9 พ.ค. 2021 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
โรคระบาด สุดประหลาด !!
โรคเต้นไม่หยุดจนตาย โรคนี้เกิดขึ้นที่
ประเทศฝรั่งเศส ในปี 1518 โดยมีเอกสารอ้างอิงไว้อย่างชัดเจนว่า มี โรคนี้เกิดขึ้นจริง ๆ
จุดเริ่มต้นของ โรคเต้นไม่หยุดจนตาย หรือที่เรียกันว่า Dancing Plague เริ่มขึ้น ในเดือน กรกฎาคม ปี 1518 โดยมีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อว่า Frau Troffea
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ เธอเดินออกมาจากบ้าน และพอเธอถึงถนน เธอค่อย ๆ เต้นโดยขยับตัวไปมา ทั้งที่ไม่มีเพลงประกอบ เธอก็เต้นของเธอได้เรื่อย ๆ เลยนะคะ
5
ความแปลกก็คือ เธอเต้นจนเหนื่อย แล้วหมดแรงเป็นลมไป สักพักเธอมีแรงเธอก็ลุกขึ้นมาเต้นใหม่
และพอชาวเมืองเห็นเธอเต้นอยู่คนเดียว คงจะกลัวเธอเหงา เลยมีชาวเมือง ออกมาเต้นเป็นเพื่อนเธอ ประมาณ 3 คน หลังจากนั้นเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไป จน 1 สัปดาห์ ผู้คนที่ผ่านไปมาเห็น ก็ออกมาเต้นตาม จนมีคนเต้นอยู่ถนนประมาณ 30 คนค่ะ
ทุกคนที่มาเต้น คือเต้น เป็นลมหมดแรง แล้วลุกขึ้นมาเต้นต่อ เป็นลมอีก เต้นต่ออีก เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ
พอเรื่องนี้ ไปถึงหูของผู้ปกครองเมือง ผู้ปกครองเมือง คิดว่าเรื่องนี้มันไม่ปกติ แน่ ๆ ผู้ปกครองเมือง จึงหาวิธีการแก้ไขเรื่องนี้ แต่ว่าด้วย เทคโนโลยี การแพทย์ในสมัยนั้น คงยังไม่ได้เจริญก้าวหน้าอะไรมากมาย ทำให้หมอ วินิจฉัยไปต่าง ๆ นา ๆ คือ พูดง่าย ๆ ว่า เดานั่นเองค่ะ
และหมอในสมัยนั้นได้วินิจฉัยว่า สาเหตุ มาจากเลือดมันต้องร้อน แน่ ๆ คือ มีความร้อนในเลือดมากเกินไป จึงทำให้ต้องมีการขับความร้อนออกมา ผ่านการเต้น ดังนั้นควรต้องปล่อย ให้พวกเค้าเต้นไปให้พอ เพื่อขับความร้อนออกมาให้หมด
เมื่อได้ยินดังนั้น ทางสภาเมืองเลยจัดงานเต้นอย่างจริงจังเลยค่ะ มีการสร้างเวที มีวงดนตรี มีการจ้าง แดนเซอร์ มาเต้นนำอีก จัดกันเป็นเหมือนงาน ปาร์ตี้ประจำเมืองไปเลยค่ะ และจัดกันยาว ๆ จนกว่าทุกคนจะหยุดเต้น
จากเหตุการณ์นี้ ยิ่งทำให้ชาวเมืองออกมาเต้นกันหนักกว่าเดิมอีกค่ะ ที่นี้เต้นกันทั้งเมือง เต้นกันไม่หยุดเลยค่ะ แล้วเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ บางคนเต้นจน หัวใจวาย จนตาย บางคนเต้นจนเส้นเลือดในสมองแตกตาย บางคนเต้นจนอ่อนเพลีย เป็นลมแล้วเป็นลมอีก
แล้วถามว่า หยุดเต้นกันไหมคะ ไม่หยุดค่ะ ใครตายก็ตายไป ใครยังอยู่ก็เต้นกันต่อไป อย่าได้หยุดค่ะ
จากเดือน กรกฏาคมที่มีผู้หญิงออกมาเต้นเพียงคนเดียว พอเหตุการณ์ผ่านมาถึงเดือน สิงหาคม มีชาวเมืองออกมาเต้น ถึง 400 คนเลยทีเดียวค่ะ
จนกระทั่งในเดือน กันยายน อยู่ดี ๆ เหตุการณ์การเต้นก็หยุดลง ซึ่่งเค้าเล่ากันว่าสาเหตุที่จบลง เพราะสภาเมืองตัดสินใจ เบรกให้ทุกคนหยุดเต้น โดยการไล่คนที่เต้นขึ้นเขาไปให้หมด เพราะบนยอดเขามีโบสถ์ ให้ไปสารภาพบาป ไปสวดมนต์กันซะ จิตใจจะได้สงบ
แล้วสิ่งนี้ก้อทำให้ชาวเมือง หยุดเต้นกันไปทีละคนสองคน เลยทำให้ Dancing Plague จบลงแบบ งง ๆ เหมือน ตอนที่เริ่มแบบ งง ๆ ค่ะ
และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวนะคะ ตลอด ศตวรรษที่ 10 - 16 มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกหลายครั้งใน ยุโรป ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ที่ Switzerland Gremany Netherlands
ที่นี้นักประวัติศาสตร์ในปัจจุบันก็พยายามสันนิษฐานกันนะคะ ว่าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรได้บ้าง ซึ่งได้ตั้ง สันนิษฐาน ออกมาได้ 4 ข้อด้วยกันค่ะ
1. อาจจะเป็นคำสาปของนักบุญคนหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านในสมัยนั้นชื่อว่า นักบุญสามารถที่จะสาปคนได้ค่ะ อาจจะสาปให้ทุกคนเต้นก็เป็นได้
2. มีความเชื่ออะไรบางอย่างเกิดขึ้น อย่างเช่น เชื่อว่าถ้าเต้นแล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น คนก็เลยเต้น ๆ ตาม ๆ กัน เป็นอุปทานหมู่
3. อาจจะเกิดจากการกินอาหารที่มีพิษ เช่น พวกเห็ดพิษ ที่ออกมาเต้นเพราะเมาจากพิษของอาหารที่กินไป
4.อาจจะรับประทานขนมปังที่มีเชื้อรา เข้าไป เชื้อรามีผลต่อสมอง อาจจะทำให้ชาวเมืองมองเห็นภาพหลอน จึงออกมาเต้นกัน
อันนี้ก้อเป็นข้อสันนิษฐานนะคะ ซึ่งยังไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ยังคงเป็นปริศนาต่อไปค่ะ
หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นจริงรึเปล่า เหตุการณ์นี้มีเอกสารทางประวัติศาสตร์ ในศตวรรษ ที่ 16 ที่บันทึกเรื่องราวไว้อย่างละเอียดค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แหล่งที่มา
เพจ Point of View
โฆษณา