7 พ.ค. 2021 เวลา 16:29 • หนังสือ
📚จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
นี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ
하마터면 열심히 살 뻔했다
นี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ
“ ชีวิตไม่เคยยุติธรรม คำพูดว่าความเพียรชนะทุกสิ่งนั้นโกหกทั้งเพ “
🍀🍀🍀
“ ถ้าตัดใจจากหนทางอื่น ๆ ที่ว่าได้ตั้งมาก จะมีเหตุผลอะไรให้เราตัดใจจากเส้นทางเดียวที่ดันทุรังอยู่ไม่ไหว หากทุกข์นักก็ปล่อยมือเสีย ยอมแพ้บ้างก็ไม่เห็นเป็นไร ชีวิตมีหนทางเดียวที่ไหนกัน “
“ การตัดสินใจเลือกอาจดูถูกต้อง ณ ตอนนั้น ทว่าพอเวลาผันผ่านก็อาจมอบผลลัพธ์ผิดพลาดเช่นเดียวกัน การตัดสินใจที่เคยคิดว่าพลาดก็อาจสร้างผลลัพธ์ดีงามในเวลาต่อมา ไม่มีใครล่วงรู้อนาคต แล้วจะทรมานตัวเองทำไม “
“ เราต้องใช้ชีวิตโดยปรับให้ตรงกับอัตราความเร็วของคนอื่นเท่านั้นหรือไง ทั้งที่ผู้คนต่างบอกเกลียดการใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่น แล้วทำไมถึงยังฝืนใช้ชีวิตให้ดำเนินด้วยความเร็วเดียวกันอีกเล่า ทำไมถึงกระวนกระวายหากรั้งท้าย ต่อให้รั้งท้ายและช้ากว่าจริง จะถือเป็นปัญหาร้ายแรงหรือ “
นับว่าเป็นหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตน ที่เรียกได้ว่าสวนทางกับหนังสือจิตวิทยาอื่น ๆ เราอาจเคยอ่านหนังสือในประเภทนี้ และหนังสือก็บอกให้เราตั้งใจในรูปแบบไหนถึงจะไปถึงเส้นชัย เดินเส้นทางไหนถึงจะประสบผลสำเร็จตามที่หวังเอาไว้ แต่กลับกัน ตัวเขาได้ถ่ายทอดให้เห็นแล้วว่า เราใช้ชีวิตแบบขยันหมั่นเพียร เพื่อที่จะมีชีวิตแบบนี้เนี่ยนะ (แบบเป็นทุกข์เมื่อรู้ว่าจะถึงวันจันทร์อีกแล้วสินะ) เขาจึงหันเหทิศทางนั้น เพื่อเบนเข็มสู่ “การตามใจตัวเองสักครั้ง” จึงลาออกจากงานที่ทำประจำและทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากทำ
ในหนังสือ ผู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง จากความพยายามที่ทุกคนนั้นเคี่ยวกรำกันนักกันหนาว่าถ้าพยายามแล้วจะประสบความสำเร็จ ตัวเขาเองก็เคยเป็นแบบนั้นจากการพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องเป็นที่นี่เท่านั้นถึงสี่ครั้ง! (แต่อันที่จริงมีคนสอบเข้ามากถึงเจ็ดครั้งถึงผ่าน!!!) แต่สุดท้ายกลับพบว่าไม่ได้รู้สึกยินดีมากขนาดนั้น เพราะโลกความเป็นจริงคือต้องทำงานหาเงินจ่ายค่าหน่วยกิต เรียนที่นี่แล้วจะมีบริษัทใหญ่ ๆ ทาบทามไปทำงานก็เป็นเพียงข่าวลือ แต่ละคนต่างยุ่งกับการตามหาเส้นทางชีวิต แต่เขากลับคือ “คนหลงทาง”
และหากลองสักสองสามครั้งไม่เป็นผล ทั้ง ๆ ที่ก็มีเป้าหมายและพยายามสุดกำลัง การยอมแพ้ จึงเป็นการไม่แขวนชีวิตจิตใจทำสิ่งใดสุดโต่ง เพราะบางครั้งความเพียรก็หักหลังเรา แอดมินชอบที่คนเขียนบอกว่า ทั้ง ๆ ที่เราเกลียดการใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่น แต่เราต้องปรับอัตราเร็วให้เหมือนกับคนอื่นเนี่ยนะ หากเทียบกับลู่วิ่งเขาก็ให้คนอื่นออกตัวนำไปก่อนเลยและบอกคนอื่นด้วยว่าฉันช้า เชิญไปก่อนเลยนะ ไม่กระวนกระวายหากยังรั้งท้ายและถึงแม้ว่าเขาจะออกมาขอใช้ชีวิตตามใจตัวเองบ้าง เลือกเสพอิสระให้ชุ่มเต็มปอด เมื่อคิดถึงเงิน แต่ก็คงต้องกลับไปทำงานเพราะเราไม่สามารถเลือกอิสระกับเงินได้ในเวลาเดียวกันขนาดนั้น เพียงแต่ได้ลองทำอะไรที่งานประจำไม่เคยให้ได้
และอีกหนึ่งสิ่งที่ชอบคือ เขาจะไม่ซื้ออะไรโดยที่ตัวเองไม่สามารถหามาจ่ายได้ในปัจจุบัน อย่างเช่น เขาเป็นคนชอปปิ้งออนไลน์บ่อยมาก ในนั้นมีฟังก์ชันตะกร้าให้กดสินค้าใส่ก่อน นานเข้าทำให้คิดว่า เอ...เราก็เริ่มไม่อยากได้หรือสินค้านั้นนี่นา หรือนานไปสินค้าดันหมดเสียก่อน ทำให้ลดความอยากได้ลง จึงได้คิดว่าเราคงไม่อยากได้มันจริง ๆ และไม่มีความจำเป็น อีกทั้งการเป็นหนี้ ที่หมายถึงการกู้เงินมาซื้อบ้านแทนการเช่าอาศัย แต่อย่างไร ดอกเบี้ยก็ต้องจ่ายอยู่ดี มีบัตรเครดิตก็เหมือนเป็นการก่อหนี้รูปแบบหนึ่งโดยดึงเงินในอนาคตเรามาใช้ก่อนดังนั้นเขาจึงเกลียดการก่อหนี้ทุกรูปแบบ ก็อย่างว่านั่นแหละนะ ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ปลอดหนี้
แต่ถึงอย่างไร เราก็ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางในชีวิตแบบไหนคือดีที่สุด และชีวิตมีเส้นทางเดียวที่ไหนกัน เส้นทางที่คนอื่นว่าดีอาจไม่ใช่เส้นทางที่ต้องการเมื่อลองสัญจรตามที่นักเขียนบอก
นักเขียน : ฮาวัน
นักแปล : ตรองสิริ ทองคำใส
สำนักพิมพ์ : สปริงบุ๊กส์ (springbooks)
โฆษณา