15 พ.ค. 2021 เวลา 09:28 • ไลฟ์สไตล์
ส่องประเทศที่น่าโยกย้ายไป เพราะมีบริการดูแลใจประชาชนดีเยี่ยม
1
เมื่อหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับตัวเลขผู้ป่วยที่สูงจนน่าตกใจ ทำให้ระบบการดูแลสุขภาพใจ (Mental Health Care System) ต้องพัฒนาตาม อย่างสหรัฐอเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาสุขภาพจิตมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกตามรายงานขององค์การอนามัยโลก โดยวัดจากความพิการหรืออัตราการเสียชีวิต ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด้านสาธารณสุขที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย สหรัฐอเมริกา🇺🇸อยู่ในอันดับที่สามสำหรับโรคซึมเศร้าแบบ unipolar ตามหลังจีน🇨🇳 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 1 ตามด้วยอินเดีย🇮🇳
สถิติในปี 2019 รายงานว่า 20.6% (ประมาณ 51.5 ล้านคน) ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา🇺🇸 มีอาการป่วยทางจิต ซึ่งหมายถึงในจำนวนผู้ใหญ่ 5 คน มี 1 คนที่กำลังมีปัญหาสุขภาพใจ ซึ่งมีเพียง 40 % ของจำนวนผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางใจเท่านั้นที่ได้รับการรักษา ซึ่งอินเดีย🇮🇳 จีน 🇨🇳 และสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความวิตกกังวล โรคจิตเภทและโรคอารมณ์สองขั้วตามรายงานของ World Health Organization (WHO) หรือองค์การอนามัยโลก
ซึ่ง WHO ได้มีการทำงานร่วมกับ NGOs การวิจัยระดับชาติและภาครัฐ ตลอดจนพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนประเทศต่าง ๆ ในการปรับปรุงระบบการเข้าถึงการรักษาสุขภาพจิตที่มีคุณภาพสูงและการดูแลภาวะซึมเศร้า (depression) โรคลมบ้าหมู (epilepsy) โรคจิตเภท (schizophrenia) ไปจนถึงการใช้สารเสพติด (substance abuse) และจัดการกับอัตราการฆ่าตัวตาย (suicide rate) ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
ปัญหาหลักของเรื่องสุขภาพจิตคือการปิดช่องว่างระหว่างผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตและผู้ให้บริการ
WHO เสริมว่า "ในปี 2014 ประชากรโลกเกือบครึ่งอาศัยอยู่ในประเทศที่มีสัดส่วนจิตแพทย์น้อยกว่า 1 คนต่อประชากรราว 100,000 คน" โดยเฉพาะในโซนเอเชียที่มีจิตแพทย์อยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่หลายประเทศในยุโรปมีจำนวนผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิตมากพอ เช่น โมนาโก🇲🇨 นอร์เวย์🇳🇴 เบลเยียม🇧🇪 และเนเธอร์แลนด์🇳🇱 โดยแต่ละแห่งมีจิตแพทย์มากถึง 20-40 คนต่อประชากร 100,000 คน ตามด้วยสหรัฐอเมริกา🇺🇸และแคนาดา 🇨🇦 มีจิตแพทย์ประมาณ 13 คนต่อประชากร 100,000
จากบทความของ Business Insider ในปี 2017 ลักเซมเบิร์ก🇱🇺 มีระบบการดูแลสุขภาพที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลกโดยมีอายุขัยเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 82 ปี ในส่วนของการรักษาสุขภาพจิตลักเซมเบิร์กมุ่งเน้นไปที่รูปแบบ "การศึกษาเชิงบวก" ที่สามารถเชื่อมโยง “ทักษะด้านคุณภาพชีวิต” และ “ทักษะแห่งความสำเร็จ” เข้าด้วยกันได้ โดยพื้นฐานแล้วลักเซมเบิร์กจะสอนให้วัยรุ่นค้นพบจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของตนซึ่งแตกต่างจากวิธีการสอนแบบเดิมที่ส่งเสริมให้เด็กสร้างตัวตนเหมือน ๆ กัน ซึ่งวิธีนี้ทำลายความเจ็บป่วยทางจิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างพลเมืองที่มีความสุขและมีคุณภาพมากขึ้น
สวิตเซอร์แลนด์🇨🇭หนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยและมีความก้าวหน้าในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ มีเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมและมีอำนาจในการแข่งขันสูงคล้ายคลึงกับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากจะติดอันดับท็อปของประเทศที่คนอยากไปอยู่มากที่สุดมาโดยตลอด สวิตเซอร์แลนด์ยังมีระบบ Health Care ที่ขึ้นชื่อมาก ๆ อย่างประกันสุขภาพที่มีบริษัทประกันภัยมากกว่า 58 แห่งให้ประชาชนได้เลือก แล้วยังครอบคลุมในเรื่องของการรักษาทางจิตเวช การใช้สารเสพติด และอื่น ๆ อีกมากมายโดยมีการพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพจิตให้มีบริการเพียงพอแก่ความต้องการ สะดวกแก่ประชาชน และมีค่ารักษาที่จับต้องได้ คุ้มครองและควบคุมตามข้อกำหนดเรื่องภาษี บางรัฐเลือกที่จะเจรจากับบริษัทประกันภัย เพื่อให้อัตราค่ารักษาและค่ายาคงที่สำหรับประชาชน ทำให้ประชาชนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพียง 10-20 % ของค่ารักษาทั้งหมดเท่านั้น
นอร์เวย์🇳🇴เป็นหนึ่งในประเทศที่การดูแลสุขภาพจิตที่ครอบคลุม มีการจัดหาทรัพยากรสำหรับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกอย่างเพียงพอ รวมถึงคลินิกผู้ป่วยทางจิตเวชซึ่งโดยทั่วไปเป็นห้องฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต นอกจากนี้นอร์เวย์ยังประกาศโครงการริเริ่ม "การรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา" ในปี 2017 สำหรับผู้ป่วยจิตเวชที่ต้องการลดหรือไม่ต้องการใช้ยา เนื่องจากเห็นความสำคัญของสิทธิมนุษยชนและอิสระทางร่างกายผู้ป่วย
อย่างไรก็ตามในหลาย ๆ ประเทศ แม้จะมีระบบการดูแลสุขภาพใจที่ได้มาตรฐาน แต่ก็ยังพบการละเมิดสิทธิต่อผู้ป่วยทางจิตโดยอาศัยคำว่า “การรักษา” ในการเอาเปรียบ ยกตัวอย่างประเทศอาร์เจนตินา🇦🇷 การขอคำปรึกษาและไปพบนักจิตวิทยาถือเป็นเรื่องธรรมดาและเปิดกว้าง ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มองว่าการรักษาสุขภาพจิตและความเจ็บป่วยทางจิตเป็นเรื่องต้องห้าม แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แต่อาร์เจนตินาก็มีจำนวนนักจิตวิทยาต่อหัวประชากรมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าสถาบันบางแห่งในอาร์เจนตินาทำร้ายผู้ป่วย บังคับให้อยู่ในสภาพที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือไม่ปลอดภัยและไม่ได้ให้การดูแลสุขภาพจิตที่เหมาะสม
สำหรับประเทศไทย🇹🇭นั้นกรมสุขภาพจิตได้รายงานจำนวนผู้ที่พยายามทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายโดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งสุขภาพจิตเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตรองจากโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ นับว่าสุขภาพจิตของคนไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ ตัวอย่างข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2017 กล่าวว่ามีผู้เข้ารับการรักษาเพียง 48.5% ของผู้ป่วยซึมเศร้าทั้งหมด ซึ่งผู้เกี่ยวข้องตั้งเป้าว่าจะผลักดันการเข้าถึงบริการให้ได้ 70% ภายในปี พ.ศ.2564 แต่ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงดูเหมือนว่าผู้ให้บริการไม่สมดุลกับความต้องการของผู้ป่วย รวมถึงจำนวนเยาวชนต้องการปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นสัญญานว่าประเทศไทยต้องผลักดันบริการด้านสุขภาพจิตให้ถึงมือประชาชนมากยิ่งขึ้น
เมื่อผู้ต้องการใช้บริการมากขึ้น #อูก้ามีทางออก มีคนไทยจำนวนมากที่ตระหนักถึงปัญหานี้ ในปัจจุบันนวัตกรรมการปรึกษาสุขภาพจิตแบบออนไลน์เริ่มเป็นที่นิยม อย่างแอปพลิเคชันอูก้าเองที่อยากช่วยให้ทุกคนเข้าถึงบริการปรึกษาด้านสุขภาพจิตสามารถพูดคุยกับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาสะดวกทุกที่ทุกเวลาในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้อูก้ายังมีแพ็กเกจดี ๆสำหรับองค์กรและบริการปรึกษาฟรีค่าใช้จ่ายสำหรับนักศึกษาอีกด้วย
ทุกประเทศล้วนทีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน อยู่ที่เราเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง ? ปัญหาท่ีเกิดขึ้นล้วนรอวันได้รับการแก้ไข ดังนั้นการรักษาสุขภาพจิตเช่นเดียวกับปัญหาอื่น ๆ แทนที่จะตีตราว่าเป็นความอับอายที่เกิดขึ้นกับ "คนอื่น" อย่าลืมว่าทุกคนสามารถได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะสุขภาพจิตได้ โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลัง การเลี้ยงดู ระดับรายได้ เชื้อชาติ วัฒนธรรม การทำให้สมาชิกในครอบครัวและผู้ที่ต้องการบริการสุขภาพจิตสบายใจที่จะเข้ารับบริการด้านสุขภาพใจจึงสำคัญ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องต่อสู้หรือดิ้นรนเพื่อที่จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม
จนกว่าความเจ็บป่วยทางจิตจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับภาวะสุขภาพทางกายอื่น ๆ เราสามารถเปิดใจเรียนรู้และสร้างมาตรฐานการดูแลสุขภาพใจที่เหมาะสมไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะตึงเครียดจากการระบาดของ COVID-19 หรือสถานการณ์ใด ๆ หากมีจิตแพทย์และนักจิตวิทยาช่วยดูแลใจก็ไม่ต้องห่วง อูก้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมให้บริการเสมอ เรื่องของใจให้เรารับฟัง
#OOCAknowledge
ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านวิดีโอคอล นัดคุยได้เลย
🔹 ดาวน์โหลดแอปฯ หรือคุยผ่านเว็บไซต์ > https://ooca.page.link/movebd
✨ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและบริการของ ooca ได้ที่ https://ooca.page.link/oocaservice
📬 พบปัญหาการใช้งาน ทักแชทมาหาเรา > bit.ly/msgfbooca
.
#OOCAitsOK #WeWillListen #เรื่องของใจให้เรารับฟัง #แอปปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยา #mentalhealth #สุขภาพจิต #เครียด #ซึมเศร้า #พบจิตแพทย์
อ้างอิงจาก
https://resourcecenter.thaihealth.or.th/files/90/จับตา 10 พฤติกรรมสุขภาพคนไทย ปี 63.pdf
โฆษณา