"โรงเรียน" ฝรั่ง VS ไทย
"โรงเรียน" เป็นสิ่งที่เราทุกคนปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีความสำคัญต่ออนาคตของมนุษย์ทุกคน มาดูกันว่าโรงเรียนในประเทศที่พัฒนาแล้วต่างหรือเหมือนอย่างไรกับประเทศไทย มาจับเข่าคุยกันจ้า😊
ขอบคุณภาพ BBC : https://www.bbc.com/thai/international-50642536
เรามีลูกคนแรกก็ตอนหลังจากย้ายมาอยู่ที่ประเทศสวีเดนแล้ว เราก็เลยไม่มีประสบการณ์การเป็นแม่ที่ต้องเลือกโรงเรียนให้ลูกในประเทศไทยโดยตรง แต่เราก็เคยเห็นความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้จากคนรอบข้างที่เรารู้จัก
มีบางคนที่อยู่นอกเมืองหลวง เช่น หลายครอบครัวที่เรารู้จักซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากเมืองหลวงเกือบ 60 กิโลเมตร ตอนลูกเรียนอนุบาลก็ยังพอมีโรงเรียนอนุบาลที่ไว้ใจได้และอยู่ใกล้บ้าน
พอตอนเข้าเรียน ป.1 พ่อแม่ก็เริ่มคิดหนัก จะให้ลูกเรียนที่ไหนดีถึงจะช่วยให้ลูกได้เริ่มต้นเรียนโรงเรียนดีๆ เพื่อเป็นพื้นฐานให้สอบเข้ามหาวิลัยรัฐบาลดังๆในอนาคตได้ 😰😰
ทางเลือกของแต่ละครอบครัวอาจจะต่างกันไป แต่ครอบครัวที่เรารู้จักและรวมถึงหลายๆครอบครัวก็เลือกที่จะส่งลูกไปเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในตัวเมือง 👦🏻 👧🏻
กว่าที่เด็กจะสอบเข้าเรียนนี้ได้ต้องผ่านการเรียนพิเศษ ผ่านการฝึกอย่างหนักทั้งที่พวกเขายังเป็นเด็กอนุบาล ยอมรับว่าโรงเรียนอนุบาลแห่งนั้นฝึกเด็กได้เก่งและสามารถพาเด็กจำนวนหนึ่งผ่านการสอบเข้าโรงเรียนที่ผู้ปกครองต้องการได้ แต่กระนั้นพ่อแม่ก็ต้องยอมเสียค่าบำรุงหรือเงินบริจาคพิเศษให้แก่โรงเรียนดังแห่งนั้น
หลังจากนั้นพ่อแม่ก็ต้องคอยปลุกลูกตื่นแต่เช้าเพื่อรอรถประจำมารับที่บ้าน บางคนก็เอาอาหารเช้าไปกินในรถ ตอนเย็นๆสัก 6 โมงใกล้ๆ ทุ่ม รถก็พาลูกมาส่งที่บ้าน วันไหนมีเด็กที่ร่วมเดินทางในรถเรียนพิเศษก็ถึงบ้านช้าหน่อย
https://www.hongpakkroo.com/5574.html
ทุกคนเข้าใจและเชื่อว่านี่คือสิ่งที่จะช่วยให้เด็กๆมีอนาคตที่ดี เด็กๆก็ยอมตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปกับรถประจำ แทนโอกาสที่จะได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามโรงเรียน พ่อแม่ก็โล่งใจเมื่อรถประจำมาส่งลูกที่บ้านทุกเย็น มันหมายถึงไม่มีอุบัติเหตุหรืออันตรายใดๆเกิดกับลูก
ภายใต้ความภูมิใจที่สามารถเลือกโรงเรียนดีๆในเมืองหลวงได้นั้น มันคือความเหนื่อยล้าของเด็กๆและความกังวลของพ่อแม่ 😳😳
โรงเรียนที่บ้านเราหรือที่ประเทศไทยมีให้พ่อแม่ได้เลือกมากมาย หลายระดับ ตั้งแต่โรงเรียนรัฐบาลที่เรียนฟรี ถึง โรงเรียนนานาชาติที่แพงที่สุด ซึ่งเราลองเซิร์คดูมีค่าเรียนต่อเทอม 7 แสนกว่าบาท
พ่อแม่ที่มีลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาลก็อาจจะยอมรับว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว พ่อแม่ที่สามารถส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติก็สามารถภูมิใจและเชื่อว่าลูกจะมีอนาคตที่ดีกว่า
เราทุกคนต่างคุ้นเคยจนชินชากับความเหลื่อมล้ํานี้ ภายใต้แนวคิดที่เราถูกทำให้เชื่อว่าเรามีสิทธิเสรีภาพ อิสรภาพ หรือนี่คือสิทธิเสรีภาพและอิสรภาพที่เราสามารถเลือกเองได้ (ตามอัตภาพที่เรามี) หรือนี่คือความเท่าเทียม ความเสมอภาค ที่เรา (ไม่ยาก) มี 🙄 🤔
ประสบการณ์การเป็นแม่ที่ประเทศสวีเดน เราไม่เคยต้องมานั่งศึกษาหรือคอยเลือกว่าโรงเรียนไหนดีที่สุดสำหรับลูกและจะต้องเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของเราด้วย เพราะโรงเรียนที่นี่ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเรียนฟรี มีโรงเรียนเอกชนให้เลือกบ้างแต่ก็เรียนฟรีและมีมาตราฐานเท่าๆ กับโรงเรียนรัฐบาล 😊😊
โรงเรียนบ้านนอกที่ตั้งอยู่หน้าบ้านหรือโรงเรียนที่อยู่ในเมืองหลวงก็มีมาตราฐานและคุณภาพใกล้เคียงกัน เด็กทุกคนมีจุดเริ่มต้นที่เท่าเทียมกัน แม้แต่เราเองก็ไม่เคยต้องน้อยใจหรือใจเสียที่ไม่สามารถเลือกโรงเรียนดีๆให้ลูกเท่าเทียมกับคนสวีเดนแท้ๆ😍😍
เราชอบที่ประเทศนี้ทำให้การศึกษาซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในชีวิตมนุษย์และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานมีความเท่าเทียมกัน และเราก็ชอบและเชื่อว่าระบบการศึกษาของเขามีประสิทธิภาพและดีต่อลูกของเรา ❤️
ไว้เราจะมาเล่าประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบการศึกษาของเขา ผ่านการเรียนของลูกในตอนต่อๆ ไป ขอบคุณทุกคนมากที่อ่านมาจนจบถึงตรงนี้ ว่างๆ ฝากมาเป็นเพื่อนฟังเพื่อนคุยกันอีกนะ บายๆ 😊😊
⭐️ปล.
🌼บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบกาณ์ของผู้เขียนเอง ดังนั้นไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเหมือนกับประสบการณ์ของผู้อื่นทั้งในประเทศไทยและสวีเดน
🌼ระบบการศึกษาของประเทศฝรั่งแต่ละประเทศอาจจะต่างกันไป ในบทความนี้เขียนขึ้นตามประสบการณ์ที่ได้รับจากประเทศสวีเดนเท่านั้น
🌼 “หญิงไทยสเปคฝรั่ง” ในความคิดของ ฝรั่ง VS ไทย
🌼 “เยาวชน กับ การชุมนุม” ฝรั่ง VS ไทย
🌼 “ย้ายประเทศกันเถอะ” ฝรั่ง VS ไทย
🌼 “เชื่อฟัง - ฟังแล้วเชื่อ” ฝรั่ง VS ไทย
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
