11 พ.ค. 2021 เวลา 09:41 • สุขภาพ
แชร์ประสบการณ์จริง เมื่อฉันติดเชื้อโควิค-19 แบบไม่รู้ตัว??
เมื่อฉันติดเชื้อโควิค-19 แบบไม่รู้ตัว??
หลังจากที่เรารักษาตัวหายจากโรคโควิค-19 เลยอยากจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิค-19 ให้หลายๆท่านได้รู้ จากประสบการณ์จริงจากผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อ!!
4
เรื่องมันเกิดจากวันที่ 14 เมษายน 2564 เราได้ไปตรวจหาเชื้อโควิค-19 เหตุผลคือมีธุระสำคัญจะต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด แต่กลัวติดเชื้อแบบไม่รู้ตัวแล้วนำเชื้อไปปล่อยคนอื่น เพราะที่ทำงานมีคนติดเชื้อ เลยไม่ไว้ใจตัวเอง ทำให้ต้องไปตรวจหาเชื้อ สรุปผลคือติดเชื้อโควิค-19 จริงๆ!!
ตอนที่ทราบผลคือค่อนข้างตกใจ แต่ความคิดตอนนั้นคือ งง มากกว่า เพราะตัวเราเองนั้นไม่ได้มีอาการอะไรมาก มีแค่คันคอบ้างเล็กน้อย หลังจากที่คุณหมอแจ้งผลและสอบถามไทไลน์เบื้องต้น คุณหมอขอตรวจเชื้อรอบ 2 เพื่อยืนยันผล ระหว่างที่รอผลเราได้นอนรอผลกักตัวที่โรงพยาบาล หลังจากนั้น 1 วัน วันที่ 15 เมษายน 2564 ผลออกมาเป็นบวก ซึ่งหมายความว่า ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 จริงๆ ตอนนั้นคือทำใจรอแล้วละคะ เพราะคิดว่าผลตรวจรอบแรกคงจะไม่ผิดพลาด หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขโทรสอบถามไทไลน์ของเราว่าไปที่ไหนบ้างค่ะ และมีหมอสุขภาพจิตโทรหาเราเรื่อยๆคะ หมอกลัวเราเครียด
มาเริ่มการรักษาโรคนี้กันค่ะ เริ่มจากที่ทราบผลแล้วว่าติดเชื้อแล้วมานอนกักตัวที่โรงพยาบาล สิ่งแรกที่คุณหมอให้ทำ คือจับเราไปเอ็กซเรย์ปอด และเจาะเลือดคะ เพื่อดูว่าปอดเราปกติหรือไม่ เชื้อไวรัสลงปอดไปแล้วหรือยังค่ะ ผลของเราคือปอดปกติคะ เรารักษาที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดค่ะ ไม่ได้ไปโรงพยาบาลสนาม หลังจากนั้นคือเมื่อเราแยกตัวอยู่ในห้องแล้ว คุณหมอจะให้เราวัดความดัน วัดค่าออกซิเจนในเลือด และวัดไข้ทุก 4 ชั่วโมงค่ะ เพื่อติดตามอาการ ส่วนการติดต่อพูดคุยกับคุณหมอและพยาบาลจะคุยผ่านทางไลน์ค่ะ มีอาการอะไรก็คุยทางไลน์ ส่วนการรักษาก็คือรักษาตามอาการ ในเครสของเราที่เชื้อไม่ลงปอดนะคะ ถ้ามีไข้ก็ให้กินยาพารา เจ็บคอ มีน้ำมูกก็กินยาแก้แพ้ มีเสมหะก็กินยาละลายเสมหะ ไอก็กินยาแก้ไอ พูดง่ายๆก็คือไม่มียารักษาเจ้าตัวไวรัสชนิดนี้ค่ะ กินยาตามอาการ รักษาตามอาการ เราได้สอบถามทางด้านพยาบาล ว่าถ้าเชื้อลงปอด อาการจะเป็นอย่างไร ทางพยาบาลแจ้งว่าเหตุผลที่ให้วัดไข้ วัดออกซิเจนในเลือดทุก 4 ชั่วโมง เพราะว่าจะติดตามดูอาการนี้ล่ะคะ โอกาสที่เชื้อลงปอด ดูได้จากอาการของเรา คือ มีไข้ขึ้นสูง ไอหนักๆ ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำลง เชื้ออาจลงปอดได้ค่ะ
ส่วนอาการของเราก็คือ ตั้งแต่เเรกที่ไม่ค่อยมีอาการอะไรอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ค่อยเป็นอะไรมากคะ มีไข้ต่ำๆบ้างเป็นบางวันเท่านั้น แอบคิดนะคะว่าผลตรวจผิดหรือเปล่า แต่พอกักตัวได้ประมาณ 4-5 วัน เรามีอาการคือจมูกไม่ได้กลิ่น คือ วันนั้นจากที่จมูกเราได้กลิ่นปกติ คือแทบจะไม่ได้กลิ่นเลย เราลองเอาอาหารมาดม เอาเปลือกส้มมาดมใกล้ๆจมูกคือแทบจะไม่ได้กลิ่นเลยค่ะ แล้ววันนั้นคือแน่นหน้าอกแล้วก็หายใจไม่อิ่มเลย วันนั้นทั้งวันคือต้องหายใจทางปาก เลยเเจ้งพยาบาลไป คุณหมอเลยให้ไปเอ็กซเรย์ปอดดูว่า ปอดปกติหรือไม่ ผลออกมาคือปอดปกติ ส่วนปากคือรับรสได้ปกติ นี้คือเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่าติดเชื้อจริงๆ พอวันต่อๆมาจมูกก็เริ่มได้กลิ่น และอาการแน่นหน้าอกก็หายไป แต่เวลาที่หายใจเข้า จะไอ ไม่ใช่คันคอ แต่คันเข้าไปข้างในทรวงอกเลยค่ะ แต่อาการเหล่านี้ก็ค่อยๆหายไปเอง
2
เชื้อไวรัสนี้ทางคุณหมอบอกว่า มันเป็นเชื้อไวรัส ร่างกายเราจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทำลายเชื้อไวรัสได้เองค่ะ หลังจากที่เรากักตัวได้ 14 วัน เมื่อเราออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราจะต้องกักตัวต่ออีก 14 วันคะ หลังจากนี้ไปแล้ว ผู้ป่วยเป็นบางราย เมื่อไปตรวจหาเชื้อผลก็อาจจะออกมาว่าเจอเชื้อได้ค่ะ แต่จะเป็นซากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว เชื้ออาจจะอยู่ในร่างกายเราไปได้อีก 50-60 วัน หรืออาจมากกว่านั้น แต่จะไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น
1
นี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเรา ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ เราแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้เจอให้อ่านกัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจผู้ติดเชื้อ และให้กำลังใจผู้ติดเชื้อค่ะ
โฆษณา