10 พ.ค. 2021 เวลา 12:44 • ไลฟ์สไตล์
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ และให้กำลังใจ สำหรับคนที่คิดอยากจะย้ายประเทศ แต่ตัวเองทำงานที่หน่วยงานของรัฐ หรือ หน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ คิดยังไง ทำไมถึงออก ไม่เสียดายงานเก่าหรอ ยี่อาจจะเคยเล่าให้คลิปวีดีโอแล้ว https://www.facebook.com/YuyeeinSpain หรือ https://www.youtube.com/channel/UCZpcVqh4WCO2q8tXgblqxNA
วันนี้ยี่จะมาในรูปแบบเขียนดู มาค่ะ วันนี้ยี่จะเล่าให้อ่านกันค่ะ
1.ตอนแรกก็ขอเกริ่นก่อนนะคะ ที่ทำงานเก่าของยี่ ตอนที่ยี่ทำงานครั้งแรกเป็นที่ๆยี่คิดว่า จะเป็นที่สุดท้ายของชีวิต เพราะสวัสดิการดี เงินเดือนสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดดี แต่พอทำงานมาได้สักพัก 5 ปี ก็ผันตัว จากคนที่ชอบคนไทย มาชอบสายฝ. แต่ก็ไม่ได้มีความคิดจะเปลี่ยนงาน
2.พอคบกับแฟนได้สักพัก แฟนก็กลับมาทำงานที่สเปน แล้วก็เลยเริ่มคุยกันว่า ให้ยี่มาที่สเปนไหม ด้วยความที่ตอนนั้น เรารู้สึกอยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง เราก็เลยตอบตกลงกับแฟน ว่าโอเค ฉันจะไปที่สเปน และยี่ก็คุยกันกับครอบครัว และเขาก็โอเครในตรงนี้
3.แต่กว่าจะตกลงกันได้ว่าควรมาด้วยวีซ่าอะไร ก็ลากยาวมากว่า2ปี จนเพื่อนในที่ทำงานไม่คิดแล้ว ว่าเราจะไปต่างประเทศ ( ไอ้เราก็สาวช่างเม้าส์เรื่องตัวเอง ไม่เคยมีความลับกับใครเลย )
4.เราตกลงกันว่าจะจดทะเบียนสมรส แต่ว่าจะจดทะเบียนสมรสที่ไหนล่ะ เพราะแฟนเป็นคนบัลแกเรีย ทำงานที่สเปน ที่ไทยไม่มีสถานทูตบัลแกเรีย (มีอยู่ที่เวียดนาม) ส่วนที่บัลแกเรียไม่มีสถานทูตไทย (มีอยู่ที่โรมาเนีย) ครั้นแฟนจะลางานมาที่ไทย ก็กลัวเอกสารมีปัญหา แล้วต้องไปแก้ไขที่เวียดนามซึ่งจากการสอบถามแล้วคิดว่าจะวุ่นวายมาก ครั้นจะไปจดทะเบียนสมรสที่บัลแกเรีย ก็ต้องบินไปกลับ อย่างน้อย2ครั้ง ครั้งแรกไปจดทะเบียน ครั้งที่2 ไปรับเอกสาร พร้อมทำบัตร (ไม่มั่นใจว่าเขาเรียกอะไรค่ะ แต่น่าจะคล้ายๆบัตร NIE ของสเปน) เราจึงตกลงกันว่า มาที่สเปนเพราะมีทั้งสถานทูตไทย และ สถานทูตสเปน
5.แฟนก็ไปสอบถามหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการจดทะเบียน เราจึงตกลงว่า ยี่จะทำวีซ่านักเรียน (เป็นวีซ่าเรียนภาษาอย่างเดียว7เดือน) แล้วระหว่างนั้นก็จดทะเบียนสมรสค่ะ โชคดีที่จดทะเบียนสมรสเสร็จก่อนช่วงโควิด
ข้างบนนี้เป็นกระบวนการที่ทำก่อนจดทะเบียนสมรส แต่ข้างล่างนี้จะเป็นการเขียนเกี่ยวกับความคิดก่อนที่จะลาออกจากงาน
1.ทำไมถึงออกจากงานมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ
- ยี่คิดว่ายี่มีโอกาสแล้ว ในเมื่อมีคนหยิบยื่นโอกาสมาให้ ยี่ก็ไม่ลังเลที่จะรับโอกาสนั้น แม้ว่าตอนนั้นยี่จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศสเปนเลย และแม้จะกลัวๆอยู่บ้างว่าสิ่งที่ยี่เลือกจะทำให้เสียใจภายหลัง และ ในวันที่ตัดสินใจจะมา เป็นช่วงอายุ 28-29 ปี ยังคิดว่าเรายังไม่แก่มาก และเรายังทำงานไม่นาน เงินเดือนยังไม่มาก หากจะมามัวรอว่าคบกันไปก่อนสัก10ปี ตอนนั้นเราก็จะแก่มาก หากไปแล้วผิดพลาด ต้องกลับไทยเราก็จะหางานยาก
2.ทำไมไม่ไปลองใช้ชีวิต ไปเที่ยวที่นั่นก่อน จะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ
- หลายคนถามยี่ด้วยคำถามนี้ แต่ยี่คิดว่า การไปเที่ยวแค่ 1 เดือน หรือ 1 สัปดาห์ มันไม่ได้ทำให้ยี่รู้สึกว่า ยี่จะอยู่ หรือ ไม่อยู่ เพราะการที่เราไปท่องเที่ยวนั้น หากเขาต้องการที่จะหลอกให้เราอยู่จริงๆ เขาก็สามารถทำเป็นเทคแคร์ หรือ ดูแลเราได้ เวลาระยะสั้นไม่ได้ทำให้ยี่รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องจริง ดังนั้นไปเลย ลองดู
3.ไม่เสียดายงานหรอ กว่าจะได้งานดีดีแบบนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ
- ยี่ไม่เสียดายค่ะ และยี่ก็ยังรักในองค์กรเดิมของยี่อยู่ แต่เมื่อเราตั้งใจจะเดินทางสายฝอแล้ว ยังไงสักวันหนึ่งเราก็ต้องย้ายตามสามีอยู่แล้ว จะออกตอนนี้ หรือ ออกตอนไหน มันก็ไม่ต่าง แต่ถ้าจะมารอเวลานานกว่าเดิม เราจะเริ่มรู้สึกเสียดายงาน ตำแหน่ง เงินเดือน โบนัส สวัสดิการ และที่สำคัญเรามีหนี้ไม่มาก หากเราอยู่นาน ๆ ไป เราไปสร้างหนี้ระยะยาว คงยากที่จะต้องตัดสินใจลาออก
4.แล้วมั่นใจในตัวแฟนได้ยังไง
- ไม่มั่นใจค่ะ เป็นคนที่เผื่อใจไว้เสมอ20% คิดว่ามีรัก ก็มีเลิก และยี่ก็เป็นคนชอบเสี่ยง รักไปเถอะ วันหนึ่งไม่รักกันก็เลิกเท่านั้น ที่เลือกเขาคือ เขารักเรา ไม่มีลูกติด และไม่มีหนี้ ดังนั้นเรื่องการเงินก็จะเป็นแค่เรื่องของคน2คน ไม่มีคนที่3-4 หรือเรื่องหนี้ให้กวนใจ แต่ก่อนมาก็มีเตรียมเงินสดไว้ บัตรเครดิต หรือ กดเข้าไปในกรุ๊ปที่มีคนไทยในสเปน เผื่อมีปัญหาก็อาจจะขอความช่วยเหลือในกลุ่ม เพื่อนที่อยู่อังกฤษก็โทรมาว่า มีปัญหาอะไรก็ให้บอกได้ พร้อมช่วย (ซึ้งมาก) แต่สิ่งที่พลาดในความคิด คือ คิดว่าคนสเปนพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ในความคิดคือ เผื่อมีปัญหาก็จะขอให้เขาช่วยพาไปสถานีตำรวจ ให้เขาส่งไปสนามบิน แล้วใช้บัตรเครดิตซื้อตั๋วกลับบ้านเลย แต่โชคดีที่ถือว่าเลือกคนถูก
และที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ยี่คิด ความคิดยี่ไม่ซับซ้อน แต่หลายคนก็ไม่ได้คิดอย่างนี้ ต่อไปเป็นข้อมูลเมื่อมาอยู่ต่างประเทศแล้วเป็นอย่างไร
1.ต้องปรับตัวทั้งเรื่องอาหารการกิน สำหรับยี่เรื่องนี้ไม่ยาก เพราะยี่ไม่ใช่สายกิน ยี่กินอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เนื้อวัว และไม่ชอบกินชีส (นี่คือเหตุผลที่ยี่ผอมลงเมื่อมาที่นี่) อาหารไทยไม่มีให้กินก็ทำเอง อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง แต่ยังทำอาหารโซนนี้ไม่เป็น
2.ปรับตัวเรื่องอากาศ ที่สเปนทางใต้ อากาศไม่หนาวมาก ดังนั้นช่วงหนาวๆ ถ้าออกไปข้างนอกก็ใส่เสื้อโค๊ท ใส่หมวกไหมพรม ถ้าอยู่ในบ้านก็ใส่เสื้อสอง-ชั้น และตอนนอนเป็นชุดนอนหมี ปีแรกมีป่วยบ้าง แต่ปีนี้ยังไม่ป่วยเลยค่ะ และหน้าร้อนก็ร้อนมากๆ ว่างๆก็ไปเล่นน้ำทะเล และน้ำตกกับแฟน
3.ปรับตัวเรื่องภาษา อันนี้ต้องเรียนจากศูนย์ ตอนแรกคิดว่ามาเรียนแปปเดียวก็ได้ภาษา ล่อมาปีกว่า ภาษายังไม่ไปไหน (จริงๆยี่ก็ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไหร่ด้วยค่ะ)
4.แล้วใช้จ่ายยังไงในแต่ละเดือน ยี่ต้องบอกว่า ยี่โชคดีที่เวลาลาออกก็มีเงินติดตัวมาบ้าง แต่ยี่ก็เอาไปลงทุนในหุ้นและกองทุนในประเทศไทยหมด ส่วนการใช้จ่ายในสเปนเป็นสามีดูแลทั้งหมด และยี่ไม่มีหนี้ที่ไทยเพราะเคลียร์ก่อนมาแล้ว แต่ยี่ก็ไม่ใช่คนใช้เงินเปลืองนะ ตอนอยู่ไทยคือเพื่อนเยอะ อาจจะปาร์ตี้ เที่ยวบ้าง แต่พอมานี่ก็ไม่ได้ไปพวกนี้เลย ส่วนเรื่องช๊อปปิ้งก็นานๆทีซื้อครั้ง
5.ปรับตัวกับสามียังไง ทะเลาะกันไหม คุยกันเข้าใจไหม
- ก็ปรับตัวกันเยอะแหละ หลายอย่างจากไม่เคยทำอะไร ก็มาหัดทำกับข้าว ปลูกต้นไม้ จากเป็นคนไม่ยอมคน ยอมหักไม่ยอมงอ ก็ต้องยอมเขาบ้าง แต่ถ้าเยอะเกินไปก็ต้องเริ่มคุยกัน เพราะก็เห็นได้ชัดว่า เขาก็ปรับตอนอยู่กับเราเหมือนกัน
6.ฟุ้งซ่านบ้างไหม มีคิดถึงบ้านบ้างไหม
- คิดถึงบ้านบ้างค่ะ แต่ไม่ได้หนักมาก เพราะคิดว่ายังไงก็มีไลน์ไว้โทรคุยกันอยู่แล้ว มีเฟสบุ๊คไว้เผือกเรื่องในไทย บางทีเรารู้ข้อมูลก่อนเพื่อนคนไทยสะอีก ( ว่างแหละค่ะ ดูออก ) ส่วนฟุ้งซ่านก็แค่ อยากมีเงินไว้ลงในหุ้น ในกองทุน หรือ บิทคอยน์ เท่านั้น เป็นหนักๆช่วงหุ้นตก ส่วนเรื่องซื้อของแบรนด์ ยี่ไม่ใช่คนติดแบรนด์ เลยไม่มีปัญหาเรื่องนี้
7.อยากกลับไปทำงานที่เดิมไหม
- ไม่ค่ะ ไม่ใช่ที่เก่าไม่ดีนะ แต่ในเมื่อเราตัดสินใจแล้ว เราก็ควรที่จะเคารพในการตัดสินใจของเรา ไม่รู้หรอกว่ามีคนรอซ้ำไหม หรือ มีคนนินทาไหม หรือ มีคนเกลียดเราไหม แต่เรารู้แค่ว่าหลายคนก็ดีใจที่เรากล้าตัดสินใจ และเคารพการตัดสินใจของเรา อย่าไปให้ค่าคนที่เขาไม่ชอบในแนวคิดของเรา ให้มันเป็นปัญหาของเขาไปค่ะ
8.โดนบลูลี่บ้างไหม
- ก่อนโควิดไม่มี แต่หลังโควิดมีบ้างค่ะ เขาไม่ได้บลูลี่ ด่าทอ แต่ออกแนวกลัวเรา ไม่กล้าเข้าใกล้เรามากกว่า
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆ ยี่อาจจะเป็นคนที่ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆในการทำเรื่อง แฟนยี่ออกให้หมด แต่เป็นการเริ่มจากศูนย์ในเรื่องการใช้ชีวิตต่างแดน
ที่ยี่กล้าตัดสินใจง่ายๆแบบนี้ก็เพราะยี่ไม่มีหนี้มากนะคะ ถ้าทุกคนคิดอยากจะย้ายประเทศไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม "อย่ามีหนี้" และควรหาทางมาให้ได้ค่ะ ไม่ว่าจะทำงานเอกชน หรือ ทำงานให้กับหน่วยงานของรัฐ ถ้าคิดว่าอยากจะย้าย ถ้าจริงจังจริงๆ เดี๋ยวเราก็จะหาทางมาได้เองค่ะ ทั้งนี้ยี่ไม่ได้สนับสนุนให้มาโดยการแต่งงานแบบยี่นะคะ ยี่แค่แนะนำเป็นตัวอย่าง และขอบคุณที่อ่านจนจบ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
โฆษณา