บังทอง ไม่หล่อก็เจ๋งได้
ใช้จุดแข็งให้โดนใจ ไม่เน้นจุดอ่อน
อาจารย์สุมาเต็กโชเคยบอกกับเล่าปี่ว่า
"ฮกหลง กับ ฮองซู หากได้คนใดคนหนึ่งในสองคนนี้
มาเป็นที่ปรึกษา ก็อาจสามารถ
จะทำการปราบปรามศัตรูแผ่นดินให้สงบได้“
ฮกหลง คือ ขงเบ้ง ฉายามังกรหลับ
หงส์อ่อน คือ บังทอง ฉายาหงส์ดรุณ
แสดงว่าบังทองมีสติปัญญาทัดเทียมกับขงเบ้ง
แต่กลับมีรูปร่างลักษณะอัปลักษณ์
ในนิยายสามก๊กพรรณาลักษณะของบังทองไว้ว่า
เมื่อบังทองไปสัมภาษณ์งานกับซุนกวน
ทันทีที่ซุนกวนเห็นบังทอง ก็รู้สึกว่า “คนผู้นี้คิ้วหนาจมูกเชิด
หน้าดํา หนวดเคราสั้น รูปร่างแปลก ประหลาดนัก"
ซุนกวนจึงไม่ชอบใจ
หลังจากนั้นบังทองก็เดินทางไปพบเล่าปี่
โดยที่บังทองใช้ชื่อปลอม เมื่อเล่าปี่เห็นบังทองครั้งแรก
ก็คิดว่า คนผู้นี้รูปร่างอัปลักษณ์ ใจก็นึกไม่ชอบ เหมือนกับซุนกวน
แต่ไหน ๆ ก็มาสมัครงานแล้ว ก็เลยให้ไปเป็นนายอำเภอที่เมืองหนึ่ง
(ตอนนั้นเล่าปี่ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือบังทอง เพราะเขาใช้ชื่อปลอม)
เมื่อบังทองไปเป็นนายอำเภอแล้ว ก็ไม่ทำการทำงาน
คดีความของชาวบ้านที่จะต้องตัดสินกองเต็มโต๊ะไปหมด
จนเรื่องมาถึงหูเล่าปี่ จึงให้เตียวหุยไปสอบสวน
พอเตียวหุยเดินทางไปพบบังทอง
ก็ต่อว่าบังทองว่าทำไมไม่ทำงาน วัน ๆ กินเหลวแล้วก็นอน
บังทองบอกว่า งานพวกนี้ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ
จากนั้นบังทองจึงออกว่าความในคดีความต่าง ๆ ของชาวบ้าน
คดีต่าง ๆ ที่กองเต็มโต๊ะ บังทองเคลียร์เสร็จภายในวันเดียว
สร้างความตกตะลึงตาค้างให้แก่เตียวหุยมากว่า
"ทำได้ยังไง เทพชัด ๆ "
เตียวหุยจึงเชิญบังทองกลับพบเล่าปี่
แล้วบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ถึงตอนนี้บังทองก็เฉลยว่า จริง ๆ แล้วตัวเองชื่อบังทอง
ฉายาหงส์ดรุณ เมื่อเล่าปี่รู้เช่นนี้แล้ว
ก็ดีใจมากที่สุดยอดกุนซือในตำนานมาอยู่กับตัว
มองข้ามเรื่องลักษณะหน้าตาของบังทองไปจนสิ้น
จึงแต่งตั้งให้เป็นกุนซือข้างกายเหมือนขงเบ้ง
เมื่อบังทองเป็นกุนซือของเล่าปี่
ได้เป็นเสนอแผนการต่าง ๆ ในการบุกยึดเสฉวน
แต่น่าเสียดายกลับต้องมาตายก่อนเวลาอันควร
โดยเตียวหยิมดักซุ่มระดมยิงธนูใส่บังทอง
จนเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 35 ปีเอง
สร้างความเสียใจให้เล่าปี่และคนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก
จะเห็นว่าบังทองมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างเห็นได้ชัด
จุดแข็ง คือ มีสติปัญญามาก
จุดอ่อน คือ รูปร่างหน้าตาที่ดูไม่ดีเข้าขั้นอัปลักษณ์
บังทองไม่สนใจในลักษณะหน้าตาของตัวเอง
เพราะจะให้ไปทำศัลยกรรมเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา
ให้หล่อเหมือนสมัยนี้ก็ทำไม่ได้
และไม่เสียเวลาไปกังวลหรือตำหนิลักษณะหน้าของตัวเอง
เพราะมันไม่มีประโยชน์
แต่บังทองรู้ดีว่า ตัวเองมีจุดแข็ง คือ มันสมอง
จึงชูจุดแข็งนี้ให้ทุก ๆ ได้เห็น จนทำให้เล่าปี่มองข้ามเรื่องหน้าตา
ไว้วางใจบังทอง มอบตำแหน่งกุนซือข้างกายให้
และบังทองก็ไม่ทำให้เล่าปี่ผิดหวังเลย
ทุ่มเททำงานอย่างเต็มความสามารถและสติปัญญา
จนกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เล่าปี่ยึดเสฉวนได้
แล้วเมื่อบังทองจากไป ทั้งเล่าปี่และทุกคน
ต่างก็เสียใจอาลัยในตัวบังทอง
ไม่มีใครสักคนติดใจเรื่องรูปร่างหน้าตาเลย
สิ่งที่ทำให้บังทองได้รับโอกาสและสร้างผลงานคือ
เพราเขาเข้าใจตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไร
และทำการเน้นจุดแข็งที่ตัวเองมี
จนคนอื่นไม่สนใจจุดอ่อนของตัวเอง
เราทุกคนต่างก็เป็นเหมือนบังทอง
ที่มีทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน สิ่งที่ถนัดและไม่ถนัดต่างกัน
การทุ่มเทเวลา ความรู้ความสามารถ สติปัญญา
ให้กับจุดแข็งของตัวเองให้เด่นขึ้น
หรือพัฒนาสิ่งที่ตัวเองถนันให้เก่งขึ้น
จะทำให้ไม่ต้องลงแรงเยอะมากและได้ผลมากกว่า
เมื่อเทียบกับการทุ่มเทสิ่งต่าง ๆ ให้กับการแก้ไขจุดอ่อน
หรือทำในสิ่งที่ไม่ถนัด ซึ่งทำให้ได้ผลน้อยกว่า
ไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้ทุ่มเทลงไป
การบริหารองค์กรก็เช่นกัน
เมื่อใช้เครื่องมือ SWOT ในการวิเคราะห์
จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค แล้ว
การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่องค์กรมีอยู่อย่างจำกัด
ไปกับการพัฒนาจุดแข็งมากว่าแก้ไขจุดอ่อน
ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดมากกว่าทำสิ่งที่ไม่ถนัด
จะทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าเร็วกว่า
การมัวแต่แก้ไขจุดอ่อนมากกว่าการพัฒนาจุดแข็ง
(ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องสนใจแก้ไขจุดอ่อน)
ทรัพยากรมีจำกัด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าแล้ว
เน้นพัฒนาจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อนเสมอ
#เศรษฐศาสตร์
#สามก๊ก
#บังทอง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
