Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Moona K
•
ติดตาม
14 พ.ค. 2021 เวลา 15:18 • ความคิดเห็น
"กมลาผู้เป็นนักเรียนเลวในสังคมแสนประเสริฐเลิศล้ำ"📚
เกิดในสังคมที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ต้องเจอกับอะไรบ้างอย่างงั้นหรอ?
พื้นฐานสำคัญสำหรับชีวิตเริ่มที่ระบบการศึกษาแล้วกันค่ะ กมลาเจออะไรมาบ้างขอเล่าเรื่องราวที่เจอมาด้วยตนเอง เริ่มจากคุณครูผู้มีพระคุณของยุคตัวเองก่อนแล้วกันค่ะ 🙄🙄
เราตั้งใจเรียนมาก ๆ มาโดยตลอดคนสอนดี ๆ ก็มีแต่คนสอนที่ทำพฤติกรรมที่เราไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้จะรู้ไหนว่าสร้างปมในใจให้กับเด็ก
👧วัยประถม กมลาสอบได้ที่หนึ่งในห้องเกือบทุกปี (มีปีที่ได้ที่2อยู่นิดหน่อย) วัฒนธรรมช่วงป.3 ห้องครูขุนช้างษามหาเศรษฐีมีกฎว่าต้องคลานเข่าส่งงานและการบ้านระยะ 100 เมตรกราบ 3 ครั้ง ก่อนยื่นส่งงานคลุกเข่ารอตรวจเมื่อรับคืนให้ไหว้ 1 ครั้งถอยมากราบครูขุน 3 ครั้งแล้วคลานออกเป็นแบบนี้ตลอดปีค่ะเล่นซะเข่ากมลาด้านไปเลย แต่พอขึ้นป.4 มีหน้าที่ดังนี้ค่ะ
ทุกพักเที่ยงต้องสลับกับเพื่อนตามเลขที่ให้ครูดวงเดือนวานไปขายขนมปีโป้แช่เเข็งให้หมดเอารายได้นับคืนคุณครูให้ครบหากเงินขาดต้องใช้เงินตัวเองชดคืน (โดยไม่ทราบว่าชิ้นปีโป้ในถุงมีไม่ครบหรือโดนมือดีแอบหยิบเกินไป) ครูดวงเดือนอยู่ฝ่ายบัญชีของโรงเรียนไม่ค่อยชอบสอนแล้วชอบออกไปธนาคารทีเต็มวันบ้างครึ่งวันบ้าง 2-3 วันต่อสัปดาห์ปล่อยให้เด็ก ๆ นั่งเรียนกับโทรทัศน์ที่เรียกว่าทางไกลผ่านดาวเทียมของร.ร.วังกกว. แทน โดยมีครูดวงอาทิตย์ขับรถไปให้ทุกครั้ง ต่อด้วยป.5 ครูดวงอาทิตย์เป็นผู้ชายมีนิสัยเสียงดังพูดจาห้วน ๆ ชอบใช้ไม้หวายตีเด็กที่ไม่แต่งกายให้เรียบร้อย หากท่องสูตรคูณไม่ผ่านจะโดนตีมือจนเลือดซิบหรือโดนทุบหลังอย่างแรงจนเด็กกระเด็นไปติดประตูเหล็กริมฝาผนังในห้องเรียน แถมครูดวงอาทิตย์มีภรรยาชื่อยายพฤหัสเป็นญาติฝั่งยายของกมลาเองค่ะเขามีร้านขายขนมในโรงเรียนคนขายคือนักเรียนของครูดวงอาทิตย์นี่แหละค่ะ
ทุกพักกลางวันและเย็นต้องมานั่งขายให้ไม่มีค่าแรงให้สักบาทนะคะขนมสักชิ้นก็ไม่ได้แตะโดยบอกเด็กว่าฝึกวิชาคณิตศาสตร์ (ครูเค้าฉลาดไหมล่าาา) ไม่พอค่ะตอนอยู่ชั้นปีนี้ต้องสลับเลขที่หุงข้าวให้ทุกคนในโรงเรียนกินเป็นหม้อใหญ่ทานรวมอนุบาลถึงป.6 ทั้ง ๆ ที่มีแม่ครัว แถมให้กมลาและเพื่อนสลับกันรอบละ 2 คนล้างจานข้าวจานกับข้าวให้คุณครูและผอ.ทุกมื้อกลางวันในห้องที่ทุกท่านทานส่วนตัวด้วยค่ะ ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 2 ปีแรกไปตีกลองยาวและฉาบมั่วบนรถของครูดวงอาทิตย์ปีสุดท้ายกมลาในฐานะประธานนักเรียนต้องเดินเรี่ยไรเงินชาวบ้านในละแวกถึง 16 หมู่บ้าน เรียกว่าบอกบุญเพื่อซื้อเทียนพรรษาเพียง 3 เล่ม แต่เราใช้เวลาเดินบอกบุญ 5 วันของสัปดาห์นั้นชาวบ้านให้ความร่วมมืออย่างดี จนทุกวันนี้เรามาสงสัยว่าผู้ร่วมบริจาคเงินรวมมาทั้งหมดกี่บาทใครรู้บ้างนอกจากครูเพราะพวกเราส่งคืนให้แบบตาใส ๆ มาตลอด
มาช่วงเด็ดสุดก็วัยมัธยมศึกษาเลยค่ะ
👧มัธยมต้นเคยมีที่ปรึกษานามว่านางฟ้ากัญสวรรค์เป็นหัวหน้าระดับม.1 ตัดผมกมลาในแถวค่ะแบบเละ แบบแหว่ง ติ่งหูกมลาเล็กมากอยู่สูงถึงเกือบตาเพียงเพราะว่ากฎโรงเรียนม.ต้นให้ตัดผมเห็นติ่งหูค่ะ ฉึบ ๆ น้ำตาแทบร่วงแต่กลั้นไว้
พอม.2 เคยมีมีที่ปรึกษาชื่อเปาวลีชอบตีด้วยหวายเวลาเวรห้องหรือเวรพื้นที่ถูกประกาศหน้าเสาธงว่าไม่สะอาด กมลาโดนตีจนก้นเลือดซิบเป็นลอยประจำเลยค่ะ พักหลังท่านรองผอ.สส.ฝ่ายปกครองชื่อเสียงด้านความโหดโด่งดังไปทั้งอำเภอ ลงโทษแทนที่ปรึกษาด้วยไม้เรียวใหญ่ ๆ หน้าเสาธงและตีให้เสียงออกไมค์ (เสาธงเราใหญ่สุดในจังหวัดและใหญ่กว่าสถานราชการระดับประเทศด้วยเวทีจึงใหญ่ตามเหมาะแก่การต่อแถวขึ้นไปรับโทษต่อหน้าสาธารณชนมาก) โดนยาว ๆ แบบคาดเดาไม่ได้จนถึง ม.5 เลยค่ะหลังจากนั้นท่านรองผอ.เกษียณ ส่วนที่ผ่านมาคาดเดาไม่ได้จริง ๆ จนต้องใส่กางเกงหลาย ๆ ชั้นไว้ในกระโปรงเพื่อกันแรงไม้เรียวและหวาย
ม.ต้นปีสุดท้ายได้ประจำชั้นเป็นครูกิมเล้ง บุคคลิกส่วนตัวชอบทำงานคนเดียวให้ห้องแอร์ ชอบให้เด็กทำความสะอาดห้องพักและห้องเรียนทุกวันทุกซอกทุกมุมด้านนอกด้านในยันหลังคาด้านบนสะอาดจริง ๆ ค่าแต่ได้เท่านั้นแหละฮ่า ๆ ไม่เคยช่วยแตะช่วยทำสักนิด แถมขอดูห้องนอนส่วนตัวถึงที่บ้านของเด็ก ๆ ทุกคน ชอบตัดหน้าม้าตลอดชีพและทาปากสีสันสดใส พอ..กมลาตัดบ้างแต่เก็บมัดจุกติดกิ๊บไปเรียนตลอดเวลา ช่วงตรวจผมถูกสั่งให้แกะค่ะ (กฎร.ร.ห้ามนักเรียนทุกชั้นปีตัดหน้าม้า) ทันใดนั้นครูกิมเล้งชี้นิ้วตะโกนต่อหน้าเพื่อน ๆ ในห้องว่ากมลาตอแ*ล สันดานต่ำ นิสัยเสีย หน้าม้าทำให้โดนสบดใส่ถึงขนาดนี้ภาพนั้นเสียงนั้นขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้จริง ๆ ค่ะเพราะกมลาไม่มีนิสัยตามที่ถูกด่าเลยสักนิด
ยึด.. โรงเรียนเรายึด หวี แป้งฝุ่น กระจก กำไลข้อมือ ลิสต์แบรนด์ แหวน เครื่องสำอางแบบหลอดซองกล่อง ลิปมัน (โทรศัพท์มือถือ1สัปดาห์ถึง3เดือนถึงคืนช่วงม.5เพิ่งอนุญาติให้ทุกคนพกได้) โดยการสุ่มค้นกระเป๋า สุ่มตรวจตรวจค้นตัว ใส่ถังขยะทิ้งทุกชิ้นที่ยึด ส่วนบุคคลิกรองผอ.สส.ท่านเคร่งระเบียบมากถ้าเห็นไกลพวกเราต้องรีบเดินเป็นแถว รีบเข้าแถว เดินตามเส้นที่กำหนด หากเข้าแถวไม่ทันหรือออกนอกเส้นให้เห็นโดนหวดก้นและมือต่อหน้าเพื่อน ๆ แน่ เข้าห้องน้ำในเวลาเรียน เดินเป็นคู่กับเพศตรงข้าม มีขยะใกล้ ๆ ตัวเองแล้วไม่เก็บ ก็โดนตีเช่นกัน บางครั้งการเดินแบบนี้สอนให้พวกเราเป็นผักชีโรยหน้าซะมากกว่ามีวินัย กลุ่มเด็กชอบวิ่งหนีกระเจิงก็โดนท่านขับรถไล่ตามจนมุมถูกลงโทษหนักกว่าตลอด พวกเราได้ยินชื่อท่านทีก็ขวัญหนีกันเลย
👧📚มัธยมปลายปีสุดท้ายมีครูที่ปรึกษาเป็นหญิงแกร่งชื่อมารศรีมณีเด้งท่านเสียงดัง ห้าว ติดพูดหยาบคลายแรง ๆ กมลาสอบได้ที่ 1 ของห้องในระดับมัธยมปลาย 3 ปีซ้อนจนจบ มีครั้งหนึ่งที่สอบได้ที่ 1 ของระดับชั้นที่มี 300 กว่าคน แต่กมลาก็โดนจนได้เพราะนั่งหน้าสุดของห้องโต๊ะท่านอยู่หน้าโต๊ะกมลาหันหน้าเข้ากันเป๊ะ ๆ กมลาก็เงยหน้ามองกระดานปกติทุกวันจนคอล็อกไว้องศานั้นพอกวาดสายตามามองหน้าท่าน โผ๊ะ!!! ครูมารศรีมณีเด้งเดินมาตบที่ขมับศีรษะสองข้างอย่างแรงเราตกใจช็อคร้องไห้ไม่หยุดไปชั่วโมงกว่าทั้ง ๆ ที่ในใจไม่คิดอะไรเลยหัวโล่งมาก ท่านบอกว่าไม่ชอบที่เห็นกมลาเชิดหน้าใส่ ดูหยิ่งและไม่มีมารยาท แถมเวลาเรียนบางคาบกมลาถูกด่าว่าคาราบาว (ควายในภาษาฟิลิปปินส์) เพราะเขียนคำศัพท์ภาษาไทยไม่ถูก คำนั้นคือ "ไอศวรรย์" ก็ไม่เคยใช้หรือได้ยินในชีวิตมาก่อนค่ะ
ท่านบอกว่าใครได้ท็อป O-NET วิชาภาษาไทยจะได้เงิน 1,500บ. นั่นเป็นการท้าทายใจกมลามากค่ะ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้กมลาตั้งใจสอบO-NETภาษาไทยให้ได้คะแนนสูงสุดของระดับโรงเรียนแล้วทำได้จริงปรากฎว่าท่านบอกว่าต้องได้เยอะกว่าปีที่แล้วสิถึงให้ท่านน่าจะลืมตอนท้าแหละ "แต่คนฟังไม่เคยลืมนะคะ" ฮ่าฮ่า
อยู่โรงเรียนรัฐบาลที่จ่ายค่าเทอมเยอะกว่ามหาวิทยาลัยปัจจุบันแต่สังคมที่ให้มาใครเยียวยาหัวใจกมลาได้บ้าง
พอชีวิตมหาวิทยาลัยกมลาถูกปลดปล่อยและเห็นภาพความแตกต่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตเพราะอาจารย์ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นในสาขาวิชา อนุญาตให้ยืนคุยเสมอกันได้โดยไม่ต้องคุกเข่า นั่งทานข้าวกลางวันโต๊ะเดียวกันได้ แซวเล่นได้ ช่วยนักศึกษาล้างจานที่ทำกิจกรรมสาขา เก็บของที่หล่นพื้นส่งให้ ขับรถไปส่งยามวิกาลโดยไม่ทิ้งเด็ก ๆ ได้ เนี่ยแหละสุภาพบุรุษสุภาพสตรีที่เท่ห์มากบนโลกนี้ในสายตาของกมลา 💕
ทุกเหตุการณ์กมลาไม่เคยเล่าให้ผู้ปกครองฟังหรือบอกใครมาก่อน บางอย่างที่เลวร้ายกว่านี้ก็ลืมไปบ้างแล้ว ตอนเด็ก ๆ เราทำตามกฎโดยไม่เคยตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผลอื่น จนลืมไปว่า เราคือเจ้าของชีวิตตนเอง เราก็มี สิทธิมนุยชน ความเสมอภาค ความเท่าเทียม มิใช่เผด็จแบบที่เขาฝังสมองเรามาแบบแยบยล 🇹🇭
ผู้ใหญ่ในครอบครัวมักบอกว่าห้ามติเตียนครูบาอาจารย์เราจะไม่เจริญ แล้วสังคมไทยจะถูกแก้ไขพัฒนาไปได้มากกว่านี้ไหมคะ?
บทความนี้แด่ความเจ็บปวดของผู้คนที่เคยเจอแบบกมลา
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย