9 พ.ค. 2021 เวลา 07:48 • ดนตรี เพลง
THE FEVER333 REVIEW
- Made an America EP (2018)
- Strength of Numb333rs (2019)
EP & Album Cover
- ที่สุดแห่งความสุดติ่ง พลังทำลายล้างสูง กับแร็ปคอร์ตัวแรงที่ “กำลังมา” ใน ขณะนี้ หลังจากที่พอฟังครั้งแรกนี่เอาเป็นว่าโดนมาก ไม่ได้ฟังเพลงและอัลบั้มที่ทำให้เกิดความชอบและติดตามได้ง่ายๆในการฟังเพลงในยุคปัจจุบันนี้เท่าไหร่จนมาฟังวงนี้
รับรู้ถังพลังงาน แรงขับ แบบเต็มสตรีมที่ปล่อยออกมาอย่างดุเดือดมาก หลังจากที่ปล่อย EP มาให้ฟังกันแล้วในปี 2018 และได้ผลตอบรับในทางบวกและคำวิจารณ์ที่ดี จนปล่อย debut มาให้ฟังแบบเต็มๆ ตั้งแต่ต้นปี 2019 อย่าง “Strength of Numb333rs” ประกอบด้วย 10 บทเพลงหลัก + 2 เพลงพิเศษจากญี่ปุ่น
-โดยฟอร์มวงเมื่อปี 2017 จากสมาชิกหัวหอกที่ฟื้นคืนชีพจากธุลีของ Letlive วงโพสต์ฮาร์ดคอร์,เมทัลคอร์ ตัวแรงที่ประกาศยุติการเดินทางเมื่อหน้าร้อนปี 2017 ทำให้สมาชิกแกนนำอย่าง Jason aalon butler ที่ยังมีไฟในการทำงาน ฟอร์มวงใหม่ต่อเลย ในชื่อว่าThe Fever 333 และได้ดึงมือกีต้าร์มาดกวนอย่าง Stephen Harrison จาก The Chariot และ มือกลองอย่าง Aric improta ลีลานักกายกรรม จาก Night verse มารวมทีมทริโอ ปล่อยซิงเกิลสุดฮิตอย่าง We’re coming in มาเรียกน้ำย่อยก่อนจะส่ง “Made an America – EP” 7 บทเพลงมาปั่นประสาทผู้ฟังให้เดือดไปพร้อมกัน
- ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีความชอบให้พี่ Stephen มือกีต้าร์วงนี่แหละ ที่มาเล่นเบสแทน Matt Kean มือเบสวง Bring me the horizon ที่เผอิญป่วยในช่วงออกโชว์หลังๆ อย่างรายการ Jimmy Kimmel Live ก่อนที่พี่ Oliver sykes จะเสียงเดี้ยง
- โดยภาพรวมสไตล์ของแต่ละบทเพลงที่ส่งให้คนฟังรับรู้ ถึงสภาพปัญหาปัจจุบัน ที่ชี้ชัดให้เห็นว่าคำพูด การกระทำต่างๆกับภาพลักษณ์ที่แสดงออก มันคนละเรื่องกันเลย ผ่านการเมืองเป็นหลัก การแสดงจุดยืนในสังคม ความรุนแรง และการถูกกดขี่ ความหยาบคายในการสบถก่นด่าเหล่านั้น แสดงถึงความขบถและต่อต้านอย่างอัดอั้น ว่ากูไม่ไหวแล้วเว้ยยย เป็นการแสดงออกทางคำพูดที่สะท้อนออกมาได้อย่างเน้นๆและเจ็บแสบ เพราะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ดีกว่าการนิ่งเฉย แบบที่เราๆไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากชายตามองความเป็นไป
- ในภาคดนตรีจะพูดว่าเป็นแร็ปคอร์ตรงๆก็คงไม่ใช่ เพราะยำเอาแนวดนตรีอาทิ ฮิปฮอป, โพสต์ฮาร์ดคอร์, ฮาร์ดคอร์พั้งค์ หรือแม้กระทั่งเมทัล มาผสมผสานกันอย่างหลากหลาย ที่มีการดึงอารมณ์ไปๆมาๆ เรียกว่าครบเครื่องและลงตัวบวกกับเสียงร้องของเจสันที่มีเสน่ห์ทั้งสไตล์การแร็ป การว๊าก การร้องเมโลดี้แบบ R&B หรือป๊อป หวานช้า แบบบัลลาดก็สามารถทำได้ออกมาดีมาก และได้ Travis Barker มือกลองมันสมองแห่ง Blink-182 และ John Feldman เจ้าพ่อเมนสตรีมแห่งวงการมาร่วมโปรดิวซ์งาน debut ชุดนี้ด้วย เรียกได้ว่ามีความดิบมันส์ๆและความติดหูผสมกันอย่างพอเหมาะพอควร
- รับรองว่างานของ Fever ที่ปล่อยออกมาแต่ละอย่างต้องโดนใจผู้ฟังเป็นแน่แท้ หากใครชอบงานสไตล์อย่าง Rage against the machine เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น่าจะชอบได้ไม่ยาก ที่สำคัญที่ทำให้ผมเองชื่นชอบและติดตามงานวงนี้เป็นพิเศษ เพราะเสียงร้องในบางช่วงบางตอนของเจสัน ชวนให้นึกถึงแนวเสียงของ Chester Bennington นักร้องนำยอดเยี่ยมตลอดกาลแห่ง Linkin park (Respect) อยู่หน่อยๆ บวกกับการร้องแบบแผดเสียง กรีดร้องสไตล์ Caleb Shomo ผู้เป็นทุกอย่างของ Beartooth ขึ้นมาจับใจ เรียกอะดรีนาลีนให้สูบฉีดและพุ่งพล่านในตัวได้เป็นอย่างดี
Japanese Version (Bonus track)
Tracklists
โฆษณา