เส้น EMA สิ่งที่นักเทรดคริปโตต้องรู้ ( สายวิ่งสั้นชอบ สายเล่นยาวปลื้ม )
เกริ่นสั้นๆ ก่อนนะจ๊ะ ❤
MA ( Moving Average ) หรือ เส้นค่าเฉลี่ย เป็นอินดิเคเตอร์หนึ่งที่คนนิยมใช้และแทบทุกค่ายเทรดที่เปิดให้เทรดล้วนจะใส่มาเป็นค่าอินดิเคเตอร์เริ่มต้นให้กับนักเทรดเสมอ แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่ามันต้องสำคัญมากแน่ๆ WOW
เส้น MA ใช้ดูกับกราฟคริปโตยังไงกันนะ ❤
เส้น MA เป็นเส้นค่าเฉลี่ยทีนี้ ตัวเส้นจะมีการเฉลี่ยไปตามราคาของเหรียญนั้นๆ ขึ้นอยู่กับเราตั้งค่า โดยค่าเฉลี่ยจะนับเป็นวัน เทรดสั้นๆคนมักจะใช้ MA 5-25 วัน เทรดกลางๆจนถึงยาวมักจะใช้ 50-200 วัน
แล้วแอดมินทำไมเส้น MA มันมีหลายชนิดจังมี SMA บ้าง WMA บ้าง EMA บ้าง เยอะจัด แต่ละตัวมันใช้ยังไง คำนวณแบบไหนหยอ ??? ❤
SMA = เป็นวิธีที่ง่ายสุด คำนวณให้น้ำหนักข้อมูลทุกตัวเท่ากัน เช่น
ถ้า SMA10 ก็นำข้อมูลทั้ง 10 วันมาบวกกัน แล้วหารด้วย 10
WMA = คำนวณโดยให้น้ำหนักข้อมูลไม่เท่ากัน คือ ข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุดจะมีการถ่วงน้ำหนักมากกว่าในอดีต เช่น
ถ้า WMA10 ก็นำข้อมูลวันที่ 1 คูณด้วย 1 และวันที่ 2 คูณด้วย 2 แบบนี้...จนถึงข้อมูลวันที่ 10 คูณด้วย 10 แล้วนำทั้งหมดมาบวกกันจากนั้นหารด้วย 1+2+3...+9+10 (ประมาณว่าเอา 1+2+ บวกไปเรื่อยจนถึง 10 หงะ)
EMA = เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนักที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยนำเอาค่าความผิดพลาดจากการพยากรณ์มาปรับค่าเฉลี่ยต่อไปให้ถูกต้องมากขึ้น โดยสูตรคำนวณ จะเป็นดังนี้
EMA = [( ค่าราคาปิด - EMA ในวันที่ผ่านมา ) x ค่าถ่วงน้ำหนักA + ค่า EMA ในวันที่ผ่านมา ]
***กำหนดให้ค่าถ่วงน้ำหนักA = 2 หารด้วยช่วงเวลาที่กำหนด +1
ทีนี้เรามาลองใช้ให้เห็นภาพกันนะ ❤
โดยแอดมินจะยกตัวอย่างเน้นไปที่ EMA50 และ EMA200 จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเส้นสีส้มคือ EMA50 เส้นสีน้ำเงินคือ EMA200
โดยราคามักจะอยู่เหนือเส้น EMA50 หากราคายังอยู่เหนือเส้นเราก็จะยังไม่ขายเพราะแสดงว่ายังเป็นขาขึ้นของเหรียญคริปโตนั้นๆอยู่ แต่หากเป็นขาลงเมื่อราคาจุ่มลง EMA50 เราอาจจะตัดขายแล้วไปรอช้อนซื้อต่อเมื่อราคาจุ่มจนถึง EMA200
ฝากกดติดตาม ถูกใจ และแชร์เพื่อแบ่งปันข้อมูลต่อไปด้วยนะคร้าบผม ❤
#เครดิตอ้างอิงข้อมูลและสูตร #FINNOMENA #SETINDEXTH #FOREX
#เรียบเรียงข้อมูลและรูปภาพโดยCHAITASTUDIOTM