เก็บตกแดงเดือด
#พลอยเล่าเรื่อง #ฟุตบอล #ลิเวอร์พูล #แมนยู
คำเตือน : ผู้เขียนเป็นแฟนลิเวอร์พูล อาจจะมีเนื้อหาที่ไม่เป็นกลาง แต่อ่านกันเถอะนะจ๊ะ
หลังเกมแดงเดือดที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 2-4 ประตู เรามานั่งรวมรวบเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นทั้งในและนอกสนามมาให้อ่านกัน
1.เกมนี้ถูกเลื่อนมาจากวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะแฟนบอลปีศาจแดงบุกเข้าไปประท้วงขับไล่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีมในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขว้างพลุไฟใส่บรรดาผู้สื่อข่าวในสนาม ผลจากการที่ต้องเลื่อนเกมการแข่งขัน ทำให้แมนยูต้องลงแข่งขัน 4 นัด ใน 8 วัน
2. เกมระหว่างแมนยูกับเลสเตอร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งจิ้งจอกสยามเอาชนะไปได้ 1-2 ประตู โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่งผู้เล่นสำรองลงสนามถึง 10 ตำแหน่ง กะเก็บชุดที่ดีที่สุดไว้ลงเจอลิเวอร์พูล เพื่อหยุดไม่ให้หงส์แดงติด Top 4 ในฤดูกาลนี้
3. ก่อนเกมแดงเดือดจะเริ่มต้นขึ้น แฟนบอลปีศาจแดงประท้วงอย่างหนักด้านหน้าสโมสร เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายต้องมาคุมสถานการณ์ มีความพยายามหยุดไม่ให้รถบัสของลิเวอร์พูลเดินทางเข้าสู่สนาม เจาะยางรถบัสของทีม จอดรถยนต์ขว้างถนน แต่โชคดีที่ทีมไหวตัวทัน เดินทางเข้าสู่สนามด้วยรถบัสคันอื่นๆแทน เราลองตั้งข้อสังเกตเล่นๆ นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่แฟนบอลแมนยูพยายามจะห้ามไม่ให้มีการแข่งขันเกิดขึ้น พรีเมียร์ลีกต้องออกโรงทำอะไรสักอย่างแล้ว
4. การประท้วงของแฟนบอลปีศาจแดงไม่ใช่แค่ไล่ตระกูลเกลเซอร์ แต่ยังมีการร้องเพลงด่าลิเวอร์พูล ถึงความยากจน you’ll never get a job again ถ้าคนที่ตามฟุตบอลอังกฤษจะรู้ดีว่า แมนเชสเตอร์เป้นเมืองอุตสาหกรรม ส่วนลิเวอร์พูลเป็นเมืองท่า เมื่อท่าเรือต้องปิดตัวลง ผู้คนในลิเวอร์พูลตกอยู่ในภาวะยากจน ตกงาน แต่ที่น่าสนใจก็คือว่า จากสถิติล่าสุดนั้น แมนเชสเตอร์เป็นเมื่องที่มีอัตราว่างงานสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ สูงกว่าลิเวอร์พูลเสียอีก
5. นักฟุตบอลลิเวอร์พูลลงวอร์มอัพร่างกายในเสื้อสีเทา ด้านหลังเสื้อปักเบอร์ 7 และชื่อ Jordan เพื่อไว้อาลัยให้กับเจ้าหนู “จอร์แดน แบงค์ส” เด็กน้อยวัย 9 ขวบ แฟนบอลตัวยงของหงส์แดงที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกฟ้าผ่าระหว่างที่เล่นฟุตบอล เรื่องราวของจอร์แดน แบงค์สโด่งดังไปทั่วเกาะอังกฤษ นักฟุตบอลและสโมสรฟุตบอลออกมาไว้อาลัย หนูน้อยเจ้าของฉายา Mini Milner ที่โค้ชตั้งให้ ออกวิ่งหาเงินเพื่อการกุศล และส่งต่อกำลังให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อต่อสู้กับโควิด
6. เริ่มเกมแมนยูดูจะเหนือกว่า และได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะยิงของบรูโน่ แฟร์นานเดส แล้วแนท ฟิลิปป์ กองหลังของลิเวอร์พูลสกัดเข้าประตูไป ดูยังไงก็เป็นการทำเข้าประตูตัวเอง แต่ปรากฏว่าลูงยิงของบรูโน่น่าจะตรงกรอบ กองกลางโปรตุเกสเลยได้เครดิตจากประตูนี้ไป ซึ่งเป็นลูกยิงแรกจากโอเพ่นเพลย์ของบรูโน่กับทีม Top6 ก็ส่วนใหญ่เขายิงได้แต่จุดโทษอ่ะนะ
7. จุดโทษปัญหา เมื่อเอริค ไบญี กองหลังปีศาจแดง เสียบแนท ฟิลิปป์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ แต่เมื่อเดินไปดูภาพช้าจาก var ก็กลับคำตัดสิน ไม่ให้จุดโทษ ซึ่งผู้บรรยายเกมทางพรีเมียร์ลีกบอกว่าไม่เป็นจุดโทษ ส่วนเจมี่ คาราเกอร์ กับแกร์รี่ เนวิลล์ บอกว่า ควรเป็นจุดโทษ และฟุตบอลไม่ได้เล่นกันแบบสโลว์โมชั่น
8. ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะไขว้ยิงของดิเอโก้ โชต้า ที่ลงมาแทนซาดิโอ มาเน ซึ่งมีเรื่องดราม่าเล็กๆหลังเกม แมนยูเสียประตูโดยมีต้นกำเนิดจากลูกเตะมุมบ่อยครั้งมากในฤดูกาลนี้ ตามมาด้วยลูกขึ้นนำ 1-2 ประตูของลิเวอร์พูล จากลูกเซ็ตพีช เมื่อเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ เปิดบอลไปเสาสองให้โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ หนีการประกบของพอล ป็อกบา โหม่งเข้าประตูไป ทั้งนี้ 33 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประตูที่แมนยูเสียในฤดูกาลนี้เกิดจากลูกเซ็ทพีช ไม่รวมลูกจุดโทษ
9. ครึ่งหลัง หงส์แดงขึ้นนำ 1-3 ประตู จากจังหวะจ่ายบอลพล่าดในแดนหลังของผู้เล่นแมนยู เฟอร์มิโน่ ตามซ้ำลูกยิงของอเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ เข้าประตูไป ถึงตรงนี้กองหน้าบราซิลยิงประตูในโอลด์ แทรฟฟอร์ด มากกว่าพอล ป็อกบา ทำได้ใน 2 ฤดูกาลหลังเสียอีก
10. แมนยูมีหวังเมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูตีตื้น 2-3 ประตู รูปเกมของปีศาจแดงดีขึ้น แต่สุดท้ายถูกจังวะส่วนกลับของโม ชาห์ลา ก่อนหมดเวลา เลี้ยงเดียวเกินครึ่งสนามยิงประตูย้ำชัยชนะ 2-4 ประตูให้ลิเวอร์พูล แฟนหงส์บอกว่านี่ขนาดช่วยยิงประตูขึ้นนำให้ก่อนนะเนี่ย
11. หลังเกมมีจังหวะดราม่า เมื่อซาดิโอ มาเน่ ที่ลงเป็นสำรองในเกมนี้ ปัดไม่ยอมจับมือกับเจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งนายใหญ่ลิเวอร์พูลบอกว่า เขาตัดสินใจดร็อปมาเน่ในนาทีสุดท้าย และไม่มีโอกาสอธิบายเหตุผลดีๆว่า ทำไมถึงทำแบบนั้น แต่ทุกอย่างไม่เป็นปัญหา
12. ลิเวอร์พูลยังมีลุ้น Top4 แข่งน้อยกว่าเชลซี, เลสเตอร์ และเวสต์แฮม 1 นัดและที่สำคัญ เชลซีกับเลสเตอร์ มีนัดที่ต้องพบกันเอง ตัดแต้มกันเอง สามนัดที่เหลือของหงส์แดงต้องเก็บให้ได้ 9 คะแนนเต็ม โอกาส Top4 ก็ไม่ไกล
13. เกมนี้เป็นชัยชนะนัดแรกในลีกของเจอร์เก้น คลอปป์ที่มีเหนือแมนยูที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
14. แมนยูตอนนี้ใจลอยไปนัดชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกที่จะพบกับบีญาเรอัล ของอูไน เอเมเร่ กุนซือผู้เชี่ยวชาญการคว้าแชมป์ถ้วยใบเล็กของยุโรป โดยทำได้ 3 ครั้งกับเซบีญ่า ถ้าพลาดปีศาจแดงก็จะได้แชมป์หญ้าสวยไปอีกปี
15. หลังเกมแกรี่ เนวิลล์ บอกว่า แมนยูแพ้เพราะไม่มีแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซึ่งในทางกลับกันหงส์แดงก็ไม่มีคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงมาตลอดฤดูกาล ขาดทั้งเวอร์จิล ฟาน ไดจ์, โจ โกเมซ และโจเอล มาติป โดยเนวิลล์พูดมาตลอดว่านั่นไม่ควรเป็นข้ออ้างอาการฟอร์มตกของลิเวอร์พูล โดยค่าตัวของกองหลังลิเวอร์พูลที่ลงสนามเมื่อคืนนี้มีค่าตัวรวมกัน 8 ล้านปอนด์ ส่วนของแมนยู 145 ล้านปอนด์
16. อีกครั้งที่บรูโน่ แฟร์นานเดสถูกลักพาตัวในเกมใหญ่ เอาล่ะเขายิงประตูได้ แต่ก็เป็นลูกสกัดเข้าประตูของกองหลังลิเวอร์พูล รอย คีน บอกว่า บรูโน่ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งเกมคร่ำครวญในสนาม เจ้าตัวยิงประตูในทุกรายการในซีซั่นนี้ได้ 28 ลูก ทำลายสถิติกองกลางยิงประตูในฤดูกาลเดียวของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงซึ่งทำไว้ที่ 27 ลูก โดยในจำนวน 28 ประตูที่กองกลางคนเก่งของแมนยูทำได้ เป็นลูกจุดโทษอย่างเดียว 13 ลูก
17. เกมเมื่อคืนนี้ แกเร็ธ เซาท์เกตต์ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมานั่งชมในสนาม แล้วเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดตบหน้านายใหญ่สิงโตคำรามหลังจากที่ไม่เรียกเขาติดทีมชาติในคราวที่แล้ว เล่นแบบนี้ไม่ติดทีมชาติไปเล่นยูโรก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
18. โม ซาลาห์ ยิงประตูที่ 21 ในลีก ขึ้นไปยืนเท่ากับแฮร์รี่ เคนในการชิงรองเท้าทองคำ ดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาล แต่ฟอร์มแบบนี้ เขากลับไม่ติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของทั้งคาราเกอร์ และเนวิลล์ ซะอย่างนั้น
19. คิดเอาล่ะกันว่า ลิเวอร์พูลลงเล่นด้วยทีมที่ฟอร์มย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2-3 ปีหลัง ขาดกองหลังตัวจริง ไม่มีกัปตันทีมตัวจริง เจอกับแมนยูที่ฟอร์มดีที่สุดในรอบหลายๆปี แต่ปีศาจแดงยังเอาชนะหงส์แดงไม่ได้เลย
#พลอยเล่าเรื่อง #ฟุตบอล #ลิเวอร์พูล #แมนยู
ฝากกดไลค์ กดติดตามกันด้วยนะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
