โกรธดีไหมนะ ? 😡
ถ้าเราโกรธแล้วเราทำผิดไหม
ทำไมคนที่โกรธ มักจะรู้สึกผิดละ
สำหรับตัวเราผู้ซึ่งมีความเชื่อว่าความโกรธก็มีประโยชน์ของมัน ไม่งั้นคงไม่ต้องมีอารมณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในตัวเรา บ่อยครั้งคนที่แสดงอารมณ์โกรธ มักจะถูกตัดสินในแง่ลบ จนทำให้หลายคนพยายามที่จะข่มอารมณ์โกรธไว้ พยายามทำตัวให้ดูเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกแง่บวก เป็นคนเฟรนลี่ แม้ว่าจะได้รับการกระทำที่ไม่ยุติธรรมก็ตาม คำถามคือทำไมละ ทำไมเราถึงถูกห้ามไม่ให้โกรธ? แล้วการข่มอารมณ์โกรธไว้มันดีต่อสุขภาพจิตเราหรือไม่ โดยเฉพาะในสถานการณ์คับขันอย่างปัจจุบันเช่นนี้
จากที่ได้ฟัง Podcast R U OK EP.229 ซึ่งคุณดาวและคุณฝ้าย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการ ได้แบ่งปันในฐานะนักจิตบำบัดว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะปล่อยให้มีความโกรธเกิดขึ้น เวลาที่เราเจอปัญหาบางอย่างที่เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรม หรือมันไม่ถูกต้อง หรือในช่วงเวลาที่ท้อแท้ หดหู่ และสิ้นหวังท่ามกลางสถานการณ์การบริหารจัดการโรคระบาดในเวลานี้
และคำตอบที่ทั้งสองท่านแนะนำก็คือ คุณควรปล่อยให้อารมณ์โกรธเกิดขึ้นสักชั่วเวลาหนึ่ง รับรู้การมีอยู่ของอารมณ์โกรธ โดยที่ไม่พยายามทำให้มันเป็น Toxic ต่อคนรอบข้างโดยไม่จำเป็น เพราะอารมณ์โกรธบางครั้งก็เป็นวิธีการระบายความเครียด บางครั้งก็เป็นระบบที่ปกป้องตัวเรา และแน่นอนการข่มอารมณ์โกรธไว้ภายใต้ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มปลอมๆ ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาวอย่างแน่นอน
เมื่อเราอยากปลดปล่อยอารมณ์โกรธ เศร้า เซ็ง หรืออารมณ์ด้านลบอะไรก็ตาม เราควรมีใครสักคนที่เราเข้าไปหาเขาได้ พูดคุยกับเขาในประเด็นเรื่องที่เราต้องการจะระบายได้ โดยที่ต้องกำหนดเงื่อนไขกับคนๆ นั้นตรงๆ ว่า เราแค่อยากพูดให้ฟัง เราต้องการคนรับฟังที่ไม่ตัดสินเรา และคนที่มีความรู้สึกร่วมในแบบเดียวกับเราเพื่อช่วยกันประคับประคองความรู้สึกของกันและกัน ให้สามารถผ่านห้วงอารมณ์และกลับไปรับมือกับปัญหาด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ในฐานะที่เราเป็นคริสเตียนคนหนึ่ง และเคยเป็นคนที่มีอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงเมื่อได้รับการกระทำที่ตัวเราคิดว่าไม่ถูกต้อง เมื่อเราได้รู้จักพระเจ้า เราได้รับการเปลี่ยนแปลงความคิดอย่างหนึ่งจากพระคัมภีร์ตอนหนึ่ง คือ …
“จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่”
เอเฟซัส 4:26
สมัยก่อนเราอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้และเราเข้าใจว่า โอเค เราจะโกรธถึงตะวันตกดินเราถึงจะยอมให้อภัยที่้ทำให้เราโกรธ เพื่อเราจะไม่ทำบาปต่อพระเจ้า ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเพราะเป็นการสร้างเงื่อนไขแบบที่เราพึงพอใจ แต่ไม่ใช่ความจริงที่พระเจ้าต้องการให้เราทำเลย เพราะพระเจ้าปรารถนาให้เรามีการคืนดี ให้เรามีใจที่ให้อภัยคนอื่นง่ายๆ และไม่คิดอาฆาตแค้น อย่างที่พระเยซูเป็นแบบอย่างให้กับเรา
การโกรธที่ไม่เป็นบาป ที่พระเจ้าให้คริสเตียนได้รู้จัก ก็เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับที่นักจิตบำบัดได้แนะนำก็คือ เราสามารถแสดงความโกรธได้ แต่สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการความโกรธที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ให้ทำลายความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่น เพราะหากเราระบายความโกรธโดยไม่คิด ความโกรธนั้นก็ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น หรือหากเรากดความรู้สึกโกรธนั้นไว้ จิตใจภายในของเราเองก็เกิดความขมขื่น และทำร้ายตัวเราเอง
และที่ดีสุดสำหรับเราเอง เราเลือกที่จะระบายความโกรธของเราไว้กับพระเจ้า เราเล่าให้พระองค์ฟังถึงความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น และแน่นอนเรารู้ว่าพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือและดูแลเราเสมอ
ขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปอย่างมีสันติสุขได้มากขึ้นนะคะ :)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
