16 พ.ค. 2021 เวลา 08:24 • หนังสือ
#54 เล่ม 2 บทที่ 20 หน้า 312 ~ 315
N : ทำไมผู้คนถึงสงสัยในตัวพระองค์ครับ❓
G : 🔸เพราะพวกเขาสงสัยตัวเอง🔸
N : ทำไมพวกเขาถึงสงสัยตัวเองล่ะครับ❓
G : 💢เพราะพวกเขาถูกบอกและสอนมาอย่างนั้น💢
N : จากใครครับ❓
G : จากคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของฉัน
N : ผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ❓
G : เพราะมันเป็นวิธี (จริงๆมันเป็นเพียงวิธีเดียวด้วยซ้ำ) ที่เอาไว้ควบคุมผู้คน เธอเห็นหรือเปล่าว่า 💢เธอต้องสงสัยในตัวเอง💢 ไม่อย่างนั้นเธอจะเรียกพลังทั้งหมดของเธอกลับคืน ซึ่งยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด สำหรับคนที่ยึดครองอำนาจอยู่ในตอนนี้ คนเหล่านี้ครอบครองพลังที่เป็นของเธออยู่...ซึ่งพวกเขาเองก็รู้ดี
และวิธีเดียวที่จะยึดครองต่อไปได้ก็คือต้องปิดบังไม่ให้โลกเห็น เพราะมันจะนำไปสู่การหาทางแก้ปัญหาสำคัญที่สุดสองอย่างของประสบการณ์มนุษย์
N : ซึ่งก็คือ❓
G : จริงๆในเล่มนี้ฉันได้บอกไปหลายรอบแล้ว แต่ถ้าจะสรุปก็ตามนี้...
ปัญหาและความขัดแย้งส่วนใหญ่ (ถ้าไม่ทั้งหมด) ของโลกและของตัวเธอเองในฐานะปัจเจก จะแก้ได้ถ้าสังคมของพวกเธอ :
1
1️⃣ ละทิ้งแนวคิดเรื่องการแบ่งแยก
2️⃣ นำแนวคิดเรื่องการเปิดเผยมาใช้
✴️ จงอย่าเห็นตัวเองว่าแยกขาดจากใครอีกและจงอย่าเห็นตัวเองว่าแยกขาดจากฉันด้วย
✴️ จงอย่าพูดอะไรก็ตามนอกจากความจริงอันครบถ้วนกับทุกผู้คนและจงอย่ายอมรับอะไรก็ตามที่น้อยไปกว่าความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เธอมีต่อฉัน
🌟 ข้อแรกจะนำไปสู่ข้อที่สอง เพราะเมื่อเธอเห็นและเข้าใจว่าเธอนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน เธอจะไม่สามารถพูดโกหกหรือปิดบังข้อมูลสำคัญหรือทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากการเปิดเผยทุกอย่างอย่างเต็มที่ต่อทุกผู้คน
🌟 เพราะเธอจะเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นประโยชน์ที่สุดต่อตัวเธอเองที่ทำอย่างนั้น
ทว่าการยกระดับสู่กระบวนทัศน์แบบนี้จะต้องอาศัยปัญญาและความกล้าหาญเป็นอย่างมาก จะต้องอาศัยความมุ่งมั่นเหลือคณานับ เพราะความกลัวจะจู่โจมไปยังจุดศูนย์กลางของแนวคิดนี้และป่าวร้องว่าผิดพลาด
ความกลัวจะกัดกินเข้าไปยังแก่นแท้แห่งความจริงอันลึกล้ำและแปลงเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเรื่องเท็จเทียม ความกลัวจะบิดเบือน รังเกียจ และทำลาย (ความจริง)
ฉะนั้น "ความกลัว" จึงเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเธอ
ทว่าเธอไม่อาจมีและไม่อาจสร้างสังคมที่เธอเฝ้าปรารถนาและฝันใฝ่มาอย่างยาวนานได้นอกเสียจากและจนกระทั่งเธอจะเข้าใจด้วยปัญญาและกระจ่างแจ้งถึงปรมัตถ์สัจจ์ที่ว่า (ultimate truth) :
🌟สิ่งที่เธอทำให้ผู้อื่นเธอก็ได้ทำให้ตัวเอง
🌟 สิ่งที่เธอไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเธอก็ไม่ได้ทำให้ตัวเอง
🌟และความเจ็บปวดของผู้อื่นก็คือความเจ็บปวดของเธอ
🌟ความเบิกบานของผู้อื่นก็คือความเบิกบานของเธอด้วยเช่นเดียวกัน
💢และเมื่อเธอปฏิเสธส่วนใดส่วนหนึ่งของมัน ก็ถือว่าเธอกำลังปฏิเสธส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเธอเองด้วย💢
✴️ ในตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องเรียกเอาอำนาจของตัวเองกลับคืนมา คือห้วงเวลาที่จะเห็นว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใครอีกครั้ง เมื่อนั้นเธอจะสำแดงตัวตนของเธอออกมาให้เห็นได้อีกครา
✴️เพราะเมื่อเธอรับรู้ได้อย่างชัดแจ้งถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงที่เธอมีต่อพระเจ้า 🔸เมื่อนั้นเราต่างก็มิอาจแยกออกจากกันได้อีก และจะไม่มีสิ่งใดที่สามารถมาพรากเราออกจากกันได้อีกต่อไป🔸
✴️ และแม้ว่าเธอจะกลับไปใช้ชีวิตในมายาแห่งการแบ่งแยกอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรังสรรค์ตัวเองขึ้นมาใหม่ แต่นับจากนี้ไปเธอจะเคลื่อนผ่านชีวิตที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้งอย่างผู้ตื่นรู้
✴️ รู้เท่าทันมายาว่าเป็นเพียงแค่สิ่งสมมติ และสามารถใช้มายานั้นได้อย่างเบิกบานและเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพื่อจะสามารถมีประสบการณ์ถึงตัวตนด้านต่างๆของเธอได้ตามแต่ที่เธอนั้นปรารถนา ✨แต่ทว่าจะไม่รับเอาไว้ในฐานะที่เป็นความจริงอีก✨
✴️ เธอไม่จำเป็นต้องใช้การหลงลืมเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่อีก*** แต่จะใช้การแบ่งแยกได้อย่างรู้เท่าทัน เพียงแค่เลือกสำแดงตัวเองว่าเป็นสิ่งแบ่งแยก เพื่อเหตุผลบางอย่างและเป้าหมายบางประการ
✴️ และเมื่อเธอตื่นรู้ (รู้แจ้ง) ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว (นั่นหมายถึงคนผู้นั้นจะเต็มเปี่ยมไปด้วยแสงสว่าง) เธออาจเลือกกลับมายังโลกสัมพัทธ์สู่รูปแบบชีวิตทางกายภาพอีกครั้งด้วยเหตุผลอันเฉพาะเจาะจงคือเพื่อกลับมาย้ำเตือนผู้คน หรือ เธออาจเลือกกลับมามิใช่เพื่อจะสร้างหรือมีประสบการณ์ถึงแง่มุมใหม่ๆของตัวเองอีก หากแต่กลับมาเพื่อนำแสงสว่างแห่งสัจจะสู่โลกแห่งมายาเพื่อผู้คนจะได้แลเห็น
✴️ เมื่อนั้นเองเธอจะเป็น "ผู้นำแสงสว่าง" เมื่อนั้นเองเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของการตื่นรู้ (Awakening) และมีหลายคนที่ทำอย่างนั้นแล้ว
N : พวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยให้เราได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
G : ใช่ พวกเขาคือวิญญาณที่รู้แจ้งแล้ว (วิญญาณที่วิวัฒนาการแล้ว) พวกเขาไม่ได้เสาะแสวงหาประสบการณ์ถึงตัวเองในแบบที่สูงส่งกว่าเดิมอีก เพราะพวกเขาได้มีประสบการณ์ที่สูงส่งที่สุดของตัวเองไปแล้ว
พวกเขาเพียงปรารถนาที่จะนำประสบการณ์ของภาวะนั้นมาแบ่งปันให้กับพวกเธอ มาเพื่อนำ "สัจจธรรม" นั้นมามอบให้กับพวกเธอ พวกเขาจะแสดงให้พวกเธอได้เห็นถึงวิถีทาง (และชีวิต) ของพระผู้เป็นเจ้า
พวกเขาจะกล่าวว่า "เราคือทางนั้นและคือชีวิต จงตามเรามา" จากนั้นก็ใช้ชีวิตเป็นตัวอย่างให้พวกเธอเห็น ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในพระสิริอันเป็นนิรันดร์แห่งการตระหนักรู้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระผู้เป็นเจ้านั้นเป็นอย่างไร เธออาจเรียกภาวะนั้นได้ว่า ✨จิตสำนึกแห่งพระผู้เป็นเจ้า✨
✴️เธอและฉันเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ✴️
2
✴️เราทั้งคู่ไม่อาจเป็นอย่างอื่นไปได้...เป็นไปไม่ได้เลย✴️
ทว่าในตอนนี้เธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่รู้สึกตัว (หลับใหล) ถึงภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น
และมันก็เป็นไปได้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในกายสังขารที่รู้ตัวทั่วพร้อมถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกสรรพสิ่ง อยู่ในจิตสำนึกที่ตระหนักรู้ถึงความจริงสูงสุด (ปรมัตถ์สัจจ์) อยู่ในจิตสำนึกที่ได้สำแดงถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา
1
เมื่อเธอทำอย่างนี้ เธอจะเป็นตัวอย่างให้กับผู้อื่น ผู้อื่นที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหลงลืม เธอจะเป็นตัวอย่างที่มีลมหายใจ และในการนี้เธอได้ช่วยฉุดดึงผู้อื่นให้พ้นจาก 💢วังวนแห่งการหลงลืมชั่วกาลนาน💢
นั่นล่ะนรก... 💢นรกคือการพลัดหลงอยู่ในหุบเหวแห่งการหลงลืมไปตลอดกาล💢
✨ทว่าฉันจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอกนะ ฉันจะไม่ยอมให้ลูกแกะแม้เพียงตัวเดียวต้องพลัดหลงไปไหน... ฉันก็เลยส่งคนเลี้ยงแกะไปให้✨
1
แน่นอน ฉันส่งคนเลี้ยงแกะไปหลายคน 🔸เธอเองก็เลือกเป็นหนึ่งในนั้นได้🔸 และเมื่อวิญญาณทั้งหลายถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล ได้รับการย้ำเตือนว่าตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาคือใครอีกครั้งจากเธอ
เมื่อนั้นเหล่าทวยเทพทั้งหมดในสรวงสวรรค์ก็จะปลาบปลื้มยินดีไปกับวิญญาณเหล่านั้น ด้วยครั้งหนึ่งพวกเขาได้พลัดหลง ทว่าบัดนี้พวกเขาถูกพบแล้ว
N : มีผู้ศักดิ์สิทธิ์แบบที่พระองค์พูดมานี้อยู่บนโลกตอนนี้หรือเปล่าครับ❓ ไม่ใช่ในอดีตแต่ในตอนนี้เลย❓
...
...
...
เธอไม่จำเป็นต้องใช้ "การหลงลืม" เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่อีก***
...
*** คราวนี้มาเกิดใหม่ก็จะจำได้หมดว่าตัวเองเป็นใคร หรือที่มนุษย์เราเรียกพวกเขาว่า "อวตาร" , "พระคริสต์" , "พุทธะ" หรือ ฯลฯ
และความหมายที่แท้จริงของการ "ระลึก" (ชาติ) นี้ที่อยู่ๆก็จำขึ้นมาได้เองหรือผ่านการฝึกฝนนั้นก็คือการจำได้ว่า สรรพชีวิตทั้งหมด (ภพชาติทั้งหมดของวิญญาณทุกดวง) ที่กำลังปรากฏอยู่ห้วงขณะอันเป็นนิรันดร์นี้นั้น มีเพียงเราเท่านั้น
แอดมิน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา