7 พ.ค. 2021 เวลา 14:58 • สุขภาพ
ยาฟาวิพิราเวียร์ในไทย
ยาฟาวิพิราเวียร์ในไทย
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย เขียนข้อความในเฟซบุ๊กให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาชนิดนี้ว่า ได้รับการจดทะเบียนยาและอนุมัติให้ใช้ในผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีพิเศษสำหรับการระบาดระลอกแรกในไทย โดยให้ใช้เฉพาะในผู้ป่วยที่มีปอดอักเสบรุนแรง เนื่องจากมียาจำกัด และการเก็บข้อมูลย้อนหลังโดยคณะทำงานพบว่า ยานี้น่าจะช่วยลดความรุนแรงและการสูญเสียจากโรค และมีความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากยานี้ไม่มีใช้ในประเทศทางตะวันตก จึงไม่มีข้อมูลเชิงวิชาการที่หนักแน่นรองรับ แต่คณะกรรมการจัดเตรียมยาของประเทศก็ได้จัดเตรียมไว้ให้เพียงพอในระลอกสอง ซึ่งไม่เกิดปัญหา เพราะมีอัตราการใช้ราว 20% ของผู้ป่วยทั้งหมด
ในระหว่างนั้น คณะกรรมการวิชาการได้ขยายข้อบ่งใช้ให้ครอบคลุมตั้งแต่ปอดอักเสบขั้นต้น และผู้ป่วยที่อาจเกิดปอดอักเสบรุนแรง ซึ่ง รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ในนามสมาคมอุรเวชช์ฯ ได้ทำเรื่องเสนอคณะกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อบรรจุยานี้ไว้สำหรับให้ทุกโรงพยาบาลจัดซื้อได้เอง เพื่อให้มีใช้งานเพียงพอ
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างดำเนินการนี้ เกิดศึกระลอกสามตามมาอย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ป่วยเพิ่มแบบทวีคูณควบคู่ไปกับยอดการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยมีอัตราการใช้ระหว่าง 20-70% แล้วแต่ความสะดวกการเข้าถึงยาในพื้นที่ เป็นที่มาของความฉิวเฉียดของการมียาสำรองใช้เกือบไม่เพียงพอ ทว่ามียาต้นแบบจากญี่ปุ่นที่สามามารถนำเข้ามาได้ทันจำนวน 2.2 ล้านเม็ด ซึ่งรักษาผู้ป่วยได้ราว 30,000-40,000 คน
"เกณฑ์การให้ยาต้านไวรัส โดยเฉพาะฟาวิพิราเวียร์ เราให้เร็วขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับให้ทุกคนนะครับ" อธิบดีกรมการแพทย์กล่าว
นพ.สมศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ยาฟาวิพิราเวียร์แบบเหวี่ยงแหมีข้อเสียหลายประการ โดยเฉพาะอาการข้างเคียง อย่างตับอักเสบ และอาจนำมาซึ่งเชื้อดื้อยาได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้เชี่ยวชาญเป็นห่วง อีกทั้งข้อมูลผู้ป่วยกว่า 80-90% ที่ไม่มีอาการและไม่มีโรคร่วมไม่มีการแสดงอาการแย่ลง จึงไม่มีความจำเป็นในการรับยา
"เราก็ต้องเก็บยา (ฟาวิพิราเวียร์) ซึ่งเป็นเหมือนอาวุธสำคัญไว้ใช้ เราจึงไม่อยากเหวี่ยงแห"
โฆษณา