8 พ.ค. 2021 เวลา 16:49 • หนังสือ
Podcast รีวิวหนังสือยังไม่ได้เริ่มทำ ส่วนอีกอันก็ยังไม่ได้ทำเช่นกัน ทุกคนคงคิดในใจ "แล้วมาบอกเพื่อ"
เอาเป็นว่าเราจะมาแนะนำสมาชิกใหม่ของกองดองหนังสือของเราเอง ซึ่งเราได้เพิ่มจำนวนสมาชิกที่จะเฝ้ารอคอยเราหยิบไปอ่าน และทั้งหมดนี้ซื้อมาในช่วงระยะเวลางานสัปดาห์หนังสือออนไลน์ที่ผ่านมาค่ะ ในช่วงแรกเราก็ไม่คิดนะคะว่าจะซื้ออะไรเพิ่มเติมเพราะเห็นว่าหลายๆสำนักพิมพ์ก็จัดโปรไม่แตกต่างจากร้านหนังสือที่ในช่วงเวลาปกติซะเท่าไหร่ และกองดองก็ยังมีอยู่ แต่แล้วคืนหนึ่งค่ะ เรารู้สึกยังไม่อยากนอน แต่ก็ไม่มีอารมณ์อยากอ่านหนังสือที่เราได้หยิบออกมา เราเลยไปเลือกจากกองดองของเรา ซึ่งหนังสือเล่มนี้เราซื้อมาเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยตอนแรกอยากอ่านมาก เพราะตอนนั้นคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะบอกเราได้ว่าความหมายของชีวิตคืออะไร แต่พอได้มาและลองอ่านไปสองบทเรากลับรู้สึกว่าพลาดแหละ หนังสือไรวะเนี่ย และเอากลับไปคืนกองดองและเลือกอ่านเล่มอื่นแทน
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเราเชื่อว่าหนังสือสามารถส่งแรงดึงดูดมาให้เราได้ และถึงแม้จะมีแรงดึงดูดให้ซื้อกลับมา แต่ถ้าได้อ่านในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ ยังไงเราก็ไม่มีทางเข้าใจเรื่องราวจากหนังสือเล่มดังกล่าวได้ดี เพราะฉะนั้น แรงดึงดูด+ช่วงเวลาที่เหมาะสม จะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนได้ถ่ายถอดออกมา และจะตัดสินได้ว่าเราจะชอบหนังสือเล่มหนังกล่าวหรือไม่ และการตัดสินใจอ่านรอบนี้เพราะรู้สึกค้างคากับเรื่องราวที่หนังสืออีกเล่มหนึ่งได้ถ่ายทอดออกมา และอยากรู้ว่าความหมายของชีวิตคืออะไร เราจึงได้ไปหยิบหนังสือ The Power of Meaning อะไรทำให้ชีวิตคนเรามีความหมาย เขียนโดย Emily Esfahani Smith ฉบับแปลไทยของสำนักพิมพ์ OMG บุ๊ก พอได้อ่านรอบสองเรากลับชอบและรู้สึกอินกับเรื่องราวของบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงที่ผู้เขียนได้หยิบเรื่องราวของเขาถ่ายถอดออกมา ซึ่งมันทำให้เราอยากจะอ่านงานเขียนของนักเขียนทั้ง 2 ท่านนี้ คือ Leo Tolstoy กับ Albert Camus ซึ่งถ้าเราดูในกองดองของเราก็มีหนังสือของทั้งสองท่านอยู่ด้วย อย่าง Anna Karenin ซึ่งเราซื้อมา 50% จากงานสัปดาห์หนังสือคราวก่อน (รู้ว่าไม่เกี่ยวแต่อยากอวดว่าซื้อมาราคาดีเพราะรอบนี้ลดแค่ 20%) และ นอกจากเรื่องราวของนักเขียร 2 ท่านนี้ยังมีเรื่องราวอื่นๆที่ถูกหยิบยกมาเล่าในหนังสือและเราคิดว่ามันน่าสนใจ เช่น การต่อสู้ของโสเครติสที่มีการถูกพูดถึงบางส่วนที่ทำให้เราอยากอ่านเต็มทั้งเรื่อง
เราจึงได้ไปค้นหามาว่าผลงานของนักเขียนและนักปรัชญามีอะไรบ้าง และเล่มไหนที่มีการแปลไทยแล้วบ้าง และที่สำคัญลดราคาเท่าไหร่ ซึ่งก็มีงานเขียนชิ้นเอกที่โด่งดังของ Leo Tolstoy อย่าง War and Peace สงครามและสันติภาพ เราไม่ได้ซื้อมาเพราะลดน้อยลดเพียง 10% เอง ราคาก็สูง และเราคิดว่าเรายังมีงานเขียนที่ปังไม่แพ้กันอย่าง Anna Karenin อยู่ แล้วเล่มอย่างใหญ่เลยใช้เวลาอ่านนานแน่ๆนอน เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าว่าหนังสือที่เราซื้อมามีอะไรบ้าง
1. บรรดาเรื่องสั้นของ Leo Tolstoy ที่ซื้อมาเพราะบางเรื่องถูกกล่าวในหนังสือเล่ใที่เรากำลังอ่านอยู่ด้วย และที่สำคัญมันราคาดีมากจ้าทุกคน!!! เพราะเป็นสินค้า Flash Sale จ้า ถูกกว่าราคาที่จากปกเกือบจะครึ่งนึงเลย
2.งานเขียนของ Albert Camus ที่เราซื้อก็มีมนุษย์สองหน้า The FALL อันนี้ไม่ได้อยู่ใน Flash Sale นะคะ ราคาก็ปกติทั่วไปตอนร้านหนังสือจัดโปร แต่เรากลัวว่าจะหาไม่ได้เลยยอมค่ะ และก็มีหนังสือ Augustus เอากุสตุสคนมากรัก ซึ่งเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นของนักเขียนรางวัลโนเบล ซึ่งนอกจากมีงานของนักเขียนคนนี้แล้วก็ยังมีนักเขียนอีกท่านอย่าง Hermann Hesse ที่เรามีหนังสือในกองดองด้วย และอันที่จริงยังมีอีก 2เล่ม ยังไม่มา อันนั้นเรายอมซื้อราคาปกเพราะว่ามันหายากมาก ลองสั่งในร้านหนังสือก็ขึ้น out of stock ถ้าได้มาแล้วจะมาบอกนะคะ
3. หนังสือของ Sigmund Freud ซึ่งถือเป็นตัวพ่อระดับตำนานนักจิตวิทยา ซึ่งทั้ง 3 เล่มที่เราได้มาเป็นราคา Flash Sale จ้า อย่างจิตวิทยาความฝัน เราซื้อมาในราคา 100 บาท จากราคาปก 200 บาท ส่วนอีกสองเล่มเราก็ซื้อมาในราคาที่ไม่ถึง100 บาท
4. AMERIKA เขียนโดย Franz Kafka ซึ่งเราก็มีงานเขียนเค้าอยู่ในกองดองเช่นกันอย่างเรื่องคดีความ The Trial เอาจริงๆที่ซื้อเพราะเรทชอบจุดยืนของสำนักพิมพ์นี้+ราคาดี+งานของ Franz Kafka จะไม่ซื้ออ่านได้ไง ถึงตอนนี้ยังไม่ได้อ่าน แต่พออยากอ่านอาจจะซื้อไม่ได้แล้วนะเพราะขายหมดก่อน ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยซื้อมาเลย
ลิ้งค์เว็บที่ซื้อหนังสือ 1-4
ส่วนเอากุสตุสซื้อจาก Readery จ้า
5 . English Grammar in Use 4th edition ของ Raymond Murphy ซึ่งเราซื้อจากเว็บของสำนักพิมพ์ดวงกมลสมัย (https://www.dktoday.co.th/) เพราะเราอยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเลยซื้อมา แถมซื้อมาในราคา 50% นะจ๊ะ ตอนนี้เค้าก็ยังจัดโปรอยู่นะคะ
6. หนังสือที่ซื้อจากสำนักพิมพ์นี้ไม่ได้เกิดจากหนังสือที่เรากำลังอ่านอยู่ แต่เกิดจากความเป็นแฟนคลับที่ถูกใจหนังสือของสำนักพิมพ์นี้มากกกกกก ก ล้านตัว (ผู้พิทักษ์ต้นการบูร The Champhorwood Custodian จากสำนักพิมพ์ Bibli ) และรูปแบบเล่มคือสวย สุดปังมากจ้า แถมแต่ละเรื่องเนี่ย เรื่องย่อมันช่างโดนใจเราจริงๆ ถ้าไม่ซื้อมาตอนนี้ก็คงไม่ได้ และเท่าที่สังเกตุมาลดมากสุดที่จัดก็ 20% และเป็นสำนักพิมพ์ใหม่ด้วย การจัด 50% น่าจะยังอีกนาน อันนี้เราคิดเองนะ ขอให้คิดถูกเถอะถ้าเดือนหน้ามา 50% นี่ร้องเลยนะ จริงๆถูกใจหลายเรื่องมากกกกกก อยากจะซื้อหนังสือที่ออกใหม่ทั้งหมดเลย แต่ก็เลือกหนังสือที่เราคิดที่จะอ่านและอยากได้มาจริงๆ ให้ได้ 4 เล่ม เพราะจะได้ลด 20% ตั้งใจไว้แบบนี้จะได้ไม่ซื้อเกิน อันที่จริงเกือบเกินแหละ แต่พอคิดถึงหนังสือที่ซื้อไปทั้งหมดก็บอกตัวเองว่า พอก่อนมั๊ย? เลยคัดเลือกให้เหลือ 4 เล่มจ้า
- Emotional Agility เขียนโดย Susan David ที่ซื้อก็เพราะเราไม่เคยรู้ทันอารมณ์ตัวเองเลย ไม่เข้าใจด้วย เลยอยากลองทำความรู้จักกับอารมณ์ของตัวเองดูเลยซื้อมาค่ะ คือแค่ชื่อหนังสือก็เหมาะกับเราแล้ว แต่ด้วยเป็นหนังสือที่ใหม่ยังไม่มีใครรีวิวเนื้อหาข้างในเท่าไหร่ เราเลยลองไปฟัง Ted talk ของผู้เขียน และชอบเรื่องราวที่เขาได้เล่าเรื่องของตัวเองและคิดว่าเค้าเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดี และไม่ได้แกล้งทำเป็นฝืนนะ คือยอมรับและเข้าใจและปรับให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันได้ ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็น 1 ใน 4 เล่มที่เราเลือก (สำนักพิมพ์ Be(ing))
- Summer Fireworks and My Corpse ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน เขียนโดยโอตสึ อิจิ เอาจริงๆนะ แค่คำโปรยหน้าปก "เรื่องเล่าจากคนตายที่ลมหายใจยังคงไร้เดียงสา ฆาตกรรมอำพรางที่สว่างไสวราวดอกไม้ไฟ" สำหรับเรามันดูน่าค้นหาและที่คิดว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่าหนังสือแนวสืบสวนที่เล่ามุมมองโดยผู้ถูกฆาตกรรมแน่ๆ
- เดือนเมษายน พาใครบางคนกลับมา April Come She Will เขียนโดย คาวามูระ เก็งคิ ที่ซื้อนะเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้อ่านแนวความรักบ้างเลย มีซื้อมาบ้างแต่ก็ยังดองไว้อยู่ แต่เรื่องนี้ที่ซื้อเพราะมันความสัมพันธ์มันดูยุ่งเยิงดี เรื่องของฟูจิชิโระ ที่จะแต่งงานอยู่แล้ว แต่กลับไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองรู้สึกดีใจมั๊ย และยังรักเจ้าสาวอยู่รึเปล่า เพราะได้รับจดหมายจากคนรักเก่า ซึ่งเราคิดว่าในชีวิตของทุกคนจะต้องมีคนที่เราชอบ หรือแอบรัก หรือแฟน ที่ความสัมพันธ์จบลงแล้วแต่บางครั้งเราก็ยังนึกอยู่ หรือจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แม้ตอนนี้จะไม่รู้สึกอะไรแล้วก็ตาม มันเลยทำให้แง่มุมความรักที่จะถูกถ่ายทอดในหนังสือมันดูสมจริง เพราะมันดูวุ่นวาย สับสนแ
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวไว้ในเรื่องย่อที่ปกหลังว่ามีเรื่องความสัมพันธ์ ความรักของตัวละครคนอื่น เราจึงชอบเพราะว่ามันหลากหลายดี
- วันนั้นฉันเจอเพนกวิน Penguin Highway จากเรื่องย่อที่เขาเขียนไว้ว่าเป็นเรื่องของอาโอยาเมะ ที่เรียนชั้นป.4 ที่ชอบจดบันทึกทุกอย่างลงในสมุดส่วนตัว และอยู่ดีๆเพนกวินก็โผล่มาเต็มเมืองและหายไป ซึ่งทำให้เขาสงสัยจึงออกตามหาสาเหตุ และถ้ามันเป็นเรื่องใสๆของจินตการของเด็กเพียงอย่างเดียว เราว่าสำนักพิมพ์นี้เขาไม่เลือกเอามาแปลแน่นอน (อวยเหมือนได้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งจริงคือไม่มีเลย แต่อวยเพราะชอบ) เราคิดว่าน่าจะอารมณ์เดียวกับเจ้าชายน้อยที่มีมุมมองแง่คิดต่างๆ อ่านได้ทุกวัย อ่านแต่ละครั้งอาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกเดียวกันก็เป็นไปได้ เพราะในเรื่องย่อหลังปกเขาเขียนว่า "การผจญภัยครั้งนี้นำไปสู่คำตอบของเรื่องราวบางอย่และมิตรภาพอันคาดไม่ถึงแล้วโลกที่เด็กชายเห็นทุกวันก็กว้างไกลไม่สุด" มันจึงทำให้เราคิดแบบดังกล่าวเลยตัดสินใจซื้อค่ะ
จริงๆ ปีนี้เราอ่านหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ (Be(ing)) ไป 2 เล่มแล้ว ก็คือ The Why Cafè คาแฟ่สำหรับคนหลงทาง เป็นเล่มที่เราคิดว่าจะมาแชร์สิ่งที่เราได้จากการอ่าน ซึ่งตอนนี้กำลังจะเริ่มเขียนสรุปอยู่ จ้า กับอีกเล่มหนึ่ง คือ บวก ลบ คุณ ฉัน ความน่านะจะรักระหว่างเรา The Mathematics of love ซึ่งถ้ายังไม่ได้ซื้อมาแล้ว ก็คงจะเพิ่มมาอีก 2 เล่มแน่ๆ
ปล. ที่เรามาแชร์ให้กับทุกคนได้อ่านกัน เพราะอยากจะเล่าเรื่องนี้ที่ทำให้เรารู้สึกดี อยากแบ่งปันให้กับทุกคนทราบด้วย และอีกอย่างก็เป็นจิตวิทยาอีกอย่างหนึ่งที่เราได้จากการอ่านหนังสือเทคนิคเปลี่ยนคุณให้เป็นคนไม่ผลัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำทันที ที่ให้บอกเรื่องที่เราจะทำให้กับคนอื่นทราบเพื่อให้เรารู้สึกว่ามีคนจับตาดูเราอยู่ จะช่วยให้เราลงมือทำทันที เหตุผลก็คือไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่รู้ในสิ่งที่ตั้งใจจะทำ และในกรณีนี้ทุกคนเป็นคนสำคัญกสำหรับเรา เราเลยอยากให้ในวันที่เรารู้สึกแย่และมาดูสิ่งนี้จะทำให้เราคิดได้ว่าเราสัญญาที่จะเขียนรีวิวหนังสือที่เราได้อ่าน และเรายังมีกิจกรรมที่เราชอบอย่างการอ่านหนังสือ และยังมีหนังสือที่คอยเราเปิดอ่านอยู่ ซึ่งเราหวังว่าสิ่งเรานี้จะเป็นตัวช่วยให้เราไม่ดำดิ่งเสพติดกับความเศร้า และสุดท้ายนี้เราอยากบอกว่าเราขอตัวไปนอนก่อน ฝันดีราตรีสวัสดิ์จ้า !!!
#SavageDysthymiaStory #หนังสือน่าอ่าน #แนะนำหนังสือ #กองดองที่มียังไม่พอเหรอ
#ดองวันนี้อ่านวันหน้า #มีไว้ก่อนได้อ่านเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
โฆษณา