16 พ.ค. 2021 เวลา 02:33 • อาหาร
มะรุม
มะรุม หรือ Moringa มีชื่อเรียกประจำท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น ทางภาคเหนือจะเรียกว่า บะค้อนก้อม ทางภาคอีสานจะเรียกว่า ผักอีฮุม หรือบักฮุ้ม
มะรุม จัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อนรวมถึงประเทศไทย ด้วยคุณค่าทางโภชนาการจึงมีการนำส่วนใบ ดอก และฝักอ่อนของมะรุมไปประกอบอาหารหรือรับประทานแบบสดก็ได้ สำหรับส่วนอื่น ๆ เช่น ราก เปลือก น้ำยาง
มะรุม
มะรุม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมหลายชนิด ซึ่งจุดเด่นของมะรุมก็คือจะมีวิตามินเอ ซี แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กในปริมาณที่สูงมาก นอกจากนี้มะรุมยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคได้หลายชนิด แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรจะมองว่ามะรุมเป็นยามหัศจรรย์ที่ใช้ในการรักษาโรค
การรับประทานมะรุม
การรับประทานมะรุมทั้งส่วนใบ ฝัก และเมล็ดค่อนข้างปลอดภัยหากรับประทานเป็นอาหารในปริมาณที่เหมาะสม แต่ไม่ควรรับประทานรากและสารสกัดจากรากของต้นมะรุมเพราะอาจมีสารพิษซึ่งเป็นสาเหตุของอัมพาตหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยหากรับประทานมะรุมเพื่อเป็นยารักษาโรค
ประโยชน์ของมะรุม
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย
3. ลดไขมัน และคอเลสเตอรอล
4. รักษาโรคโลหิตจาง
5. บำรุงหัวใจ
6. ลดน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
7. ช่วยลดไข้ แก้หวัด
8. บรรเทาอาการไอ
1
นอกจาก 8 ข้อนี้แล้ว มะรุมยังให้ประโยชน์อีกมากมาย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “มะรุม สรรพคุณและประโยชน์ของมะรุม 78 ข้อ ! “
มะรุมสามารถนำไปประกอบอาหารอะไรได้บ้าง
นอกจากแกงส้มมะรุมแล้ว มะรุมยังสามารถนำมาทำอาหารได้อีกหลากหลายเมนู
เมล็ดอ่อนของมะรุมนำมาทำยำมะรุมได้ และนอกจากเมล็ด และฝักมะรุม ยังสามารถนำใบมะรุมมาทำอาหารได้อีกด้วย เช่น แกงจืดไข่ใส่มะรุม แกงอ่อม ลวก หรือทอดกับไข่ทานกับน้ำพริก หรือทำเป็นชามะรุมดื่มเพื่อแก้คอชุ่มชื้น ลดอาการไอได้
ใบมะรุมควรรับประทานใบสด ๆ ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป และไม่ควรถูกความร้อนนานเกินไป เพื่อให้ได้ประโยชน์ของสารอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งการใช้ใบมาประกอบอาหารสิ่งที่ต้องระวังก็คือ ไม่ควรให้เด็กทารกในวัยเจริญเติบโตถึง 2 ขวบ รับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะใบมะรุมมีธาตุเหล็กสูง หรือเด็กที่อายุ 3-4 ขวบ ควรรับประทานแต่เพียงเล็กน้อย และไม่ว่าจะวัยไหนก็ตามไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ (ไม่ได้เกิดกับทุกคน) ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย
#สาระจี๊ดจี๊ด
มะรุมที่ให้คุณประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีข้อเสียคือในตัวของมะรุมเองนั้นก็มีพิษเหมือนกัน เนื่องจากมะรุมเป็นพืชในเขตร้อน "สำหรับหญิงตั้งครรภ์หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้แท้งบุตรได้" และยังรวมไปถึง "ผู้ป่วยโรคเลือด" ก็ไม่ควรรับประทานมะรุมเช่นกัน เพราะจะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย นอกจากนี้ผู้ที่เป็น "โรคเกาต์" ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะมะรุมมีโปรตีนที่ค่อนข้างสูงมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ความว่ามันจะไม่ปลอดภัย เพราะคนไทยนิยมนำมาประกอบอาหารมานานมากแล้ว ซึ่งสำหรับผู้ที่คิดจะดูแลสุขภาพด้วยการหันไปซื้อมะรุมสกัดแคปซูลมารับประทานนั้น ก็ควรจะต้องระมัดระวังและควรเลือกซื้อมะรุมแคปซูลที่มี อย. ด้วย
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา