16 พ.ค. 2021 เวลา 03:43 • หนังสือ
ดองหนังสือปกนี้ไว้นานมาก
แม้จะชอบสองเล่มแรกในชุด ให้คะแนนไว้ระดับเอบวกเลยทีเดียว
เล่มแรก เคน (พระเอกของเรื่อง) พาเราไปเรียนรู้เรื่องธุรกิจ
เล่มสองพาไปเรียนรู้เรื่องเงิน
หลังจากธุรกิจมั่นคง มีเงินมีทองแล้ว แต่เคนก็ยังมีปัญหาในชีวิตอยู่ดี
ภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้หนึ่งปี ขนกระเป๋ากลับไปอยู่บ้านพ่อแม่
และขอทบทวนความสัมพันธ์
ปัญหาเกิด จึงเกิดมาเป็นหนังสือปกนี้
เรียน “วิชาคน” วิชาที่ฉันเดาเองว่าน่าจะยากที่สุด ซับซ้อนที่สุด
ดองไว้นานด้วยเหตุนี้
หนังสือแบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่มด้วยสี่มิตินี้
มองโลกในแง่ดี-มองโลกในแง่ลบ
พึ่งพาตนเอง-พึ่งพาคนอื่น
ในแต่ละกลุ่มก็จะมีจุดเด่น จุดด้อย การกระทำ คำพูดติดปากแตกต่างกันไป
ต้องยกตัวอย่างพระเอกสินะ
เคนเป็นคนในกลุ่มพึ่งพาตัวเองและมองโลกในแง่ดี
ฟังชื่อกลุ่มแล้วเลิศได้อีก แน่นอนคนกลุ่มนี้เป็นผู้นำ
เป็นประธานบริษัท เป็นหัวหน้าระดับสูง
มีเป้าหมายให้พุ่งชน มีพลังงานเต็มเปี่ยม
แต่กลับดูไม่ค่อยเป็นมนุษย์ ไม่ค่อยมีความรู้สึก
จนเป็นเหตุให้ภรรยาหนีนี่แหละ
แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นกลุ่มคนประเภทไหน
เป็นคนกลุ่มสุดท้ายอย่างฉันหรือเปล่า
เราต่างเกิดขึ้นมาเพื่อรักษาสมดุลของกันและกัน
ทุกความสัมพันธ์ ของคนทุกกลุ่มสามารถเข้ากันได้ ดีขึ้นได้
เมื่อมองหา “ศูนย์กลาง”ให้เจอ และนำพาชีวิตตัวเองไปอยู่ที่ตรงนั้น
ที่จุดศูนย์กลางนั้น
“คนที่พึ่งพาตัวเองและมองโลกในแง่บวก”
จะแก้ปัญหาและลงมือทำได้ถูกจุดมากยิ่งขึ้น ไม่ได้มองโลกในแง่บวกจนโอเวอร์
“คนที่พึ่งพาตัวเองและมองโลกในแง่ลบ”
จะเลิกพยายามควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง ชีวิตผ่อนคลายขึ้น
“คนที่พึ่งพาคนอื่นและมองโลกในแง่บวก”
จะเริ่มมองเห็นทิศทางในชีวิตชัดเจนขึ้น
“คนที่พึ่งพาคนอื่นและมองโลกในแง่ลบ”
จะมุ่งไปข้างหน้าและอยากทำอะไรสักอย่างดู
หนังสืออ่านง่ายกว่าที่คิด
ถ้าเทียบกับความซับซ้อนของคน ของมนุษย์
“อย่าลืมว่าประโยชน์สูงสุดที่เธอสามารถทำให้โลกนี้ได้คือ
การทำสิ่งที่เธอรู้สึกตื่นเต้นจากใจจริงต่างหาก”
หน้า 250
โฆษณา