Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คุณพ่อจอมวางแผน
•
ติดตาม
12 พ.ค. 2021 เวลา 10:29 • การศึกษา
"หัวหมา กับ หางสิงห์" - เลือกมหาลัยให้ลูก
หลายๆ คนอยากให้ลูกเรียนมหาลัยที่ดีที่สุด อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แม้ตอนที่ตัวผมยังเป็นเด็ก อยู่ในช่วงเลือกมหาลัย ก็คิดแบบนั้นครับ หากคะแนนดี อยู่ในขั้นที่สามารถเลือกมหาลัยท็อปๆ ได้ ก็อยากเข้าไปเรียน จบมาคงเท่ห์น่าดู
แต่จริงๆ การที่จะเข้ามหาลัยชั้นนำ มันก็มีราคาของมันครับ บางคนอาจจะประสบกับต้วเองมาแล้ว เช่น ตัวผมเอง เป็นต้น
ในหนังสือชื่อ "กลยุทธ์ล้มยักษ์ - David and Goliath" แต่งโดย Malcolm Galdwell ซึ่งถือเป็นนักเขียนชั้นครู เนื้อหาโดยรวมของหนังสือน่าสนใจมากครับ (ใครมีโอกาสแนะนำให้อ่านครับ)
มีบทหนึ่งของหนังสือ เขียนเกี่ยวกับการเลือกเรียนมหาลัยอย่างน่าสนใจ (ซึ่งนำปรับใช้ได้หมดครับ ทั้งการเลือกโรงเรียนตั้งแต่ยังเล็ก จนไปถึงการสอบเข้ามัธยมปลายชั้นแนวหน้า)
คุณ Malcolm นำคะแนนสอบ SAT (ข้อสอบมาตรฐานที่ไว้ใช้สอบเข้ามหาลัยที่อเมริกา) ของเด็ก ป.ตรี ที่เรียนวิทยาศาสตร์ของมหาลัยฮาร์ตวิค (มหาลัยระดับกลางๆ อยู่ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1) กลุ่มเก่ง 2) กลุ่มกลาง และ 3) กลุ่มท้าย โดยได้คะแนน SAT เฉลี่ยในแต่ละกลุ่มตามนี้
กลุ่มเก่ง 569 กลุ่มกลาง 472 กลุ่มท้าย 407
หลังจากนั้นมาดูต่อว่าเด็กเหล่านั้นเรียนจบวิทยาศาสตร์เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาในกลุ่มนั้นๆ
กลุ่มเก่ง 55.0% กลุ่มกลาง 27.1% กลุ่มท้าย 17.8%
ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ กลุ่มเก่งน่าจะเรียนผ่านโดยไม่ยากเย็นและมีแนวโน้มจะจบวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กลุ่มท้าย เรียนไม่ผ่านและไปเลือกคณะที่ไม่ใช้การคำนวนแทน
ทีนี้ คุณ Malcolm ลองเอาข้อมูลมหาลัยระดับท็อปของโลกอย่าง ฮาร์วาร์ด มาเปรียบเทียบ โดยใช้วิธีแบ่งแบบเดียวกัน พบว่า
คะแนน SAT
กลุ่มเก่ง 753 กลุ่มกลาง 674 กลุ่มท้าย 581
เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาที่จบวิทยาศาสตร์
กลุ่มเก่ง 53.4% กลุ่มกลาง 31.2% กลุ่มท้าย 15.4%
จะเห็นได้ว่าจำนวนเปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาที่จบในแต่ละกลุ่มคล้ายกันมากทั้งสองมหาลัยครับ
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ คะแนน SAT ของกลุ่มท้ายของ ฮาร์วาร์ด ยังมากกว่ากลุ่มเก่งของ ฮาร์ตวิค แต่กลับมีจำนวนนักศึกษาที่จบวิทยาศาสตร์น้อยกว่ากลุ่มเก่งของ ฮาร์ตวิค
ทั้งๆ ที่ฉลาดกว่า แต่ทำไมกลับจบน้อยกว่า??
ผมว่าทุกท่านพอจะเดาได้ครับว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ใช่ครับ คำตอบคือ "ความสุขในการเรียน" ครับ
คุณ Malcolm พบว่า เด็กที่เข้า ฮาร์วาร์ด ได้ จริงๆ แล้วเก่งทุกคน แต่ในบรรดาคนเก่งก็ยังแบ่งได้ตั้งแต่ เก่งมาก จนถึง เก่งน้อย
สิ่งที่ทุกข์ที่สุดของเด็กๆ คือ ถ้าเด็กคนนั้นเคยเรียนเก่งได้คะแนนดีมากๆ เป็นหัวกะทิในระดับมัธยมปลาย แล้วเลือกเข้าไปเรียนมหาลัยระดับท็อป แต่ความเก่งอยู่ในระดับท้ายๆ (ประมาณ "หัวหมา กับ หางสิงห์")
เด็กเหล่านั้นรู้สึกตัวเอง "โง่" กว่าเพื่อนตลอดเวลา เกิดเป็นความเครียดและไม่มีความสุขในการเรียน จนส่วนใหญ่ขอไปเรียนคณะที่ง่ายกว่า หรือ ยิ่งไปกว่านั้นย้ายไปมหาลัยระดับลองลงมา
ในทางกลับกันครับ ถ้าเด็กคนเดียวกันนี้ เลือกมหาลัยระดับที่เหมาะสมกับตัวเอง เขาจะมีความสุขกับการเรียน และส่งผลถึงการทำงานในอนาคตต่อไปด้วยครับ
โดยส่วนตัว ผมเองก็เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ เคยคิดว่าตัวเองเรียนหนังสือน่าจะพอใช้ได้ เลยลองเลือกเข้ามหาลัยในอังกฤษชั้นแนวหน้าในคณะที่การแข่งขันสูง ผลลัพธ์คือเครียดเป็นปีๆ ครับ ไม่สนุกเลย
แต่ผมเลือกเอง และถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผม สุดท้ายบอกกับตัวเองว่า โชคดีที่จบมาได้ และถ้ามีลูก จะไม่บังคับลูกเลือกแบบผมแน่นอน
ผมว่าในฐานะของพ่อแม่ ถ้าถามอะไรสำคัญสุดสำหรับลูก ผมเชื่อครับว่า เราขอแค่ให้ลูกเป็นคนดี ไม่ต้องร่ำรวย "ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข" แค่นั้นพ่อแม่ก็ดีใจที่สุดแล้วครับ
ทุกครั้งที่ผมอธิฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ลูกๆ ผมจะขอแบบนี้ทุกครั้งครับ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย