ใช้ชีวิตแบบไหนหลังฉีดวัคซีน: กรณีศึกษาในเซเชลล์ (Seychelles) ประเทศที่มีการฉีดวัคซีนมากที่สุดอันดับต้นๆ ของโลกแต่ยังเจอการระบาดหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว
สาธารณรัฐเซเชลล์ 🇸🇨 อยู่ที่ไหน? ทำไมชื่อไม่คุ้นหูเลย
(ตอนแรกแอดอ่านชื่อภาษาอังกฤษก็คิดว่าออกเสียงว่าซีเชลล์ ไม่ใช่นะคะ ต้องเป็นเซเชลล์)
🇸🇨 เซเชลล์เป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 98,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในทวีปแอฟริกา
🇸🇨 เป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียอยู่ห่างจากฝั่งตะวันออกของเคนยา ประมาณ 1,800 กม. ห่างจากด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง บอมเบย์ของอินเดีย ประมาณ 3,300 กม. และอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมาดากัสการ์ ประมาณ 1,100 กม.
🇸🇨 หมู่เกาะใกล้เคียงคือ มอริเชียสอยู่ทางใต้ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้คือคอโมโรส และมายอตอยู่ทางทิศตะวีนตกเฉียงใต้ ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือมัลดีฟส์
🇸🇨 ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะที่มีทรายขาวละเอียด แถมตั้งอยู่แถบๆ ใกล้กับมัลดีฟส์ เซเชลล์เหมือนสวรรค์บนดินของคู่ฮันนีมูนเลยค่ะ
ที่มา costacruises.co.uk
โอยเห็นน้ำใสๆ ทรายขาวๆ กับหินก้อนใหญ่ๆ รูปร่างแปลกตาแล้วอยากไปจังเลยค่ะ
เซเชลส์อยู่นี่จ้า ที่มา britannica.com
ทำไมเราถึงดูกรณีศึกษาที่ประเทศนี้
เซเชลส์ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชากรของตนไปแล้วกว่า 61.4% ตามรายงานของ New York Times ถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่มีอัตรการฉีดวัคซีนให้กับประชากรมากที่สุด
ที่มา New York Times
แต่เมื่อเร็วๆ นี้เซเชลส์กลับเจอการระบาดระลอกสาม เมื่อก.สาธารณสุขเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว พบว่ามีผู้ติดเชื้อกว่า 2,700 คนหรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า โดยที่ 33% ของผู้ติดเชื้อได้รีบวัคซีนป้องกันโควิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!?!?!?
ทำไมในเมื่อฉีดวัคซีนในประเทศให้กับประชากรกว่าครึ่งนึงแล้วแล้วถึงยังมีการระบาด
ทำให้หลายคนอาจจะตั้งคำถามโยงไปถึงประสิทธิภาพของวัคซีนว่า เอ๊ะ วัคซีนไม่ได้ผลจริงหรือ?
คืองี้ค่ะ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญในประเทศเค้าอธิบายไว้ว่า การติดเชื้อระลอกนี้ ไม่ใช่ว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ แต่หมายถึงว่าต่อให้ฉีดวัคซีนแล้ว การป้องกันต่างๆ ก็ยังจำเป็นต้องมีอยู่ หรือพูดง่ายๆ ว่า "การ์ดอย่าเพิ่งตก" นั่นเอง
อ้าว อย่างนี้แปลว่าเรายังต้องรักษาระยะห่าง เด็กๆ เรียนที่บ้าน อะไรแบบนี้เหรอ?
จะตอบคำถามนี้จะขอเล่าสถานการณ์ของเซเชลส์ให้ฟังต่อค่ะ
หลังจากเซเชลล์เริ่มฉีดวัคซีนไประยะหนึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม รัฐบาลก็เริ่มมั่นใจว่าสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันคือน้อยมากๆ
ดังนั้นเซเชลส์จึงตัดสินใจเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบทุกประเทศให้เดินทางเข้ามาในช่วงเดือนมีนาคม แล้วก็ใจกว้างมากๆ แบบถ้านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีผลตรวจเป็นลบก็ไม่จำเป็นต้องกักตัว 14 วันเลยทีเดียว
ถามว่าทำไมรัฐบาลจึงต้องทำแบบนั้น
ก็เพราะประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาคด้วยการท่องเที่ยวมากถึง 72% ของ GDP ของประเทศ และการท่องเที่ยวทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 30% ของประชากรทั้งหมด อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั้งประเทศยังมีน้อยกว่า 3,800 รายและมีผู้เสียชีวิตเพียง 16 รายเท่านั้น
ด้วยปัจจัยทั้งหมด รัฐบาลจึงตัดสินใจเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจซะเลยเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
แต่มาตรการอาจจะหละหลวมไปซักหน่อย เพราะเวลาผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก. สาธารณสุขรายงานพบจำนวนผู้ติดเชื้อรวมกว่า 9,184 ราย โดยที่ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากการติดต่อจากนักท่องเที่ยวหรือเป็นการระบาดภายในประเทศกันแน่
ที่มา Worldometer
ทางรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและท่องเที่ยวกล่าวว่า เป็นที่สังเกตว่าเนื่องจากประชากรได้รับวัคซีนเป็นจำนวนมากแล้วจึงทำให้เกิดการชะล่าใจและการ์ดค่อนข้างตก เริ่มลดระยะห่างและเริ่มมีการจัดปาร์ตี้งานรื่นเริงต่างๆ
แต่ทั้งนี้ความกังวลของรัฐบาลอยู่ที่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่กำลังเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลจึงออกมาตรการปิดโรงเรียนและยกเลิกกิจกรรมกีฬาต่างๆ ในประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ที่มา Getty Image via BBC
คำถามที่ชาว Blockdit เลื่อนมาอ่านจนถึงจุดนี้คงอยากรู้ว่าประเทศเซเชลส์ฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรกัน
ประชากรของเชเซลล์ฉีดวัคซีนของจีนคือ ซิโนฟาร์ม และ โควิชีลด์ (แอสตราเซเนกาที่ผลิตในอินเดีย) จากจำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด 57% ได้รับซิโนฟาร์ม ซึ่งถูกฉีดให้กับประชากรอายุ 18 ถึง 60 ปี และอีก 43% คือโควิชีลด์ ที่ถูกฉีดให้ประชากรอายุมากกว่า 60 ปี
ประธานาธิบดีของเซเชลส์ นายวาเวล รัมคาราวัลเข้ารับวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่มา CNN
แล้วในจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรกัน
ประมาณ 37% ของผู้ที่ติดเชื้อคือผู้ที่ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งนี้ข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อของวัคซีนและอายุของผู้ติดเชื้อไม่ได้รับการเปิดเผยจากรัฐบาล ไม่มีการเปิดเผยถึงสายพันธุ์ที่ติด และตัวเลขสัดส่วนเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนแต่ละชนิดยังไม่ชัดเจน (อ้าว!?!)
ทั้งนี้ 20% ของผู้ติดเชื้อที่แอดมิตที่ รพ. นั้นไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือเสียชีวิต มีเพียง 2 รายที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษเท่านั้น
แต่ถึงแม้ข้อมูลไม่ได้รับการเปิดเผยทั้งหมด แต่ ก. สาธารณสุขก็สรุปว่าวัคซีนสามารถป้องกันประชาชนได้ โดยเฉพาะการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด
แล้วสายพันธุ์อะไรที่ทำให้เกิดการระบาดในระลอกนี้
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการระบาดนั้นมาจากสายพันธุ์อะไรและมาการแพร่กระจายไปมากน้อยแค่ไหน เซเชลส์เคยมีการรายงานถึงการพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยังไม่ได้รับรายงานการระบาดของสายพันธุ์อินเดีย แต่ทั้งนี้การที่ยังไม่ได้รับรายงานก็ไม่ได้แปลว่า "ไม่มี" การระบาดของสายพันธุ์นี้ หากการระบาดเกิดจากสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ก็อาจจะเพิ่มความกังวลให้กับรัฐบาลเนื่องจากแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพการป้องกันสายพันธุ์นี้ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ
วัคซีนกับโควิด
หลายคนคงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเมื่อฉีควัคซีนแล้วยังมีผู้ติดเชื้ออยู่
คืองี้ค่ะ ผู้เชี่ยวชาญในประเทศและจาก WHO ได้คาดการณ์ไว้แล้ว เพราะถึงแม้วัคซีนทั้งสองจะได้รับการอนุมัติจาก WHO แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพป้องกันโควิดได้ 100% โควิชีลด์หรือแอสตราเซเนกาสามารถป้องกันได้ 76% และสามารถลดความรุนแรงของอาการได้ 100% ส่วนซิโนฟาร์มนั้นมีประสิทธิภาพการป้องกันที่ 79%
แปลว่าถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่วัคซีนทำให้เห็นถึงความแตกต่างของการระบาดก่อนการฉีดและหลังการฉีดวัคซีนในประเทศคือการระบาดในระลอกนี้จนถึงปัจจุบัน ไม่มีผู้ป่วยภาวะวิกฤติ ไม่มีผู้เสียชีวิต และไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ผู้เชี่ยวชาญจาก ม. แสตนด์ฟอร์ด Assoc Prof. Michael Lin ก็สนับสนุนแนวคิดนี้ โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่จะพบการติดเชื้อประมาณ 20% ในผู้ฉีดวัคซีนแล้ว หากแต่ความรุนแรงของโรคต่างหากที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพพอใช้ได้นั้นดีกว่าการที่ไม่ฉีดวัคซีนเพื่อจะรอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง
อย่างไรก็ตาม ก็มีแนวคิดคัดค้านความเห็นที่ยกเอาสถานการณ์ของเซเชลส์มาเหมารวมกับสถานการณ์ทั่วโลก โดย ศาสตราจารย์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยา Ms. Cassie Berry แห่งมหาวิทยาลัย Murdoch กล่าวว่า แท้จริงแล้ว จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังการฉีดวัคซีนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นชนิดของวัคซีนและลักษณะทางพันธุกรรมของประชากร นอกจากนี้ ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศที่ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างในอเมริกาที่ใช้ไฟเซอร์
ชีวิตหลังวัคซีน-การ์ดอย่าเพิ่งตก
สถานการณ์ของเซเชลล์ปัจจุบันเป็นเครื่องเตือนสติเราได้ดีว่าถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนในวงกว้างแล้ว การแพร่ระบาดนั้นยังคงมีอยู่ วัคซีนอาจจะไม่ได้ช่วยให้เราสร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิดได้ 100% แต่สามารถลดความรุนแรงของอาการและภาวะแทรกซ้อนได้
ดังนั้น โดยสรุปก็คือ ถึงแม้เซเชลส์จะมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในอัตราที่สูง ประชาชนยังจำเป็นที่จะต้องตั้งการ์ดไว้ให้สูงเพื่อรักษาระยะห่างและการแพร่กระจาย ส่วนรัฐบาลยังคงต้องควบคุมการเปิดประเทศให้มีมาตรการที่เหมาะสม ตรวจคัดกรองเชิงรุก และจัดเตรียมโรงพยาบาลรองรับสถานการณ์
ข้อมูลและรูปภาพของเซเชลส์
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
