31 พ.ค. 2021 เวลา 08:12 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
'ไชอา เลอเบิฟ' กับบทบาทที่ดีที่สุด ในหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์ & แนว ultra ~ realistic
'Fury' ( ชื่อภาษาไทย 'วันปฐพีเดือด' ) 🧭⏳⏰
จากเกร็ดเล็กๆ ประวัติศาสตร์ตอน๑ ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ในสงครามโลกครั้งที่๒
ที่กล่าวถึงกองกำลังรถถังเพียงคันเดียว เข้าต่อสู้แบบพลีชีพ เพื่อต้านกองกำลังใหญ่ฝ่ายนาซี ที่ต้องการปกป้องฐานที่มั่นกลางกรุงเบอร์ลิน
กระทั่งปฏิบัติการครั้งนี้ มีส่วนพลิกผันต่อชัยชนะ ของฝ่ายพันธมิตรได้ในที่สุด
และ 'Fury' คือชื่อของรุ่นรถถังคันนี้ ที่กลุ่มทหารเพียงไม่กี่นาย ใช้เป็นที่มั่นสุดท้าย ในร่วมรบ & ต่อสู้กับทัพทหารนับร้อยๆ นายฝ่ายนาซี
แม้จะรู้ดีว่า ไม่มีโอกาสที่จะรอดชีวิตกลับออกไปได้
ก่อนอื่นใด ดิชั้นออกตัวก่อนค่ะ
ว่าแท้จริง ตนเองไม่ใช่ big fan ของพระเอกหน้าเด็กคนนี้ แต่อย่างใด
ก็แค่เห็นว่า ที่ผ่านๆ มา บทบาทการแสดงของฮีไม่ได้ขี้เหร่อะไรนัก
ดิชั้นก็ดูๆ ไปงั้นล่ะค่ะ ไร้ความรู้สึกใดๆ ในความโด่งดัง & ทั้งยังไม่คิดจะติดตามสักเรื่อง ไม่ว่าจะหนังแนวไหนก็ตาม ที่ฮีนำแสดง
แต่พอกับเรื่องที่ฮีไม่ใช่ดารานำน่ะสิคะ ดิชั้นถึงกับสะดุดกึกเลย
เพราะเรื่องนี้ นักแสดงนำตัวหลัก เป็น 'แบรด พิตต์' & 'โลแกน เลอแมน' ต่างหากล่ะคะ
( หนุ่มน้อยผู้นี้ หล่อใสมว้าากกกค่ะ บอกเลย อ่ะคริๆ ) 😊🌈💝
แต่เห็นรวมหนุ่มหล่อๆ & หน้าใสๆ ( แม้สำหรับพี่ 'พิตต์' แล้ว จะถือว่าคืออดีตก็เถอะ )
แต่ทว่า ... เฮลโหล๊ววว์
ตื่นค่ะตื่นก่อนเลยจ้ะ สาวๆ จ๋าาา
นี่คือหนังสงครามค่าาา.. หึหึ
จะให้หล่อใสสักแค่ไหน แต่ในบทของทหารกลางศึกสงคราม ก็ย่อมออกจะ เลอะๆ เขลอะๆ กันทั้งเรื่องอยู่ดีล่ะค่ะ
( จะมีช่วงน่ามอง & เลิฟซีนน่ารักๆ ก็แค่ ๗~๘ นาทีเอ๊งง... ) เฮ้อๆๆ
งั้นดูจากรูปในโพสต์นี้ดีกว่าค่ะ ครุๆ คริๆ 🤩🌸💕
'Logan Lerman'
และช่วงแรกๆ ของเรื่อง น้องใหม่หน้าใส พลฯ 'เอลิสัน' ที่รับบทโดย 'เลอแมน'
ด้วยพฤติกรรมทื่อๆ ใสๆ ในสไตล์หนุ่มน้อย ( ถูกใจผู้ชมสาวๆ อ่ะคริๆ )
1
แต่กลับเป็นการล่อเป้า ชวนให้รุ่นพี่ในกองกำลังรถถัง กระหน่ำบุลลี่ใส่รัวๆ กันเป็นที่สำราญใจ ( ของรุ่นพี่แต่ฝ่ายเดียว) อย่างคึกคะนอง
จนร้อนถึง 'วอร์แด๊ดดี้' (พิตต์ ) ผู้กองประจำหน่วย ต้องคอยมาเคลียร์ & การ์ดบ้างไรบ้าง
เพื่อจะลดความวุ่นวาย & ทั้งบรรยากาศมาคุกลางศึก ให้คงความปรองดอง เพื่อจุดมุ่งหมายที่ให้พร้อมใจจะร่วมสู้รบกันต่อไป
ส่วนบท'ไบเบิล' ของ 'ลาเบิฟ' นั้น
ดิชั้นดูยาวไป ซะจนเกินครึ่งเรื่องนั่นล่ะค่ะ
ถึงจะร้องดังๆ ขึ้นมา ( ภายในใจ ) ว่า 'เฮ้ย! นี่มันไชอา ลาเบิฟ นี่หว่า!! เป็นไปด้ายย?!?'
คือ สภาพฮีเปลี่ยนไปมากๆ จนจำแทบไม่ได้เล้ยย... พับผ่าเหอะ!!!
เพราะฮีรับบทบาทได้เสงี่ยมเจียมตัวมากๆ ไร้ซึ่งราศรีแรงกล้าของดาราดัง
1
แต่เมื่อถึงจุดสำคัญของเรื่อง ฮีก็เปิดสวิตช์เปล่งประกายได้ในทันที
ว่านี่ล่ะ คืออีกคีย์แมนแสนสำคัญของเรื่องอีกคน
1
'ไบเบิล' เป็นพลฯปืนประจำรถถัง ที่เชื่อมั่นในพระเจ้าอย่างที่สุด สำหรับเขาแล้ว พระเจ้านั้นอยู่ในทุกสถานที่
จึงทำให้ดิชั้นอดไม่ได้ ที่จะย้อนนึกไปถึง พลฯแม่นปืนหน้านิ่ง แห่ง 'Saving Private Ryan'
ที่พี่แกลั่นไกไป ก็สวดบทสรรเสิญพระเจ้าไปด้วย ( งี้ก็ได้หร๋าา..? )
1
แม้ดูแล้ว ช่างขัดหูขัดตาในความรู้สึกมนุษย์สายสงบเช่นเราๆ
แต่นี่ล่ะค่ะ คือ สงคราม ดังคำกล่าวที่ว่า
'ในสงคราม สิ่งที่กระทำลงไปนั้น ไม่ใช่เพียงคนชั่วหรอกที่ลงมือ คนดีๆ ก็กระทำการแบบนั้นเช่นเดียวกัน'
'วันหยุดน่ะ มันจบไปแล้ว!!' ( เผอิญว่า ภาพนี่เป็น 'มีม' ดังอ่ะค่ะ เลยเอามาเล่นมั่ง )
และช่วงซีนไคลแม้กซ์ก่อนจบ ( ที่ดิชั้นแอบเรียกว่าท่อนฮุค เพราะดูแล้วทั้งลุ้นทั้งจุกๆ แน่นๆ ในความรู้สึก )
ในบรรยากาศที่พี่น้องร่วมสายเลือด ( ในสงคราม ) ทั้ง ๕
ต่างยินยอมพร้อมใจ ที่จะฝากลมหายใจสุดท้าย ไว้ภายในรถถังฟิวรี่
1
ก็จนได้ค่ะ ทำให้อดไม่ได้อีก ที่จะนึกถึงหนังสงครามระดับเอพิค '300'
ว่าด้วยประวัติศาสตร์การศึก ที่ยกย่องความหาญกล้า ของเหล่านักรบแห่งสปาตาร์ ที่มีกำลังเพียง ๓ร้อยนาย เข้ารบแบบพลีชีพต่อกองทัพเปอร์เซียที่มีกำลังพลนับแสน
ที่สุดแล้ว แบบฉบับของหนังสงครามก็เช่นนี้ล่ะค่ะ หายากที่จบได้สวยสดงดงาม
รวมทั้งซีนตอนจบของเรื่องนี้ก็เช่นกัน
มุมกล้องสุดท้าย ที่เคลื่อนสูงห่างออกมาเรื่อยๆ
จนเห็นทุ่งสงคราม ที่มีเพียงเศษซากหักพัง และศพทหารที่นอนก่ายกองหลายร่างแทบนับไม่ถ้วน
จนดูราวกับฝันร้ายที่พบได้ ก็เฉพาะในขุมนรก
ยิ่งช่วยตอกย้ำ ต่อถ้อยคำ๑ ที่กล่าวไว้ ...
'War is Hell' ⏰⏳🍁
หมายเหตุ ; เหตุที่รูปหน้าของ 'เลอเบิฟ' ในเรื่องนี้ เปลี่ยนไปมากนั้น
นอกจากเพราะทรงผม & หนวดเครา
เขายังถอนฟันออกไปด้วย เพื่อให้เข้ากับบทบาทค่ะ
2
โฆษณา