ กับ ALQ นั้น เป็นกระบวนการกักตัวในระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด สำหรับผู้ที่เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทุกคนที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยใช้สถานประกอบการธุรกิจโรงแรมเป็นสถานที่กักตัวเพื่อการเฝ้าระวัง
✳️คำนิยาม
Alternative State Quarantine หมายถึง การกักกันผู้เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักร โดยใช้สถานประกอบการธุรกิจโรงแรม
✳️ข้อกำหนดสถานที่จะเข้าร่วม
โรงแรมต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงกรณีดัดแปลง
สถานที่ที่รัฐกำหนด
✳️กลุ่มเป้าหมาย
ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และไม่มีอาการที่เข้าเกณฑ์สอบสวน โรคโควิด-19 (Patient under investigation)
✳️ลักษณะของที่พัก
- เป็นห้องส่วนตัว
- มีห้องน้ำส่วนตัว
- มีผู้จัดหาอาหารและของใช้จำเป็นให้ได้ ไม่ต้องออกไปจัดหาด้วยตนเอง
✳️ข้อปฏิบัติของผู้เข้าพัก
-อยู่ในห้องส่วนตัว หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นในที่พัก (Social Distancing)
-ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น
-แยกสิ่งของส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น จาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว
-ไม่ร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่น ถ้าเตรียมอาหารในโรงแรมบริเวณที่มีผู้อื่นอยู่ควรให้ผู้อื่นจัดหามาให้แล้วแยกรับประทานคนเดียว
-ซักเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ฯลฯ ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอกถ้าทำได้ซักผ้าด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิน้ำ 60-90 องศาเซลเซียส
-แยกถุงขยะของตนต่างหาก
✳️ขั้นตอนการได้รับการรับรองโดยรัฐ
✅โรงแรมสมัครเข้าร่วมและประเมินตนเองตามเกณฑ์แนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหมกำหนด
✅ประเมินความพร้อม ร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหม
✅โรงแรมจำเป็นต้องจัดรูปแบบบริการตามกำหนดที่ชัดเจน นำเสนอต่อคณะกรรมการร่วมกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหม
✅ประกาศ โรงแรมได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ Alternative State Quarantine ในเว็บของกระทรวงสาธารณสุข (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) และกระทรวงกลาโหม
#กระบวนการตัดสินใจ
✅ต้นทาง : โดย กระทรวงต่างประเทศแจ้ง Alternative State Quarantine ให้ชาวไทยและชาวต่างชาติทราบ ณ.ประเทศต้นทาง ให้มีการลงทะเบียนความต้องการที่ประเทศต้นทางและระบุสถานที่พัก Alternative State Quarantine ในแบบแสดงความจำนง ร่วมกับได้รับคำตอบรับจากสถานที่พัก Alternative State Quarantine เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
✅ปลายทาง : แจ้งใบแสดงความจำนง Alternative State Quarantine ณ EOC สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา) หลังจากนั้นการนำส่งผู้เข้าพักจากสนามบินถึงโรมแรม Alternative State Quarantine ดำเนินการ โดยโรงแรมที่ได้รับอนุญาต รวมถึงการทดสอบเชื้อโควิด-19 และการให้บริการทางการแพทย์ เป็นการดำเนินการ ของโรงแรมและโรงพยาบาลคู่สัญญาปฏิบัติการร่วม (Cooperate Hospital)
✳️ลักษณะของ Alternative State Quarantine ต้องมีองค์ประกอบหลัก 6 หมวด ดังนี้
หมวด 1 โครงสร้างอาคารวิศวกรรมความปลอดภัยและระบบสื่อสารสารสนเทศ
หมวด 2 บุคลากร (ต้องได้รับการอบรมก่อนปฏิบัติงาน)
หมวด 3 วัสดุ อุปกรณ์สำนักงาน และอื่นๆ
หมวด 4 ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
หมวด 5 การจัดการสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรกับชุมชน
หมวด 6 โรงพยาบาลคู่สัญญาปฏิบัติการร่วมและความสะดวกสบายเพิ่มเติม
เครดิตข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน​โควิด 19 กระทรวงสาธารณะสุข
หวังว่าข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 นะคะ และในสถานการณ์แห่งความยากลำบากนี้ ก็คงจะเป็นบทพิสูจน์ความอดทนของผู้ประกอบการโรงแรมอีกหลายแห่ง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าทุกอย่างนั้นมีสองด้านเสมอ วันนี้แม้ว่าจะเราจะเจอความยากลำบากแต่เรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็สอนเราว่าโรคร้ายที่เกิดขึ้นนี้สักวันหนึ่งมันก็ต้องหายไปได้เหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา และเมื่อเวลานั้นมาถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเราก็จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากนั้นอัดอั้นกันมานานแล้วค่ะ
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
👉📲หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
โฆษณา