13 พ.ค. 2021 เวลา 05:53 • ปรัชญา
เอียวสิ้ว มันสมองระดับอัจฉริยะ
แต่ไม่ก้าวหน้าเพราะเก่งในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ในบรรกุนซือที่รู้ใจโจโฉจริง ๆ
มีอยู่ 3 คน คือ ซุนฮก สุมาอี้ และ เอียวสิ้ว
ซุนฮก เป็นผู้วางรากฐานให้กับวุยก๊กของโจโฉ
สุมาอี้ ให้คำปรึกษาแก่โจโฉได้ทุกครั้งที่ต้องการ
แต่ละคนต่างปฏิบัติงานในหน้าที่ของตัวเอง
จนมีผลงานเป็นที่จับต้องได้ โจโฉยอมรับในฝีมือ
จะมีแต่เอียวสิ้วเท่านั้น ที่หาผลงานเป็นที่จับต้องไม่ได้เลย
มีเพียงตำแหน่งเล็ก ๆ ในกองทัพ เท่านั้น
เอียวสิ้ว เป็นคนผู้หนึ่งที่ฉลาดมาก มันสมองระดับอัจฉริยะ
และที่สำคัญรู้ใจโจโฉมาก รู้ว่าโจโฉมีนิสัยอย่างไร
กำลังคิดอะไรอยู่ ล่วงรู้ไปถึงระดับจิตใจโจโฉกันเลยทีเดียว
แต่แทนที่จะใช้มันสมองระดับอัจฉริยะนี้
ไปสร้างผลงานเหมือนซุนฮกและสุมาอี้
และกลับไปใช้ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น
ในชิงตำแหน่งรัชทายาท
เป็นการชิงชัยกันระหว่างโจผีคนพี่ กับ โจสิดคนน้อง
ผู้ที่ชนะจะเป็นผู้รับช่วงต่อจากโจโฉ
โจโฉให้มีการทดสอบถามปัญหา ให้โจผีกับโจสิดไปเตรียมตัวมา
พี่น้องทั้ง 2 คนกังวลว่า โจโฉจะถามปัญหาอะไร
แต่เอียวสิ้วเก็งข้อสอบถูก อ่านใจโจโฉจนทะลุ
จึงไปบอกข้อสอบแก่โจสิด จนโจสิดตอบปัญหาโจโฉได้อย่างเฉียบขาด
โจโฉมารู้ทีหลังว่าเอียวสิ้วเป็นคนบอกข้อสอบแก่โจสิด
ทำให้โจโฉไม่พอใจพลางคิดว่า "ไอ้เอียวสิ้ว รู้ใจเราถึงขนาดนนี้เชียวหรือ"
อีกครั้งหนึ่งที่เอียวสิ้วแสดงความเป็นสู่รู้ใจเจ้านาย คือ
โจโฉอยากจะเปลี่ยนขนาดประตูทางเข้าตำหนัก
แต่มีเขียนอักษรจีนไว้ที่เสาประตู
เอียวสิ้วตีความจนรู้ความต้องการของโจโฉ
แล้วก็สั่งให้ช่างเปลี่ยนขนาดประตู
โดยที่โจโฉยังไม่ทันสั่งการอะไร
มีอยู่ครั้งนึง โจโฉได้รับขนมมา แล้วเอาไว้บนโต๊ะ
โดยที่โจโฉเขียนอักษรจีนเอาไว้บนกล่องขนม
เอียวสิ้วเห็นก็ตีความออกว่า "โจโฉสั่งให้กินให้หมด"
ก็เลยบอกให้คนอื่นกินให้หมด
พอโจโฉกลับเข้ามาเห็นว่าขนมหมดแล้ว
จึงถามว่าใครกินหมด เอียวสิ้วบอกว่า
"ก็นายท่านสั่งให้กินให้หมด"
ทั้ง ๆ ที่โจโฉยังไม่ได้สั่งอะไรเลย
แต่ละเรื่องที่เอียวสิ้วใช้ความเป็นอัจฉริยะ
แสดงถึงการรู้ใจนาย ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น
จนมาถึงการรู้ใจเจ้านายครั้งสุดท้าย
ในศึกชิงเมืองฮันต๋งระหว่างโจโฉกับเล่าปี่
ทัพโจโฉเสียเปรียบไปมากแล้ว
มีความคิดอยากจะถอยทัพกลับ แต่ก็รู้สึกเสียดาย
แต่หากอยู่ทำศึกต่อ ก็คงจะเสียหายมากไปกว่านี้
ในคืนก่อนออกศึก โจโฉให้รหัสสำหรับสื่อสารภายในค่าย
เป็นคำว่า "ซี่โครงไก่" พอเอียวสิ้วรู้
จึงอ่านใจโจโฉออกว่ากำลังคิดอะไร
เลยบอกให้ทหารเก็บของ เพื่อที่จะเตรียมตัวถอยทัพ
ทั้ง ๆ ที่โจโฉยังไม่ได้สั่ง
พอโจโฉรู้เข้า ก็โกรธจัด เลยสั่งประหารเอียวสิ้ว
จะเห็นว่าเอียวสิ้ว เป็นบุคคลระดับอัจฉริยะ
อ่านใจโจโฉได้เหมือนอ่านลายมือของตัวเอง
แต่กลับใช้ไปในเรื่องไม่เป็นเป็นเรื่องทั้งนั้น
ทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง
ชอบเข้าไปก้าวก่ายสอดรู้สอดเห็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
ซึ่งก็ไม่แปลกใจเลย ที่โจโฉซึ่งเป็นเจ้านายจะไม่ชอบ
ในเมื่อเจ้านายไม่ชอบแล้ว ต่อให้อัจฉริยะแค่ไหน
ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง
เป็นได้แค่ตำแหน่งเล็ก ๆ ในกองทัพ
แล้วสุดท้ายก็ถูกประหารชีวิต
ความเป็นอัจฉริยะที่มีอยู่กับตัว
จึงไม่ได้ใช้ให้เกิดในทางที่ควรจะเป็นและมีความคุ้มค่า
เพราะทำตัวเก่งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
หากเอียวสิ้วใช้ความเป็นอัจฉริยะที่มี
ในการทำงานเหมือนอย่างซุนฮกและสุมาอี้
แสนยานุภาพของกองทัพโจโฉจะเกรียงไกรมากกว่านี้
เก่งในเรื่องที่เป็นเรื่อง คือ
ทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
และช่วยเหลืองานคนอื่นด้วยความเต็มใจ
รวมทั้งแบ่งเบาภาระงานของหัวหน้า
เหมือนอย่างซุนฮกและสุมาอี้
ทั้งหมดนี้คือ เกี่ยวข้องกับงานทั้งนั้น
 
ส่วนเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง คือ
อะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
หรือเป็นเรื่องที่ทำแล้วไม่มีผลกับงาน
โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
เป็นเรื่องที่ลูกน้องรู้ได้ แต่อย่าไปยุ่ง
แค่รู้เอาไว้แล้วเฉย ๆ ก็พอ
ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งหรือคนธรรมดา
หากเก่งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง โอกาสที่จะเติบโตในงานแทบไม่มี
เพราะไม่มีใครชอบคนเก่งที่ไม่เป็นเรื่อง เก่งไม่ถูกที่ถูกทาง
และจะกลายเป็น "ลูกชัง" ในสายตาเจ้านายได้ง่าย ๆ
เจ้านายไม่สนับสนุน ทำให้เสียโอกาสที่จะเติบโต
ไปอย่างน่าเสียดาย
ความรู้ ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ จึงควรนำออกมาใช้
ในการทำงานที่เป็นหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด
อย่าให้ความรู้ความสามารถที่เรามี
ไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า อย่างที่ควรจะเป็น
เพียงเพราะเก่งในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เหมือนอย่างเอียวสิ้ว เลยครับ
#เศรษฐศาสตร์
#สามก๊ก
#เอียวสิ้ว
โฆษณา