10 พ.ค. 2021 เวลา 23:12 • สุขภาพ
ทำไมจึงไม่อยากไปทำงานหลังวันหยุดยาวววววววววว​วว​วว​วว​วว​วว​วว​วว....
1
มุกเก่าๆที่ยังต้องไปทำงาน วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง? หลังจากวันหยุดยาว แต่ละครั้งคุณรู้สึกว่างเปล่าและหดหู่เป็นพิเศษ ,ไม่อยากเรียน.ไม่อยากทำงาน ,อยากเดินเตร่ไป-มาในสำนักงาน หรือนั่งสลดอย่างหยิ่งผยอง หรือไม่?
1
คุณไม่ใช่คนเดียวที่เป็นแบบนี้
1
ในทางจิตวิทยาเรียกว่ากลุ่มอาการหลังการพักร้อน (Post-vacation blues)
1
โดยทั่วไปอาการนี้จะเกิดขึ้นหลังจาก การเดินทางท่องเที่ยว หรือวันหยุดพักผ่อนที่ยาวมากกว่า2วัน และมักทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
ในระดับหนึ่งการตอบสนองทางอารมณ์เหล่านี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า ระดับโดปามีนในสมอง
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อโดปามีน อาจเป็นเพราะมันรู้สึก "ถูกใจ" (ชื่อจะออกแนวเกาหลี​หน่อยๆ)​
3
มันเหมือนกับการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดอันแสนสุข การเดินทางจะกระตุ้นสมองให้ผลิตโดพามีนและทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ
อย่างไรก็ตาม ในความคิดผม... เจ้าโดปามีนไม่ได้เป็น "โมเลกุลแห่งความสุข" แต่เป็น "โมเลกุลแห่งความปรารถนา" ต่างหาก​
1
เพราะจริงๆแล้วโดปามีนสามารถเสริมสร้างความปรารถนา และความคาดหวังของคุณได้ดีกว่าการสร้างความสุข
และสามารถทำให้คุณมีความปรารถนา และแรงจูงใจที่ถูกต้อง
ความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ
___ มันเต็มไปด้วยแรงจูงใจ____
และยังอาจทำให้เกิดความปรารถนาที่คุณอาจจะ
____ควบคุมมัน.... ไม่ได้____
1
ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรม การติดยาเสพติด หรือภาวะซึมเศร้า
1
การเข้าใจ...โดปามีน
คือการเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และตัวเอง
1
คุณต้องกล้าที่จะ....เปิดประตูแห่งความปรารถนา
ก่อนที่คุณจะพูดว่า "ไม่มีความปรารถนาทางโลกเช่นนี้" คุณอาจต้องประเมินความต้านทานของสมองต่อ "โมเลกุลแห่งความปรารถนา"นี้น้อยไป
เพราะ​ในชีวิตประจำวันนั้น....เรามักจะสัมผัสได้ถึงความ....กระหาย
คุณเมย์( https://www.blockdit.com/mymaytravel )ผู้ซึ่งมักจะตะโกนว่าจะลดน้ำหนัก รู้ดีว่าชานมไข่มุกปราศจากน้ำตาลหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่เกือบ 300 แคลอรี่ แต่เธอก็ยังไม่สามารถยับยั้งมือในการสั่งซื้อได้
5
คุณเฉา( https://www.blockdit.com/pages/5eb332cf4a0b280c77dcf56d )ซึ่งตั้งใจจะเลิกเขียน BDเนื่องจากมีปัญหากับระบบของ AI ที่แม่งปัญญาอ่อน..เฮ้ยยย!!ภายใต้แรงกดดันของโฆษณาให้บูตส์ติดต่อกันหลายครั้ง
7
ป้าป๋อมแป๋ม( https://www.blockdit.com/mamapom )ที่ตั้งใจจะลืมวันทำงาน โดยไม่มีความตั้งใจที่จะทำงานในวันก่อนวันหยุด​ และอดไม่ได้ที่จะเริ่มการล่าหมูป่า, กวางและส้มจี๊ดด
4
คุณเสือModem 33.6 K ตั้งใจที่จะหาเมียมาก และจะตั้งมูลนิธิ​เพื่อล้างกล้องในอ่างทองคำ
3
และทั้งสี่คนก็ว่างเปล่า
3
ในที่สุด คุณเมย์ก็ดื่มชานมไข่มุกอย่างหนัก....
3
คุณเฉาก้อตั้งใจเขียน BD ต่อไป
3
ป้าป๋อมแป๋ม หายตัวไปเพื่อล่าหมูป่า, กวาง, ส้มจี๊ด
3
คุณเสือ ก้อต้องอยู่ในโอวาทเมียต่อไป.......
7
ด้วยการหายตัวไปของ ความปรารถนา
เหตุผลที่ต้องกลับสู่สนามรบทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่อความปรารถนาอีกครั้ง
1
เป็นเพียงการที่ผู้คนไม่เข้าใจว่า เหตุใดความปรารถนาในขณะนั้น จึงยากที่จะระงับไว้ได้
และทำไมหลังจากที่ความปรารถนาถูกปลดปล่อยแล้วจึงกลับไม่มีความสุขในจินตนาการ
อันที่จริงสิ่งนี้เกิดจากการหลั่งของโดพามีน
บางทีคำอธิบายที่ดีที่สุดของปรากฏการณ์แบบนี้คือการทดลองของ Robert Sapolsky นักประสาทวิทยาชื่อดัง
คนตรงกลางครับ Robert Sapolsky
การตั้งค่าของการทดลองเป็นเช่นนี้
มีลิงกลุ่มหนึ่งพวกเขาสามารถรับอาหารเป็นรางวัลได้โดยการ ...ดึงคันโยก
----เมื่อได้รับสัญญาณ----
สิ่งที่ผู้ทดลองต้องทำ คือสังเกตระดับโดพามีนในสมองของลิงในแต่ละขั้น
พวกเขาพบว่าเมื่อมีสัญญาณ "ให้อาหาร" สมองของลิงจะเริ่มหลั่งโดปามีนจำนวนมาก
และระดับโดพามีนสูงสุด ก็ปรากฏขึ้นในขณะที่ลิง "ดึงบาร์คันโยก"
เห็นได้ชัดว่าลิงรู้ดีว่า "อาหารจะตกเมื่อมันดึงคันโยก"
ดังนั้นเมื่อดำเนินการนี้พวกมันจึงเต็มไปด้วยความคาดหวังสำหรับ "อาหารที่ตกลงมาจากท้องฟ้า"
ความคาดหวังนี้ช่วยกระตุ้นการผลิตโดปามีนจำนวนมาก ..เพื่อขับเคลื่อน ..เพื่อดำเนินการ ให้เสร็จสมบูรณ์และได้รับอาหาร
ดังนั้นนักวิจัยจึงเชื่อว่า แทนที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
บทบาทหลักของโดปามีน คือการกระตุ้น และเพิ่มความคาดหวังของความสุข และความสุขที่กำลังจะมาถึง
----และเพื่อให้เรามีสมาธิในการตระหนักถึงความคาดหวังนี้----
นี่คือเหตุผลที่กระบวนการแสวงหา "รางวัลที่...คาดเดาได้"
1
----มักจะน่าตื่นเต้นกว่า "รางวัล"----
1
นอกเหนือจากการผลักดันให้คุณไล่ตาม "รางวัลที่เป็นที่รู้จัก" แล้ว
โดปามีนยังสามารถผลักดันให้คุณติดตามการผจญภัย และความตื่นเต้น
___ที่ไม่จำเป็นต้องได้ผลลัพธ์__
1
จากนั้น...พูดถึงการทดลองของลิงก่อนหน้านี้
คราวนี้นักวิจัยได้ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่า
เพื่อเปลี่ยนความน่าจะเป็น
ที่ลิงจะได้รับอาหารโดย%ที่ได้รับอาหารจากการดึงคันโยกจาก 100% เป็น 50% แทน...
1
โดยไม่คาดคิดระดับการหลั่งโดปามีนของลิง กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
1
----เมื่อเทียบกับรางวัลที่กำหนดไว้----
ลิงต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอรางวัลความน่าจะเป็นที่​ 50% มากกว่า
1
__นี่คือสาเหตุ ที่มนุษย์เช่นผมมักจะติดเกมส์​__
1
ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเช่น "ลอตเตอรี" "สล็อตแมชชีน" "ดาวในBD" หรือ "กล่องดำ"
2
----มันคือ ความปรารถนาที่อยู่นอกเหนือการควบคุม---
การพนันเป็นรางวัลที่ไม่แน่นอน
1
การกระตุ้นแบบนี้สามารถเพิ่มระดับโดพามีนของคุณได้อย่างรวดเร็ว และทำให้คุณรู้สึก "ตื่นเต้น"
ดังนั้นคุณจึงเริ่มคัดเลือกซ้ำแล้วซ้ำอีก และจับรางวัลซ้ำแล้วซ้ำเล่า..โดยหวังว่าคุณจะชนะ
1
ตราบใดที่คุณได้รับการเติมเต็มจากชัยชนะที่คาดไว้
....ความรู้สึกดีๆจาก "ผลไม้แห่งชัยชนะ" จะทำให้คุณหลงไหลที่จะปลิดมัน.........มากขึ้น!!!
3
การติดการพนันเป็นเพียงพิภพเล็กๆ ของผลเสีย ที่อาจเกิดขึ้นจากโดปามีน
1
---จากความอิ่มอกอิ่มใจที่โดปามีนนำมา---
ทำให้เรามีความสุข ความปรารถนาและแรงจูงใจ
แต่เมื่อผู้คนพึ่งพา "ความสุขจากอาหารไร้สาระ" นี้มากเกินไปพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะหลงไปกับมัน
1
---เช่นเดียวกับสารเคมีอื่น ๆ สมองมักจะควบคุมปริมาณโดปามีนอย่างเคร่งครัด--
3
หากระดับของโดปามีน ต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดโรคพาร์คินสัน หรืออาการสั่น
3
และหากสูงเกินไปอาจทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง,ภาพหลอนหรือการติดพฤติกรรม
3
เราไม่สามารถเสริมโดพามีนโดยตรงจากโลกภายนอก
---แต่ แม้ว่าเราจะไม่รู้หลักการ---
แต่ผู้คนก็สามารถหา "ช่องทางด่วน" จำนวนมาก เพื่อกระตุ้นการหลั่งของโดพามีนเพื่อแสวงหาความสุขนี้ได้เสมอ.....
1
ตัวอย่าง เช่น ยาเสพติดประเภทต่างๆ มักจะเพิ่มระดับโดพามีนในสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ
---ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องยาก---
ที่คนเราจะเลิกได้โดยสิ้นเชิง เมื่อสัมผัสกับสารต่างๆ เช่นโคเคนและบุหรี่
1
วิธีกระตุ้นโดปามีนที่สะดวกสบายเหล่านี้ มักทำให้เกิดความสุขในระยะสั้น และรุนแรงซึ่งกระตุ้นให้ผู้คนกระทำซ้ำและเสริมสร้างพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
---อีกครั้งๆๆๆๆ จนส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจและสมอง---
1
ทางด้านซ้ายคือเซลล์ประสาทที่โดปามีนปกติ การเสพมอร์ฟีนในระยะยาวจะทำให้เซลล์ประสาทโดปามีนหดตัว (ภาพกลาง) และมอร์ฟีนจะไปกระตุ้นการผลิตของเซลล์ประสาทที่เรียกว่า BDNF ในสมองเมื่อ BDNF และมอร์ฟีนทำงานร่วมกัน เซลล์ประสาทโดปามีนจะไม่หดตัว (ขวา) แต่เมื่อมีการหยุดรับมอร์ฟีนอย่างกะทันหันอาการทางระบบประสาทอาจปรากฏขึ้น (ที่มา...Eric Nestler)
เพื่อการวิจัย...นักวิจัยได้ฝังอิเล็กโทรดในสมองของหนูทดลอง เพื่อตรวจสอบบริเวณสมองที่สร้างโดปามีนขึ้น
พวกเขาพบว่าหนูที่ถูกกระตุ้นไปยังพื้นที่หลั่งโดปามีน มันจะกดคันทดลองอย่าง"ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" เพื่อรับความสุขจากการช็อตไฟฟ้า
1
........ "จนตาย"......
3
โดปามีนทำให้เรา "ปรารถนา""ปรารถนา""ปรารถนา""ปรารถนา" และ "ปรารถนา"
---แต่ ความต้องการไม่ได้หมายถึงความชอบ---
1
แน่นอน....โดปามีนไม่สามารถนำ "ความพึงพอใจในความเป็นจริง" หรือความสุขที่แท้จริงมาให้เราได้
1
---แล้วมีวิธีจัดการความปรารถนาได้หรือไม่---
การติดยา..ซึ่งเป็นวิธีกระตุ้นโดปามีน ดูเหมือนจะ "ทำลายสุขภาพ" มากกว่าในการกระตุ้นโดพามีนผ่านสิ่งที่พบเห็นกันบ่อยๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ,เกมส์,วันหยุดพักผ่อนและความรัก
1
---อย่างไรก็ตามความสุขของโดปามีนที่เกิดจากสิ่งทั่วไปก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน---
ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณกลับจากวันหยุด ไปใช้ชีวิตทำงาน ระดับโดพามีนของคุณจะจางลงอย่างรวดเร็วและอารมณ์ของคุณก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกันเมื่อสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขกลับเกิดขึ้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง
---การเปลี่ยนแปลงของระดับโดพามีน...จะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและเบื่อ---
เอาล่ะผมจะลองใช้ความรู้สึกเป็นตัวอย่าง เช่น หลังจากคู่รักผ่านช่วงเวลาแห่งความรัก ที่มีการหลั่งสารโดพามีนสูง
1
--ความคิดของพวกเขาจะค่อยๆสงบลง--
1
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่หูที่คุ้นเคย เป็นเรื่องยากที่กระทิงในใจของคุณจะวิ่งชนกำแพงด้านตรงกันข้ามอีกครั้ง
3
--หลังจากอยู่กับคู่ของคุณมาสอง-สามปี--
คุณมักจะนึกถึงการเต้นของหัวใจและความสั่นไหวของการออกเดทครั้งแรกของคุณและสุดท้ายคุณ​ต้อง....ถอนหายใจ
"ถ้าชีวิตเป็นอย่างที่คุณเห็นในตอนแรก"
ตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายอยู่ใกล้คุณคุณก็....เท่านั้น...แค่... รู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่น
3
--นี่เป็นเพราะ "เกณฑ์โดพามีน" ของคุณเพิ่มขึ้นในระหว่างที่คุณมีความสัมพันธ์--
เกี่ยวกับเกณฑ์โดปามีน Daniel Z. Lieberman, MD อธิบายว่า
นักวิจัยให้รางวัลอาหารต่างๆแก่หนูในกรงเป็นประจำ
จากระดับของ dopamine histogram ที่ตรวจพบ หนูรู้สึกตื่นเต้นมากในช่วงแรก
แต่ในไม่ช้าหนูก็"เบื่อ"กับสิ่งนี้
และสัญญาณโดพามีนก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
เห็นได้ชัดว่าหลังจากอาหาร "อาหารที่ตกลงมาจากท้องฟ้า" ครั้งแล้วครั้งเล่า
เกณฑ์โดปามีนของหนูจะเพิ่มขึ้น "อาหารที่ตกลงมาจากท้องฟ้า"
---ต้องแก้ไข​โดย.... ต้องทำให้พวกมันมีความสุขมากกว่าเดิม---
1
...กล่าวคือ...เว้นแต่ว่า....
นักวิจัยจะโยนอะไรที่แตกต่าง และอร่อย ในครั้งต่อไป
หรือให้อาหารอย่างผิดปกติหนูสามารถคืนสู่ "ความสดใหม่" ในเรื่องนี้ได้
ในเรื่องนี้เราสามารถร่างสูตร เพื่อประมาณผลที่แท้จริงของโดพามีนได้...
เมื่อคุณทำสิ่งหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ผลรางวัลที่แท้จริง" มักจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลงกว่าเดิม
1
และคุณยังคาดหวังว่าจะมี "การกระตุ้นมากขึ้น" ซึ่งจะทำให้เกณฑ์โดพามีนของคุณสูงขึ้น
--ด้วยวิธีนี้ "ค่าความสุข" ที่คุณรู้สึกได้จาก"สิ่งเดียวกัน"จะลดลง..ฮวบๆ--
หญิงสาวผู้ไท ผิวขาวกว่าชาวลาวโดยทั่วไป ชาวผู้ไทถิ่นที่อยู่เดิมคือดินแดนสิบสองจุไท (ไม่เกี่ยวกับบทความ..แค่อยากใส่ไว้เฉยๆ)
---จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกณฑ์นี้สูงเกินไป---
.... ระวัง!!! ...
มันอาจเป็นเรื่องยาก
ที่คุณจะมี"ความสุข"อีกในครั้งต่อไป
3
ในปี 1969 นักบินอวกาศชาวอเมริกัน Buzz Aldrin และนีลอาร์มสตรอง
หัวหน้าของเขาได้ลงจอดบนดวงจันทร์(ครั้งต่อไปที่เราจะลงจอดบนดาวอังคาร...ฮาาาาาา)ด้วยกัน หลังจากเหยียบดวงจันทร์
1
ระดับการหลั่งโดปามีนของเขาก็ถึงจุดสูงสุด
1
ในชีวิตของเขา
มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
ที่จะพบสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากกว่าการเดินเท้า ในดาวเคราะห์ต่างดาวเป็นครั้งแรก
1
ขีด --จำกัด-- โดปามีนของเขา"ระเบิด"
1
เทียบเท่ากับ"กลุ่มอาการหลังวันหยุด"....
---ที่รุนแรงกว่านับไม่ถ้วน---
3
หลังจากกลับมายังโลก
เขาออกจาก NASA และเริ่มมีอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และเป็นโรคซึมเศร้า
1
เป็น​เพราะ... เมื่อเขาเทียบกับการเดินบนดวงจันทร์ "ทุกสิ่งในชีวิต" จริงดูชั่งน่าเบื่อและโคตรน่าเบื่อเกินไป
---ซึ่งทำให้เขารู้สึก.......สูญเสีย---
1
สำหรับคนส่วนใหญ่..ความตื่นเต้นและการผจญภัยเป็น"เรื่องยาก"ที่จะเกิดขึ้นและชีวิตธรรมดาเป็นเรื่องปกติ
โดปามีนสามารถทำให้เรามีความสุขได้ชั่วขณะหนึ่ง
แต่มันไม่สามารถทำให้เรามี"ความสุขและพอใจ"ได้
แล้วเราจะปรับปรุงความสุขในชีวิตปกติ...โดยไม่ตกเป็น "ทาสความสุข" ของโดปามีนได้อย่างไร?
---ตามผมมา....และนี่คือเคล็ดลับบางประการ---
1
---จง...ระบุจุด"ตื่นรู้" ในการกระตุ้นของตัวคุณเอง---
1
ทุกคนมี "dopamine trigger point" ของตัวเอง
อาจเป็นสภาพแวดล้อม หรืออารมณ์ ตัวอย่างเช่น ความเครียดอาจทำให้ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่กำเริบ
การรับประทานอาหารและการเผยแพร่ภาพอาหารอาจทำให้ ความอยากอาหารสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนัก จงเรียนรู้ที่จะจดจำและพยายามอย่างดีที่สุดในการหลีกเลี่ยง "จุดกระตุ้น" ของตัวคุณเอง
---คุณสามารถช่วย "ความปรารถนา" ที่เกี่ยวข้องได้คือ ตัวคุณเอง---
1
---ต่อมา...สร้างระบบการสนับสนุน---
เมื่อคุณต้องการเอาชนะความปรารถนาที่"ไม่ดีต่อสุขภาพ" สำหรับคุณ คุณอาจพยายามขอความช่วยเหลือด้านจิตใจ และการแพทย์จากผู้คนและผู้เชี่ยวชาญรอบๆตัวคุณ
---ด้วยวิธีนี้จะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าการต่อสู้เพียงลำพัง---
1
----เสริมด้วย....เพิ่มปริมาณการออกกำลังกาย---
การออกกำลังกายมีประโยชน์ในการเอาชนะอาการ "เสพติด" ต่างๆ
1
มันสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ
1
ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขอีกวิธีหนึ่งและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เกิด "การเสพติด" ซ้ำอีก
1
----สุดท้าย....การจัดการความเครียด---
1
ความเครียดเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่พบบ่อยที่สุด สำหรับการกำเริบของการเสพติดแบบเก่า
...ดังนั้นการหาวิธีควบคุมความเครียด...
1
จึงมักเป็นขั้นตอนแรกในการเอาชนะการเสพติด และความปรารถนา
วิธีจัดการความเครียดโดยทั่วไป ได้แก่ การออกกำลังกาย,การทำสมาธิ,การนวดบำบัดและการพักผ่อนที่เหมาะสม
1
ในระยะสั้น...การมีชีวิตที่มีสุขภาพดี และมีความพึงพอใจ ..."ในปัจจุบัน"
3
นั่น...อาจเป็นรหัสที่ดีที่สุด...สำหรับชีวิต......"ที่มีความสุข"
1
............บุญรักษา...นะครับทุกท่าน.............
1
อ้างอิง
- Nan Li, Alan Jasanoff. (2020). Local and global consequences of reward-evoked striatal dopamine release. 580(7802):239-244.
-James Olds, Peter Milner . (1954). Positive reinforcement produced by electrical stimulation of septal area and other regions of rat brain. 47(6), 419–427
- Nora D. Volkow, et al. (2010). Addiction: Decreased reward sensitivity and increased expectation sensitivity conspire to overwhelm the brain's control circuit. 32(9): 748–755.
- Robert Sapolsky. (1998). Junk Food Monkeys and Other Essays on the Biology of the Human Predicament.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา