15 พ.ค. 2021 เวลา 14:26 • ปรัชญา
เขาว่ากันว่า ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุด ก็คือ ตัวเราเอง
2
เพราะตัวเราเอง เป็นคนที่รู้จักเราดีที่สุด รู้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหน รู้ว่าเราใจอ่อนกับอะไรง่ายที่สุด รู้ว่าเราอ่อนแอตรงไหน
อีกทั้งยังเป็นคนที่เข้าข้างเราจนเกินไป เช่น อันนี้ค่อยทำก็ได้ สิ่งนั้นยังไม่จำเป็นต้องทำหรอก อย่างนี้ เป็นต้น ทำให้เราทำอะไรให้สำเร็จตามเป้าได้ยากมาก
ในการลงมือทำอะไรสักอย่าง หรือตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างในชีวิต บางครั้งเรามักจะโดนศัตรูคนนี้ขัดขวางเอาไว้ เข้าข้างตนเองเกินไป
ทำให้เสียกำลังใจ ทำให้เราขาดความมั่นใจ ไม่เชื่อมั่นในตนเอง ทำให้เราไม่ได้ไปถึงเป้าหมาย ไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่
ตัวเราเองนี่มันร้ายจริงๆ
2
แต่ไม่ใช่ว่าเราป้องกันภัยของตนเองไม่ได้เลย ภัยจากเราเอง เราก็ต้องจัดการมันด้วยตัวเอง เพราะคนที่รู้จักศัตรูคนนี้ดีที่สุด ก็คือตัวเราเองเช่นกัน
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและเอาชนะภัยตนเอง ด้วย 4 คำนี้ กันครับ
ดูถูก
3
ตัวเราเองมักจะรู้ว่าเราไม่ดีตรงไหน เคยผิดพลาดตรงไหนบ้าง มักจะอ่อนแอกับอะไร บ่อยครั้งจะเกิดการดูถูกตัวเอง ทำให้หมดกำลังใจและหมด Passion ในการทำสิ่งที่ต้องการไปได้เลย
แต่เมื่อเรารู้ว่ามีตัวเราเองอีกคน กำลังดูถูกความสามารถเราแบบนี้ เราต้องรู้ทันมันและหยุดความคิดที่จะดูถูกนั้นซะ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง มองตัวเองในแง่บวก มองความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นนั้นเป็นบทเรียน
และคิดให้ได้ว่า นี่เรากำลังดุถูกตัวเองอยู่นะ เราดูถูกตัวเองอยู่แบบนี้ แล้วจะมีกำลังใจได้ไง จะทำตามเป้าหมายได้ยังไง สิ่งที่เราควรทำจริงๆคืออะไรนอกจากการดูถูกตัวเอง เรารู้ดีที่สุด
ล้มเลิก
ในการลงมือทำอะไรบางอย่าง และยังไม่ประสบความสำเร็จ ศัตรูตัวร้ายจะบอกเราว่า พอแล้ว ล้มเลิกได้แล้ว ทำให้เรามักจะอยากล้มเลิกมันซะเหลือเกิน เริ่มมีความคิดที่ว่า ที่เราทำอยู่นั้น มันจะสำเร็จและคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปจริงๆหรือ
แต่หากลองคิดใหม่ การที่เราตัดสินใจลงมือทำมัน การที่เรายอมใช้เวลากับมันในระยะหนึ่ง การที่เรายอมทุ่มเทกายและใจในการลงมือทำมันมาถึงขนาดนี้แล้ว
ไปต่อหรือพอแค่นี้ อะไรมันน่าเสียดายกว่านั้น บางทีเราอาจจะล้มเลิกไปก่อนในขณะที่เส้นชัยอยู่ใกล้เอื้อมแล้วแท้ๆ
ผมมองว่า การพยายามและไม่ล้มเลิกยังพอมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ แต่หากเราล้มเลิก ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จจะเป็น 0 ทันที
1
สู้ๆนะมนุด เราขอนอน
คุณค่าของตนเอง
เชื่อมั่นว่าตนเองต้องทำมันได้ เห็นและเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง คิดบวกเข้าไว้ และอย่าให้ศัตรูตัวร้ายเข้ามาลดคุณค่าในตัวคุณ
คิดให้ได้ว่า ทุกคนมีจุดอ่อน ทุกคนเคยผิดพลาด เพียงแค่มีจุดอ่อนและผิดพลาด ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าในตัวเราจะลดลง
ท่องไว้เสมอว่า เราทำได้ และอยากจะไปถึงเป้าหมายนั้นแทบแย่แล้ว แล้วสมองจะหาแนวทางที่เป็นไปได้ เพราะสมองจะทำงานตามสิ่งที่เราคิดและปรารถนาจริงๆ
เปรียบเทียบ
บ่อยครั้งที่เราได้พบเจอคนที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จ เรามักจะเอาจุดอ่อนของตนเองไปเทียบกับจุดแข็งของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
ทำให้ตัวเราเองรู้สึกด้อยค่าลงมาก นอกจากจะไม่ไปถึงเป้าที่ต้องการแล้ว ยังทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองอีกด้วย
สิ่งที่เราควรทำจริงๆคือ ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราให้ดีที่สุด เรารู้ดีที่สุดว่าเป้าหมายของเราคืออะไร เราถนัดอะไร และตอนนี้ เรากำลังทำอะไร คนเรามีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน
แทนที่จะเปรียบเทียบให้รู้สึกแย่กับตัวเอง ควรเปลี่ยนมาเป็นให้กำลังใจตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีทีสุด
เปรียบเทียบเป้าหมายเป็นเส้นชัยของการวิ่งแข่งขัน หากเรามัวแต่มองคนข้างๆ มีแต่จะสะดุดขาตัวเองล้มเสียเปล่าๆ ที่เราควรทำจริงๆคือ โฟกัสกับลมหายใจ ฝีเท้า และเส้นชัย คือการอยู่กับตัวเอง และทำสิ่งที่กำลังทำให้ดีที่สุด
อย่าให้ศัตรูตัวร้ายเข้ามาครอบงำและขัดขวางความสำเร็จของเรา เราต้องรู้ทันและจัดการกับมันครับ
ขอขอบคุณทุกคนจากใจจริงครับ
ปุ๋น
โฆษณา