10 พ.ค. 2021 เวลา 05:42 • สุขภาพ
วิธีการทาน เก๋ากี้! เพื่อบำรุงเลือด คลายเส้นประสาท
บำรุงตับและสายตาให้ดีอย่างรวดเร็ว !!!
1
ทันทีที่คนเรา "สูงวัยขึ้น" วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพคือ
"แช่เก๋ากี้ในถ้วยเก็บความร้อน"
ตั้งแต่สมัยโบราณ เก๋ากี้! นั้นเป็นสมุนไพรจีนที่ดูแลสุขภาพ
มาอย่างช้านาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความตระหนัก
ด้านสุขภาพผู้คนที่เพิ่มมากขึ้น
เราจึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ
ของ เก๋ากี้ ดังนั้นผลไม้ชนิดนี้จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่ดี
เป็นที่ต้องการของคนทั่วไปอย่างแพร่หลาย
เก๋ากี้ Wolfberry ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากที่สุดในโลก
<<คัมภีร์เสินหนงเปิ๋นเฉ่าจิง>>
ตำราจีนเกี่ยวกับการเกษตรและพืชสมุนไพร
ซึ่งเชื่อกันว่าสืบทอดมาจากเฉินหนง
เก๋ากี้ เป็นสมุนไพรที่เชื่อกันว่า ทานแล้วจะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ชะลอความแก่ชรา ทนเย็นทนร้อนได้ ดังนั้นจึง
ถูกขนานนามว่า "ตัวต้านแก่"
สารสกัดเก๋ากี้มักใช้เป็นวัตถุดิบของสมุนไพรหลายชนิด
และได้มีการบันทึกจากเหล่าผู้คนที่ได้ใช้ถึงฤทธิ์สรรพคุณ
ในวิธีการทานเพื่อบำบัด
 
/// วิธีการทานเก๋ากี้ที่ถูกต้องคุณรู้อย่างถ่องแท้จริงหรือ ///
1
1.เวลาชงเก๋ากี้ ห้ามใช้ น้ำ ประเภทนี้
อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมสำหรับการแช่เก๋ากี้ คือ 45 ~ 60 องศา เนื่องจากการต้มน้ำร้อนจะทำลายองค์ประกอบทางโภชนาการส่วนใหญ่ในเก๋ากี้ เช่นแคโรทีนเบทาอีน ฯลฯ ด้วยประการฉะนี้ พอกินเข้าไปในปากแล้ว ก็จะไม่ได้สารอาหารอะไรเลย
นอกจากนี้อย่าชงเก๋ากี้แช่น้ำไว้นาน สารหลายชนิดใน เก๋ากี้ ละลายน้ำได้ยาก
ให้ทำการดื่มพร้อมเคี้ยวในปากเพื่อการดูดซึมสารอาหารจาก เก๋ากี้ ได้ดีที่สุด
1
เก๋ากี้ต้องต้มในอุณหภูมิ 45-60 องศา
2.เก๋ากี้ ให้เคี้ยวจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด
เนื่องจากอิทธิพลอุณหภูมิของน้ำ เวลาในการแช่และปัจจัยอื่น ๆ
ส่วนผสมทางยาในผลไม้ชนิดนี้สามารถปล่อยลงในน้ำหรือซุปได้ได้เพียงบางส่วน
การเคี้ยวด้วยปากโดยตรงจะทำให้ดูดซึมสารอาหารในเก๋สกี้ได้เต็มที่มากขึ้น
ซึ่งทำให้ผู้รับประทานได้โภชนการสูงสุด
โดยทั่วไปผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงควรรับประทานเก๋ากี้ประมาณ 20 กรัมต่อวัน
หากเอาเก๋ากี้มาเคี้ยว ปริมาณที่รับประทานจะต้องลดลงครึ่งหนึ่งมิฉะนั้น
จะเป็นการบำรุงมากเกินไป
1
หากคุณไม่อยากเคี้ยวเก๋ากี้ ก็ให้นำไปใส่ในอาหารชนิดต่างๆ
เพื่อให้มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น
1
3.เอาเก๋ากี้ผสมกับสิ่งเหล่านี้ยิ่งเสริมสรรพคุณ
3.1 ทานคู่กับ แบะตง ชื่อวิทยาศาตร์ว่า Radix Ophiopogonis
เป็น สมุนไพรประเภทหยิน จะช่วยให้ปอดชุ่มชื้น บำรุงกระเพาะอาหาร คลายความร้อน บรรเทาอาการกระสับกระส่ายทำให้สดชื่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ดีมากสำหรับคนที่เป็นโรค เบาหวาน
3.2 ทานกับเก๊กฮวย
เก๊กฮวยมีฤทธิ์ในการขจัดความร้อนและการขับสารพิษออกไป
เก๊กฮวยมีฤทธิ์ไกล้เคียงกับเก๋ากี้ ช่วยบำรุงสายตา
ทั้งสองอย่างมีผลดีในการบรรเทาอาการตาล้าและตาพร่ามัว
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
ชงน้ำอุ่นทานพร้อมกับดอกเก็กฮวย
3.3 ทานคู่กับสูตี้หวง
ใช้สำหรับอาการปวดเอวและปวดเข่าเพราะเกิดจากการขาดหยินของตับและไต
ประจำเดือนมาไม่ปกติ อสุจิไม่สมบูรณ์ ริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ
นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับแก้อาการวิงเวียนศีรษะหูอื้อเวียนศีรษะ ฯลฯ
ที่เกิดจากตับและไตทำงานบกพร้องทำให้เลือดไม่เพียงพอ
สูตี้หวง
สรรพคุณ] - บำรุงตับไต - บำรุงเลือดและสารจำเป็น - บำรุงไขกระดูก - ช่วยให้เส้นผมดกดำ - ช่วยในการมองเห็นและการได้ยิน - เสริมสร้าง​กล้ามเนื้อ เหมาะกับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ​ ใบหน้าซีดเซียว​
3.4 ทานคู่กับ ปั๊กซัวเซียม
ใช้สำหรับอาการไอและคอแห้ง เจ็บที่ปอดและกระเพาะอาหาร เนื่องจากหยินพร่อง
ดับกระหาย แก้อาการที่เกิดจากพลังหยินพร่องต่างๆ
ปั๊กซัวเซียม 北沙参. สรรพคุณ: บำรุงหยิน,กระเพาะ ดับร้อนในปอด. รสชาติและคุณสมบัติ: รสหวาน ขมเล็กน้อย เย็นเล็กน้อย. เข้าสู่เส้นลมปราณ: ปอด กระเพาะอาหาร.
3.5 ทานคู่กับลูกเดือย
นำเก๋ากี้และลูกเดือยใส่ในชาสามารถบำรุงตับปรับปรุงสายตาและขับเหงื่อ
เหมาะทานในช่วงอากาศหนาวชื้นเป็นอย่างมาก
แต่ไม่เหมาะกับคนที่อ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
3.6 ทานคู่กับหวงฉี
หวงฉีบำรุงลมปราณ ขับปัสสาวะ ลดบวม ขับพิษ
การทานคู่กันกับเก๋ากี้ สามารถกระตุ้นพลังชี่ของตัวหวงฉีขึ้นมา
"หลี่สือเจิน" (หมอเทวดาสมัยราชวงศ์หมิงของจีน)
ขนานนาม สมุนไพรหวงฉีว่า ยาบำรุงพลังแห่งชีวิต
มีชื่อเสียงในด้าน "ยาเติมพลังชี่ที่ดีที่สุด"
3.7 ทานคู่กับผักกาดขาว
ผักกาดขาว ออกไปทางธาตุเย็นเล็กน้อย
ทานเป็นประจำมีผลในการบำรุงกระเพาะอาหาร
ดับกระหาย แก้ร้อนใน ช่วยขับปัสสาวะและดีท็อกสารพิษ
เก๋ากี้และผักกาดขาวนึ่งรวมกันซึ่งมีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
3.8 ทานคู่กับลำไย
ผลที่โดดเด่นที่สุดของชานี้คือช่วยบรรเทาเส้นประสาทและช่วยให้นอนหลับ
ผู้ที่มักจะนอนไม่หลับ ฝันบ่อยและใจสั่นแรงอาจต้องการดื่มเป็นประจำ
เนื่องจากมีฤทธิ์ในการปรับสภาพภายในที่ดี
เก๋ากี้ต้มกับลำไยอร่อยแถมได้สุขภาพ
หากเป็นหวัดมีไข้ ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ
ผู้ที่มีอาการท้องร่วงและอุจจาระเหลว ไม่ควรรับประทานเก๋ากี้
นอกจากนี้หากรู้สึกไม่สบายเกิดขึ้นในขณะที่ทานเก๋ากี้
ควรหยุดทานทันที
*** ถ้าชอบบทความอย่าลืมกดติดตามให้หน่อยนะครับ ***
วันนี้มีสมุนไพรที่โด่งดังในประเทศจีนมาแนะนำ ชื่อว่า ไหโก่วหวัน ซึ่งมีสารสกัดจาก
เก๋ากี้ ซึ่งเป็นเก๋ากี้ที่ดีที่สุดในโลก ไหโก่วหวัน ช่วยบำรุง ปอด ม้าม ไต
สมุนไพรชั้นเอกของไหโก่วหวัน
บำรุงไตดีที่สุดในโลก ไหโก่วหวัน
ด้วยกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันและละเอียด ผลิตภัณฑ์ไหโก่วหวัน ได้สืบสานเจตนารมณ์ “ดีเลิศ ซื่อสัตย์ ดั้งเดิม และปรารถนาดี” ของแบรนด์อี้ฟางถัง สร้างสมสรรพคุณอันล้ำเลิศของผลิตภัณฑ์บำรุงไตที่สืบทอดมาจากอดีตกว่าร้อยปี เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างสุขภาพด้วยการมีไตที่แข็งแรงในขั้นพื้นฐาน ซึ่งแตกต่างกับผลิตภัณฑ์บำรุงไตในลักษณะที่เจาะจงเพียงด้านเดียวที่มีอยู่ทั่วไป ไหโก่วหวัน ตราอี้ฟางถัง ได้อาศัยทฤษฎีว่าด้วยการทำงานเกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกัน และส่งผลต่อกันของอวัยวะภายในร่างกาย เน้นการบำรุงระบบการทำงานของไต ม้าม และ ปอด ทั้ง 3 ระบบ ซึ่งทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน มีผลต่อการแก้ไขความเสื่อมสภาพของไต เสริมประสิทธิภาพการทำงานของม้าม (ผลิตเม็ดเลือด กรองเลือด ทำลายเม็ดเลือดที่หมดอายุ และเป็นแหล่งสำรองเลือด) และปอด ซึ่งควบคุมระบบหายใจ เพื่อให้ระบบการทำงานของม้ามและปอดกลับมาสนับสนุนระบบการทำงานของไต ทำให้ไตเปี่ยมด้วยพลัง และส่งผลต่อความกระฉับกระเฉงของร่างกาย แก้ไขปัญหาความเหนื่อยล้าของไตในขั้นพื้นฐาน บรรลุซึ่งเสริมสมรรถภาพทางร่างกายโดยรวม ทั้งภายในและภายนอกให้ดีขึ้น
ลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์
ไหโก่วหวัน ผลิตจากสมุนไพรทางธรรมชาติ ส่วนประกอบสำคัญ คือ ไหโก่ว โก๋วจี่ (เก๋ากี้) อี้จื้อ (เอี๊ยะตี่) ซันเย่า (ซัวเอี๊ยะ) ฉานหย่ง (ฉ่ายย่ง) โย่วกุ้ย (เน็กกุ่ย) ฯลฯ จากการทดสอบพบว่า ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้ง่าย ปกป้องให้ร่างกายมีสุขภาพดี
· ส่วนประกอบสำคัญ : ไหโก่ว โก๋วจี่ อี้จื้อ ซันเย่า ฉานหย่ง โย่วกุ้ย
· สารอาหารและปริมาณ : ใน 100 g ประกอบด้วย โพลิแซคคาไรด์ ชนิดหยาบ 250 mg
· สรรพคุณ : ต่อต้านความอ่อนเพลียของร่างกาย
บำรุงไตโดยไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย มีผลต่อการต่อต้านความเหนื่อยล้าของไต
บำรุงไตด้วยการเสริมพลังวังชา ป้องกันความเสื่อมของไต
เสริมภูมิต้านทานของร่างกาย ต่อต้านความอ่อนเพลีย ช่วยชะลอความแก่
เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบกระดูกและเอ็น ขับภาวะลมและภาวะเย็นในร่างกาย
· วิธีรับประทาน : วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 8 เม็ด (ถ้าเคี้ยวกินยิ่งดี)
· เหมาะสำหรับ :
1. ผู้ที่มีภาวะไตอ่อนล้า ไตอ่อนแอ ที่มีอาการเข่าไม่มีแรง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ องคชาตไม่แข็งตัว อาการหลั่งเร็ว เป็นต้น
2. ช่วยประกอบการรักษาผู้เป็นโรคไตเรื้อรัง แต่สมรรถภาพของไตยังคงปกติอยู่
3. ผู้มีภาวะโลหิตบกพร่อง เช่น โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวน้อยผิดปกติ เป็นต้น
4. เป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกงอก และข้อเสื่อม
5. ช่วยปรับดุลยภาพของร่างกายต่อผู้เป็นโรคหลอดเลือดทางหัวใจและสมอง และผู้เป็นเบาหวาน
6. ช่วยปกป้องระบบตับ และ ดี เช่น ตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง ไขมันพอกตับ และ ถุงน้ำดีอักเสบ เป็นต้น
7. ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ผิดปกติอันเกิดจากภาวะผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อภายในกระดูกเชิงกรานอักเสบ เป็นต้น
8. ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส มีน้ำมีนวล ช่วยชะลอความแก่
1
โฆษณา