10 Time Management Tips w/ Ali
https://www.youtube.com/watch?v=iONDebHX9qk&t=12s
วันอาทิตย์นี้มาเริ่มกันว่าด้วย 10 Time Management Tips ในแบบฉบับของ Ali Abdaal ก่อนอื่นเลย Ali เป็นใคร? สั้นๆเลยคือเป็นคุณรวิศ (Mission to the Moon) ที่อยู่อีกประเทศนึงเท่านั้นเอง 😂 คำจำกัดความของ Ali คือชายหนุ่มผู้บ้าพลัง ทำทุกอย่าง และทำทุกอย่างได้ดีมากด้วย เขาเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่ Cambridge, UK เขาทำวิดีโอเกี่ยวกับพวกเรื่องยา, เทคโนโลยี, productivity, และการออกแบบ lifestyle นอกจากนี้ยังทำ weekly podcast แล้วก็ยังเขียน blog อีกด้วย
.
วันนี้เลยหยิบเอาวิดีโอของ Ali ว่าด้วยเรื่อง 10 tips ในการบริหารจัดการเวลาความยาว 11.48 นาทีใน Youtube มาสรุปให้ทุกคนได้อ่านเป็นบทความจบภายในเวลาที่น้อยกว่า 5 นาที เพื่อช่วยประหยัดเวลาทุกคน ให้ได้รับเนื้อหาความรู้โดยไม่ต้องไปดูเอง (แต่ถ้าใครสนใจ มีแปะลิงค์ไว้ใน comment ฮะ)
.
1. We own all of our time
เราเป็นเจ้าของเวลาโดยสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้นในแต่ละขณะที่เรากำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ นั่นหมายถึงว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราอยากจะทำมากที่สุด เราเลยเลือกมันขึ้นมาทำ หรืออีกอย่างคือเวลาของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเราเอง เพราะฉะนั้นการที่เราบอกว่าไม่มีเวลาในการทำบางอย่าง มันไม่ได้เป็นเพราะเราไม่มีเวลาจริงๆ แต่เพราะสิ่งนั้นไม่ใช่ priority ของเราต่างหาก (ไม่มีเวลา หรือไม่มีใจ? โดยดีเจพี่อ้อย 55555)
.
2. Hell yeah or no
ตอนเด็กๆเรายังไม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบมากนัก เราเลยสามารถทำแทบทุกสิ่งทุกอย่างได้ใน 1 วัน แต่พอโตขึ้น ชีวิตมีหลายด้านให้จัดการ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะรู้สึกโอเคกับการปฏิเสธไม่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งบ้าง หรือใช้การตัดสินใจในช่วงสั้นๆเลย ว่ามีสิ่งนี้เข้ามา ถามตัวเองตอนนั้นเลยว่าเรารู้สึกว่า hell yeah ก็ทำมันซะ ถ้า hell no ก็ลาก่อน
.
3. The daily highlight
เลือกออกมาหนึ่งอย่างว่ามีอะไรที่ต้องทำให้เสร็จที่สำคัญที่สุดในวันนี้ แล้วทำมันซะ ถ้าไม่มี วันทั้งวันเราก็จะไหลไปโดยแม้กระทั่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ไม่ได้ทำ
.
4. Use a to-do list
เพราะสมองคนเรามีไว้เพื่อคิด สร้างสรรค์ไอเดีย แต่ไม่ได้มีไว้เพื่อเก็บไอเดีย หรือสิ่งที่ต้องทำไว้ เพราะฉะนั้นเขียนมันออกมา เพื่อให้สมองเราไม่ต้องคอยจำว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
.
5. Time blocking
ในเวลาที่เราอยากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้ใช้วิธี block สิ่งนั้นลงใน calendar ไปเลย ถ้าเอา daily highlight ในข้อ 3 มากำหนดเวลา ว่าต้องทำกี่โมง ก็จะยิ่งดี เพราะต่อให้เรายุ่ง เรายังเลื่อน item นี้ไปมา เปลี่ยนเวลาได้ โดยที่มันก็ยังอยู่บน calendar เป็นการเตือนว่าไม่ช้าก็เร็วในวันนี้ เราต้องทำสิ่งนี้นะ
.
6. Parkinson's Law
work expands to fill the time that we allocate to it หมายถึงว่าเรากำหนดว่าเราจะทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จโดยใช้เวลาเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็จะเสร็จในเวลาที่เราจัดแจงในการทำมัน เช่น เราจะตัดต่อวิดีโออันนี้ใช้เวลา 1 เดือน สุดท้ายเราก็ใช้เวลาหนึ่งเดือนในการทำมันจนเสร็จจริงๆ แต่ถ้าเรากำหนด artificial deadline ไว้ว่าต้องเสร็จภายใน 1 อาทิตย์ สุดท้ายเราก็ทำเสร็จใน 1 อาทิตย์จริงๆ
.
7. Protected time
ควรมีเวลาให้กับตัวเองทุกวัน เวลาที่ไม่มีใครมารบกวนเราเลย เพื่อให้ได้คิดสิ่งต่างๆ หรือวางแผนในแต่ละวัน หรือเอาไว้ทำ deep work ก็ได้
.
8. Delegation
คิดก่อนว่าตัวเราเองเนี่ย ถ้าคิดคำนวณมาเป็นต่อชั่วโมง มูลค่าของตัวเราคือเท่าไหร่ แล้วถ้ามีงานไหนที่สามารถจ้างคนอื่นได้ในราคาที่ถูกกว่าค่าตัวของเรา แล้วเราก็ไม่ได้อยากทำงานนั้นๆ ก็ให้คนอื่นทำซะ
.
9. Automated scheduling
เวลาจะนัดหมายอะไร แม้กระทั่งนัดกินข้าวกับเพื่อน ก็ส่ง link calendar ของตัวเองให้เพื่อนนัดมาเลย ทำแบบนี้จะช่วยลดการเปลี่ยนแผนไปมาได้ เพราะเวลาไม่ตรงกันสักที
.
10. The choice to be satisfied
พอจบวันแต่ละวัน เราต้องรู้จักเลือกที่จะพึงพอใจกับสิ่งที่เราทำเสร็จในวันนั้นๆ เพราะมันก็เปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ทำเสร็จมากขึ้นไม่ได้อยู่ดีกับการที่เรามานั่งโทษ และกดดันตัวเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
