9 มิ.ย. 2021 เวลา 11:46 • หนังสือ
ความรู้สึกระหว่างอ่านคือ ทำไมประเทศเราแม่ง #$@&^% อย่างนี้วะ
(I)
ช่วงรัฐประหาร ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงที่ทหารกุมอำนาจ มีหลายคนจากหลากหลายบทบาทถูกคสช.เรียกไป #ปรับทัศนคติ
.
คำว่าปรับทัศนคติเป็นการเกลื่อนคำให้ดูดี เช่นเดียวกับหลายคำที่รัฐบาลชอบใช้ ซึ่งเนื้อแท้ของการปรับทัศนคติคือ #คุณห้ามแสดงออกว่าเห็นต่าง กระบวนการจับกุมเริ่มได้ทันทีแม้ไม่มีข้อกล่าวหา ไม่ต้องมีหมายศาล ไม่ต้องมีหมายเรียกหมายค้นอะไรทั้งสิ้น
.
วิธีการมีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่พื้นเพนิสัยของผู้เป็นนายว่าจะสั่งลูกน้องมาแบบไหน บางคนทหารตำรวจมาเชิญไปดี ๆ บางคนถูกจนท.หลายนายบุกล้อมอุ้มขึ้นรถไปเหมือนหมูเหมือนหมา หลายคนถูกผ้าปิดตา บางคนถึงขั้นเอาผ้าคลุมหัว ควบคุมตัวไปในค่ายทหาร
.
ผมย้ำอีกทีว่านี่คือการจับกุมในช่วงคสช. ในช่วงที่ทหารมีอำนาจ ห๊ะ? อะไรนะ? ประเทศนี้ทหารมีอำนาจมานานแล้วเหรอ อืม ๆ ๆ
.
การเรียกไปปรับทัศนคติ เป็นการจับกุมอย่างถูกกฎหมาย เรื่องที่ผิดมนุษยธรรมอย่างเอาผ้าคลุมหัวกักขังหน่วงเหนี่ยวก็สามารถทำได้ เพราะทำอย่างถูกกฎหมาย นายสั่งตามกฎหมาย (กฎหมายโลกใน 1984 เหรอวะเนี่ย?!)
.
ในการ #ปรับทัศนคติ ไม่มีการทำร้ายร่างกาย แต่เป็นการคุกคามทางจิตวิทยาที่มีทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง ซับซ้อนหลายวิธี บางคนก็เจอทหารก็พูดจาดี บางทีก็ถูกข่มขู่ ครอบครัวถูกเจ้าหน้าที่จับตาดู ให้เขียนชื่อที่อยู่ทั้งของตัวเองและคนในครอบครัวทั้งหมด โทรศัพท์ถูกยืด บางคนถูกถามพาสเวิร์ดเฟสบุ๊ค บางคนถูกลบข้อมูลในโทรศัพท์ หรือบางคนก็ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้อยู่เฉย ๆ ในที่คุมขัง 7 วัน ทั้งนี้เกือบทุกคนถูกเกลี้ยกล่อมให้เซ็น MOU ว่าจะไม่ทำตัวแข็งข้ออีก
.
และต่อให้คุณออกมาแล้วยังต่อต้าน ยังมีความคิดที่แตกต่างจากผู้มีอำนาจ คุณก็จะโดนเรียกตัวอีก ทำไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ใจคุณจะแข็งขืนกับอำนาจที่กดขี่ได้สักแค่ไหน แม้จะเปลี่ยนทัศนคติไม่ได้ แต่สุดท้ายหลายคนก็ต้องสงบปากสงบคำลง และระมัดระวังตัวเองมากขึ้น
.
ปรับทัศนคติ ไม่สามารถทำได้ ไม่มีใครสามารถปรับทัศนคติใครได้ แต่สามารถห้ามไม่ให้พูด ห้ามไม่ได้แสดงความเห็นต่อต้านได้ และปล่อยให้ผู้มีอำนาจปกครองประเทศด้วยความหวาดกลัวต่อไป
.
(II)
ในเล่มมีระหว่างบรรทัดให้อ่านเยอะมาก มุมมองของผู้ถูกจับกุม ท่าทีของผู้มีอำนาจ มีอะไรให้คิดเยอะจริง ๆ เช่นตอนที่เอกชัย หงส์กังวาน และ ศรีสุวรรณ จรรยา โดนจับเพราะเรื่องตรวจสอบหมุดคณะราษฎร ท่าทีของทหารทำให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าเลยว่าหมุดที่หายไปนั้น ใครสั่ง
.
(III)
ผมอ่านจบแล้วรู้สึกเลยว่าหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากเล่มอื่น หนังสือบันทึกเรื่องราวในมุมมืดของอำนาจในรัฐไทยซึ่งคุณไม่มีวันหาได้จากเล่มอื่นแน่ ๆ ถ้าไม่อ่าน คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น...จนกว่าจะถึงตาคุณโดนจับ
.
ที่ผ่านมาแอดมินก็รีวิวหนังสือและแสดงความไม่เห็นด้วยกับอำนาจรัฐอยู่ไม่น้อย ยังไงถ้าผมโดนจับก็ช่วยนึกถึงกันด้วยนะ ขนหนังสือมาให้อ่านในคุกด้วย🥺
.
สำหรับเล่มนี้ ผมไม่แน่ใจว่าตามร้านทั่วไปมีขายไหม หากสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ทาง inbox ของ iLaw นะครับ ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ฝั่งไหน สนับสนุนการปกครองแบบนี้หรือไม่ ผมขอแนะนำให้คุณลองอ่านเพื่อทบทวนความรู้สึกต่อเพื่อนมนุษย์ของตัวเองดูอีกทีว่า...
...สิ่งที่เกิดขึ้นมันควรเป็นเรื่องปกติจริง ๆ หรือ
.
==========
ติดตามรีวิวหนังสือของทุกสำนักพิมพ์จากถุงกล้วยแขกได้ที่นี่
(I) Facebook : https://bit.ly/2TaNyzy
(II) Twitter : https://bit.ly/39Rwdnl
(III) Blockdit : https://bit.ly/2Kkff89
==========
.
(หน้า 67)
เจ้าหน้าที่กล่าวกับเธอตอนหนึ่งว่า "โลกสวยนะเราเนี่ย" สุวรรณาย้อนกลับไปว่า ทำไมถึงจะโลกสวยไม่ได้ ในเมื่อทุกคนก็อยากมีชีวิตดี ๆ และอยู่ในสังคมดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น
(ก็เพราะคนรุ่นก่อนยอมสยบให้กับอำนาจไม่ใช่เหรอ พวกหนูถึงต้องออกมาต่อสู้กันตอนนี้...ในวงเล็บนี่ผมเติมเอง แฮร่!)
#เมื่อฉันถูกเรียกปรับทัศนคติ #ilaw #แก้กฎหมายให้คนเท่ากัน #ถุงกล้วยแขก #อย่าลืมขนหนังสือมาให้อ่านในคุกด้วยนะ
โฆษณา