Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The MemoLife
•
ติดตาม
13 พ.ค. 2021 เวลา 09:00 • ประวัติศาสตร์
จุดจบนักบวชโลกีย์ ‘กริกอรี รัสปูติน’
.
หากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์รัสเซีย ประเทศนี้ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่อนข้างคลั่งศาสนาพอตัว ประชาชนนับถือความเชื่อประหลาด ยกย่องผู้วิเศษ มีลัทธิแปลก ๆ เต็มบ้านเต็มเมือง คนดังที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็น ‘รัสปูติน’ ในช่วงปลายราชวงศ์โรมานอฟ
.
ในปี 1869 ‘กริกอรี เยฟิโมวิช รัสปูติน’ (Grigori Yefimovich Rasputin) ได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวเกษตรกรธรรมดาแถบตะวันตกของประเทศรัสเซีย เมืองกิวเวอร์เนีย เขาใช้ชีวิตแบบคนทั่ว ๆ ไปทำไร่ทำนาช่วยครอบครัวตามปกติ
.
ว่ากันว่าเมื่อตอนอายุ 15 เขาถูกผู้หญิงในหมู่บ้านข่มขืนเพราะสาว ๆ เหล่านั้นเห็นว่าเจ้าโลกของเขาใหญ่มาก แต่ทว่าอารมณ์ขมขื่นโกรธแค้นที่มีในตอนแรกกลับแทนที่ด้วยความชอบ และคิดว่านี่เป็นจุดเด่นของเขา จนกลายเป็นคนมีเพศสัมพันธ์ได้ไม่เลือกหน้า
.
ต่อมาในตอนอายุได้ 18 ปี เขาเข้าร่วมลัทธิคริสติ (Khlysty) ที่เชื่อว่ามนุษย์มีบาปติดตัว ต้องทำพีธีกรรมทรมานตนเองจึงจะหลุดพ้นได้ ดั่งการเอาบาปกับบาปมาหักล้างกัน
.
แต่เมื่อรัสปูตินเข้าลัทธินี้ เขาเพิ่มความเชื่ออีกว่าต้องทำให้เรา ‘ไร้ซึ่งกิเลสตัณหา’ จึงจะเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าได้ ด้วยวิธีร่วมเพศแบบมาราธอนจนหมดความกระหายทางเพศไปเอง ง่าย ๆ ก็คือจะหายจากตัณหาได้ ก็ให้เข้าร่วมจนเบื่อไปเลย
.
เขานำความเชื่อนี้ไปเผยแพร่กับคู่นอนและชาวบ้านต่าง ๆ ว่าหากหญิงใดมีความสัมพันธ์กับเขาแล้ว ผู้นั้นจะเป็นผู้หลุดพ้นจากบาปและโรคภัย จากการเล่าปากต่อปากไปเรื่อย ๆ ทำให้รัสปูตินกลายเป็นผู้มีพลังวิเศษมีอำนาจในการสะกดจิต สามารถทำนายโชคชะตาได้ และรักษาคนให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บแค่เพียงลูบหรือสัมผัสร่างกายของเขา
.
คนซ้ายสุด
แล้วรัสปูตินเข้าไปเป็นคนสำคัญในราชวงศ์โรมานอฟได้อย่างไรกัน?
.
เรื่องมีอยู่ว่าพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 (Nicholas II) และพระราชินีอเล็กซานดรา (Alexandra Feodorovna) นั้นมีบุตรสาวถึงสี่คน ไม่มีบุตรชายเพื่อสืบราชบัลลังก์ต่อเสียที ด้วยความพยายามในที่สุดบุตรคนที่ห้าก็เป็นบุตรชาย นามว่า ‘อเล็กซี’ แต่เจ้าชายนั้นดันป่วยเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุดอย่างรุนแรง ไม่มีใครรักษาได้แม้กระทั่งหมอในราชวังเอง
.
ทั้งสองห่วงลูกชายเป็นอย่างมาก เฝ้าตามหาใครสักคนที่จะมารักษา ทำให้ช่วงนั้นมีหมอเดินเข้าเดินออกวังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นว่าเล่น แต่ทว่าอาการเจ้าชายอเล็กซีก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น พระราชินีจึงหันไปพึ่งด้านนักบุญ ไสยศาสตร์แทน
.
ราว ๆ ปี 1903 พวกขุนนางชนชั้นสูงจึงขะมักเขม้นเฟ้นหานักบุญที่มีความสามารถ ส่งเข้าไปถวายแก่พระเจ้าซาร์และพระราชินีเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง จนมาพบกับรัสปูตินที่มีชื่อเสียงด้านการรักษาไม่ธรรมดา เขาจึงถูกแนะนำต่อองค์จักรพรรดิในปี 1905 ทันที
.
เมื่อเขาได้เข้าวัง ชีวิตของรัสปูตินก็อยู่ในจุดสูงสุดเพราะเขาสามารถรักษาอาการเจ้าชายอเล็กซีได้สำเร็จด้วยวิธีการใช้พลังจิต ในสมัยที่ความเชื่อลัทธิพลังวิเศษกำลังเป็นใหญ่จึงมีคนศรัทธาพลังของรัสปูตินนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งพระเจ้าซาร์และพระราชินีก็มอบฐานะที่สำคัญในราชสำนักให้
.
เมื่อมากล้นอิทธิพล รัสปูตินก้าวก่ายกิจการบ้านเมืองไล่ข้าราชการมั่วซั่ว และกลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกครั้ง คือการมีอะไรไปทั่วกับหญิงสาวในวัง ว่ากันว่าแม้กระทั่งเจ้าหญิงก็ไม่รอดเงื้อมมือของเขา จุดนี้เองที่ทำให้ชื่อเสียงของรัสปูตินเป็นความฉาวโฉ่มากกว่าการยกย่อง ในภายหลังเขาก็ได้รับฉายา ‘จอมตัณหา’ (Rasputin)
.
เหตุนี้เองทำให้กลุ่มที่ไม่ชอบขี้หน้ารัสปูตินที่อยู่ดี ๆ ก็มีอำนาจเกินหน้าเกินตา รวมกับกลุ่มที่รับไม่ได้กับการกระทำของเขา พยายามถวายฎีการ้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกเพิกเฉยไป หลัง ๆ จึงคิดสั่งการให้ลอบสังหารรัสปูตินลับ ๆ แต่กลับไม่มีครั้งไหนที่ทำสำเร็จ ตัวรัสปูตินยังอยู่สบายไร้รอยขีดข่วน
.
ในปี 1916 เพื่อยุติพฤติกรรมฉาวในราชสำนักและกำจัดคนที่อาจเป็นภัยต่อชาติ เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูชูปอฟ (Felix Yussupov) พระสวามีในพระนัดดาของพระเจ้าซาร์ ได้เป็นผู้นำการวางแผนลอบสังหารรัสปูติน ระบุว่าเจ้าหญิงอิรีนาต้องการพบตัวในวันที่ 29 ธันวาคม ปี 1916 ขอเชิญรัสปูตินไปงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในห้องใต้ดิน ณ วังมอยก้าของเจ้าชาย
.
โดยเจ้าชายวางยาพิษไซยาไนด์ในเครื่องดื่มและเค้กของที่เตรียมรับรัสปูติน โดยมีดร.จาโซแวร์ต แพทย์ทหารเป็นผู้จัดหายาให้ด้วยตนเอง และมีซูโคตินนายทหารอีกคนเป็นผู้ช่วย
.
ความจริงแล้วรัสปูตินไม่ได้อยากกินของรับรองเหล่านี้ แต่ขณะรอเจ้าหญิงเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็หยิบขนมขึ้นมากินตามด้วยเหล้ามาเดียรา 2 แก้ว ต่อหน้าเจ้าชาย แต่เมื่อเวลาผ่านสักพักรัสปูตินกลับไม่เป็นอะไรเลยจนเจ้าชายตื่นตะลึง ซ้ำยังขอให้เจ้าชายทรงดีดกีตาร์และร้องเพลงคลอไปอีก
.
ระหว่างเล่นเพลงเจ้าชายก็คว้าปืนยิงกระสุนเข้าใส่รัสปูตินทันที รัสปูตินพยายามดิ้นรนขัดขืน หลังจากนั้นกลุ่มคนที่สังเกตการณ์ก็ได้วิ่งเข้าคุ้มกัน และวลาดิเมียร์ พูริชเควิช (Vladimir Purishkevich) ผู้นำฝ่ายขวาของรัฐสภารัสเซียกระหน่ำยิงเข้าใส่รัสปูตินไปหลายนัด และมีนัดนึงเข้าที่ศีรษะพอดี
.
เมื่อตรวจร่างอย่างชัดเจนแล้ว พวกเขาห่อร่างของรัสปูตินยัดลงไปยังแม่น้ำเนวา (Neva) ที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง เป็นอันจบชีวิตรัสปูตินไปอย่างเงียบ ๆ แต่มีการลองพิสูจน์หลังจากพบห่อร่างของเขา สันนิษฐานว่าน่าจะยังมีชีวิตขณะที่โยนลงน้ำและพยายามดิ้นรนให้พ้นจากใต้ผืนน้ำแข็งแต่ไม่สำเร็จจึงจมน้ำตาย
.
ในปัจจุบันมีคนวิเคราะห์กันว่า เจ้าชายอเล็กซีเป็นโรคฮิโมฟิเลียและที่รัสปูตินรักษาเขาได้ก็เป็นเพียงการสะกดจิตให้หลับไปเท่านั้น แต่การหลับมาก ๆ คงทำให้เจ้าชายอเล็กซีได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
.
ส่วนการตายของรัสปูตินก็ยังคงคลุมเครือไม่แน่ชัด การชี้แจงความเห็นไม่ค่อยลงรอย บางที่บอกว่าเขาไม่ตายจากการโดนกระสุน ตายเพราะจมน้ำ บ้างก็บอกว่าดูจากแรงขัดขืนน่าจะตายเพราะโดนกระสุนเข้าที่หัวแต่กระสุนจากที่อื่นไม่ได้ทำให้เขาตาย
.
ที่สำคัญคือ ทำไมไซยาไนด์ถึงไม่มีผลอะไรเลยกับเขา? แต่ก็ยังมีการวิเคราะห์ที่เป็นไปได้อยู่ คือ แพทย์ทหารนายนั้น ไม่อาจผิดคำสาบานแพทย์ได้จึงใส่ยาปลอมลงไป
โดย แอดมินวา
References :
https://www.silpa-mag.com/history/article_5260
https://teen.mthai.com/variety/92072.html
https://www.blockdit.com/posts/5ec1664cbf08100c94de9ff6
https://www.bbc.com/thai/features-38489068
https://1th.me/JikqE
ตัดต่อรูปโดย แอดมินวา
#กริกอรีรัสปูติน #History #TheMemoLife
2 บันทึก
2
2
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย