11 พ.ค. 2021 เวลา 05:30 • ประวัติศาสตร์
ผู้ที่รับสมญานามว่า" โมนาลิซา เมืองน่าน "
นางสีไวย หรือ นางแก้วสีไว เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ ภาพดังกล่าวเป็นภาพนางสีไวตัวละครจากเรื่อง คัทธณะกุมารชาดก โดยภาพแสดงให้เห็นถึงการแต่งกายของสตรีน่านในอดีต
นางสีไว ผลงานของหนานบัวผัน
เช่นเดียวกับ ปู่ม่านย่าม่าน ภาพนางสีไวก็เป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงด้วยความงดงามอ่อนช้อยที่ถ่ายทอดอารมณ์และความงามของหญิงสาว จนได้สมญาว่าเป็น "โมนาลิซาเมืองไทย" หรือ "โมนาลิซาเมืองน่าน" ก็ว่าได้
ประวัติ
นางสีไว เป็นหนึ่งในงานจิตรกรรมฝาผนังถูกวาดขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2410-2417 ระหว่างการบูรณะซ่อมแซมวัดภูมินทร์ในสมัยเจ้าอนันตฤทธิวรเดชครองเมืองน่าน ซึ่งตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งภาพจิตรกรรมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวในชาดก และแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวน่านในอดีต โดย "นางสีไว" ถูกเขียนอยู่บนผนังล่างสุดติดกับประตูตะวันออก นับว่าภาพดังกล่าวมีความงดงามมากมีความประณีตทั้งฝีมือและอารมณ์ภาพ อันแสดงให้เห็นถึงการออกนอกกรอบหรือความอยากหลุดพ้นออกจากกรอบการเขียนเล่าเรื่องชาดกของหนานบัวผัน
นางสีไวอยู่ในอิริยาบถที่กำลังเกล้าผมขึ้นเหนือศีรษะและตกแต่งมวยผมด้วยดอกไม้สีสดใส ที่ใบหูใส่ม้วนทอง เปลือยอก มีเพียงผ้าคล้องคอไพล่ชายไปด้านหลัง  สมเจตน์ วิมลเกษม ได้นำคำกลอนจาก วรรณพราหมณ์ชาดก มาบรรยายความงามของนางสีไวว่า "คิ้วโก่งค้อม แวดอ้อมตาขำ เหมือนจันทร์เดือนแรม สิบสองค่ำใต้ ริมปากออนแดง เหมือนแสงก๊อไต้ หยังมางามวิไล เลิศล้ำ" แปลเป็นไทยว่า "คิ้วโก่งโค้งเหมือนจันทร์แรม 12 ค่ำ ริมปากแดงจิ้มลิ้มนวลเหมือนแสงทับทิม ทำไมถึงงามได้เช่นนี้"
โฆษณา