พบว่าจากตารางด้านล่าง มีเพียง แค่ 5 ปีจาก 20 ปี เท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนติดลบ ซึ่งหมายความว่าเรามีโอกาสมากถึง 75% ที่จะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง Sell in May
ผลตอบแทนเฉลี่ยของ Nasdaq ในแต่ละช่วงเวลา
แนวโน้มของ Sell in May ในช่วงเวลา 20 15 10 และ 5 ปีย้อนหลัง จะให้ผลตอบแทน 4.17% 5.31% 7.22% และ 9.7% ตามลำดับ จึงสรุปว่า Sell in May ในตลาดหุ้น Nasdaq มีผลน้อยมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะตลาดนี้เป็นตลาดหุ้น Tech จึงมี Growth สูงมาก เป็นมีความเป็น Bullish market มาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นผมขอพาย้อนกลับมาดูตลาดหุ้นไทยกันบ้างว่าผลของ Sell in May เป็นอย่างไร
ผลตอบแทนตลาดหุ้น SET Index ในช่วงเวลา 20 ปี
จากสถิติย้อนหลังพบว่า มีเพียง 9 ปีจาก 20 ปีเท่านั้นที่มีผลตอบแทนในช่วง Sell in May ที่เป็นบวก ซึ่งคิดเป็น 45% เท่านั้นที่เราจะได้กำไรในช่วงนี้
ผลตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index ในแต่ละช่วงเวลา
แม้ว่าเราจะมีโอกาสขาดทุน ถ้าถือครองหุ้นตามดัชนี SET Index แต่ผลตอบแทนที่ได้ใน 20 15 10 และ 5 ปีย้อนหลัง ก็คือ 4.36% 1.89% -1.39% และ-0.47% พบว่า Sell in May มีผลมากขึ้นกับตลาดไทย อาจจะเป็นเพราะตลาดหุ้นไทยเริ่มมีการชะลอตัวลงในภาพรวมก็ได้
สรุปผลตอบแทน Sell in May ในตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 2 ตลาดมีแนวโน้มเกิดขึ้นน้อยลง แต่ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเกิดขึ้นได้สูง อย่างไรก็ตาม การเชื่อว่าจะเกิด Sell in May แล้วขายทิ้งทั้ง Port ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะอย่างไรก็ตามในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าลงทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (20 ปี) ก็ยังสร้างผลตอบแทนให้แก่ Port อยู่ดี