26 พ.ค. 2021 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์
• ใช้ชีวิตเรียบง่าย สัมผัสธรรมชาติ •
ที่สมจิต ฟาร์มสเตย์ 🏕
สัมผัสกับชีวิตที่เรียบง่ายและใกล้ชิตธรรมชาติ นอนบ้านไม้ไผ่ หรือใครชอบแคมป์ปิ้งก็มีลานกางเต็นท์ให้บริการ พร้อมทั้งส่วนของร้านกาแฟและสวนผักผลไม้ปลอดสารพิษที่ สมจิต ฟาร์มสเตย์ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ และไม่มี WIFI
เล็ก ภาวิณี มิ่งสอน และ กอล์ฟ ธนพงศ์ ท้าวเมือง ตั้งใจสร้างให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติในบรรยากาศย้อนยุคหน่อยๆ ผ่านการออกแบบบ้านพักทั้ง 4 หลังและร้านกาแฟ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายในวัยเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นจานชามสังกะสี การใช้ไม้ไผ่ กระทั่งการนอนบนฟูกปูพื้นแบบไม่มีเตียง
บนพื้นที่ 8 ไร่ ถูกแบ่งมาครึ่งหนึ่งเพื่อทำเป็นบ้านพัก ร้านกาแฟ ซุ้มขายของ และลานกางเต็นท์ เปรียบเสมือนห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และสวนหลังบ้าน
สมจิต ฟาร์มสเตย์ โดดเด่นด้วยโครงสร้าง ‘ไม้ไผ่’ ที่ใช้ทำร้านกาแฟ บ้านพัก และซุ้มขายของ ซึ่งมาจากความชอบส่วนตัว อีกทั้งพื้นที่บริเวณนี้ยังเคยเป็นสวนไผ่มาก่อน
“ส่วนตัวเป็นคนชอบงานไม้ไผ่เพราะเราคิดว่ามันมีอะไรมากกว่าการถูกเอามาทำตะเกียบกับไม้จิ้มฟัน ไผ่มีความอ่อนช้อย มันสามารถนำมาดัดให้เป็นรูปทรงต่างๆ ที่เป็นงานศิลปะได้ และไม้ไผ่ยังเป็นไม้ที่เก็บความเย็น เมื่อนำมาสร้างบ้านจึงช่วยให้บ้านเย็น บวกกับสวนของคุณแม่เมื่อก่อนตรงนี้เป็นสวนไผ่ทั้งหมด เราจึงขอล้มสวนไผ่แล้วใช้ไผ่ของคุณแม่บางส่วนที่สามารถใช้งานก่อสร้างได้มาประกอบในการก่อสร้าง เช่น ฐานของร้านกาแฟก็ใช้ไผ่ของที่นี่”
บ้านหลังใหญ่ที่ใช้ไม้ไผ่เป็นโครงสร้างหลัก
ขออนุญาตพาทัวร์บ้านหลังใหญ่ โดยเริ่มต้นที่ห้องนั่งเล่นสำหรับใช้รับแขก ได้แก่ ร้านกาแฟ 2 ชั้นที่สร้างด้วยไม้ไผ่ รูปทรงครึ่งวงกลมทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้เกือบรอบทิศ และหากมองจากมุมสูงจะเห็นว่าหลังคาของร้านกาแฟเป็นรูปใบไม้
ชั้นล่างเป็นบาร์กาแฟที่ให้บริการกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงยังมีอาหารที่ใช้ผักปลอดสารพิษจากสวนเป็นวัตถุดิบหลักให้บริการด้วย
ใครอยากค้างบ้านเพื่อนต้องไปดูห้องนอน คือ บ้านพักสไตล์โฮมสเตย์ 4 หลัง แบ่งเป็น ‘บ้านพักลุงชุม’ 2 หลัง มีห้องน้ำในตัว และ ‘บ้านรังนก’ 2 หลัง ห้องน้ำรวม ราคาหลังละ 1,400 บาทเท่ากันตลอดทั้งปี ไม่มี Low Season หรือ High Season รวม
บริการอาหาร 2 มื้อ ได้แก่มื้อเช้าและมื้อเย็น
ทั้ง 4 หลังสร้างด้วยไม้ไผ่และไม่มีแอร์ เพราะอากาศที่นี่เย็นตลอดทั้งปีแม้กระทั่งฤดูร้อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ภูเขาและยังเป็นต้นน้ำ มีน้ำไหลผ่าน
“แบบแรกเราคิดถึงบ้านในสมัยก่อนที่มีใต้ถุงสูง ซึ่งหลักของการยกสูงก็คือเพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน และในบ้านจะไม่มีเตียง เป็นฟูกที่ปูกับพื้น เหมือนได้ย้อนกลับไปในบรรยากาศสมัยก่อน บ้านแบบที่สองเรียกว่าบ้านรังนก เกิดจากความใฝ่ฝันของคุณพ่อ ตั้งแต่ที่คุณพ่อได้พื้นที่นี้มา เขาเคยคิดว่าอยากจะทำเป็นรีสอร์ทและมีบ้านต้นไม้ เราก็มาสานต่อความฝันนั้นในรูปแบบของเรา
เราทำบ้านต้นไม้โดยให้คอนเซปต์เป็นรังนกและเป็นแบบ Open Air ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพราะลมธรรมชาติในแต่ละฤดูของที่นี่ไม่เหมือนกัน เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ เพราะพื้นที่ตรงนี้ในช่วงฤดูร้อนก็อากาศไม่ร้อนมาก กลางคืนอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 25 องศาเซลเซียส ไม่มีแอร์ก็นอนได้ เราอยู่ที่นี่ทุกฤดู เราจึงรู้ เราก็เลยอยากให้ลูกค้าได้มาสัมผัส มาลองดูว่าการที่ไม่ได้เปิดแอร์มันเป็นยังไง”
ห้องครัวของที่นี่คือซุ้มขายผักและขนมฝีมือคุณแม่ และส่วนสุดท้ายคือสวนหลังบ้าน เป็นพื้นที่ของลานกางเต็นท์สำหรับสายแคมป์ปิ้ง
“ต่อไปในอนาคตเราก็จะทำเป็นกาแฟแคมป์ คือเราจะเปิดบ้านรังนกหลังสุดท้ายให้ลูกค้าได้นั่งดริปกาแฟเอง ชง Moka Pot เอง ทำชาเอง ในคอนเซปต์แคมป์ ซึ่งก็เป็นการต่อยอดจากโซนกางเต็นท์”
ที่นี่ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคชมวิวสองฝั่งคลองตะเคียง ซึ่งเป็นต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำคลองกระแส และไม่ไกลกันมากยังมีถ้ำค้างคาว ถ้ำหินย้อย และกิจกรรมปีนเขาสำหรับสายแอดเวนเจอร์
ใครอยากมาเที่ยวบ้านเพื่อนหลังนี้ต้องรอวันที่เจ้าของอยู่บ้าน ก็คือวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ร้านกาแฟจึงเปิดให้บริการเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ ส่วนห้องพักก็เปิดให้พักได้ 2 วันเท่านั้น คือวันศุกร์และวันเสาร์ จึงจำเป็นต้องบอกเจ้าของบ้านก่อนล่วงหน้า
โฆษณา