ตอน๒ ของ 'โต๊ะอาหารที่จิแวร์นี่'
นิยายแปลงานดี สำหรับผู้หลงใหล & สนใจในงานศิลป์ยุค 'อิมเพรสชั่นนิสม์'
🍁🎼🎯
ชวนมาต่อกันที่ เรื่องสั้นอันดับที่ ๓ ของเล่มกันเลยค่ะเพื่อนๆ
'พ่อต็องกีย์'
ที่เล่าเรื่องผ่านข้อความในจดหมายของลูกสาวร้านขายหลอดสี กลางกรุงปารีส
ที่ส่งไปถึงศิลปินหน้าใหม่ & ไส้แห้ง ( ในช่วงเวลานั้น ) นามว่า 'ปอล เซซาน'
แต่แท้จริงแล้ว เนื้อความในจดหมาย ที่เธอเล่าไปซะมากมายหลายอย่างน่ะ
ก็เพียงต้องการที่จะทวงหนี้ ค่าสีวาดภาพจาก 'เซซาน' ก็แค่นั้นเองอ่ะค่ะ
แต่ผู้เขียนได้ใส่สีสันในข้อความของจดหมายได้อย่างน่าสนใจ
จนเราเห็นถึงภาพความมีชีวิตชีวา ภายในร้าน 'พ่อต็องกีย์' ที่อยู่ในช่วงเวลา ที่ศิลปินทั่วทั้งยุโรป ล้วนมุ่งมาหาแรงบันดาลใจ ทั้งในกรุงปารีส & เมืองต่างๆ ในประเทศฝรั่งเศส
'Pere Tanguy'
และรูปฝีมือท่าน 'แวนโก๊ห์' ด้านบนนั่นล่ะค่ะ คือ 'จูเลียน ต็องกีย์'
พ่อค้าหลอดสีแสนใจดี ที่มีตัวตนอยู่จริงในยุคสมัยนั้น
เมื่อผสานกับจินตนาการจากผู้เขียนตามเนื้อความในจดหมายหลายฉบับที่เขียนไป
จึงทำให้ได้เห็นบรรยากาศของเหล่าศิลปินหน้าใหม่ไฟแรง ที่แวะเวียนมาพบปะ เพื่อพูดคุยกับ 'พ่อต็องกีย์' เจ้าของร้านขายหลอดสี
ที่นอกจากมีใจรักในผลงานอิมเพรสชั่นนิสม์แล้ว
'จูเลียน ต็องกีย์' ยังใจดีมีเมตตา & ทั้งยังสนับสนุนทุกๆ ทาง ต่อบรรดาศิลปินเหล่านี้
แม้ว่าหลายต่อหลายคน จะไม่มีเงินจ่ายค่าสีให้เลยก็ตาม จนทุกๆ คนพร้อมใจเรียกเขาว่า 'พ่อ' ( pere )
และแน่นอนค่ะ
๑ ในศิลปินเหล่านั้น ย่อมมี 'แวนโก๊ห์' รวมอยู่ด้วย
จนเป็นที่มาของรูปวาดผ่านฝีแปรงเปี่ยมพลังตามแบบฉบับ ดังในภาพนี้เลยค่ะ
หมายเหตุ ; 'Pere Tanguy'
มีเป็นชุดค่ะ รวมทั้งหมด ๓ ภาพ
โดยใช้แบ็คกราวน์แตกต่างกัน
รูปนี้ที่ดิชั้นเลือกมาให้ชม เป็นผลงานที่ 'แวนโก๊ห์' ได้แรงบันดาลใจจากภาพพิมพ์แบบญี่ปุ่น 🎎🎐🎯
ส่วน 'เซซาน' ศิลปินในยุคสมัยทางศิลปะ ที่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ 'คิวบิคสม์' นั้น
เนื้อเรื่องมีการเอ่ยถึง ภาพวาดชุด 'The basket of Apples' ที่ 'จูเลียน ต็องกีย์' ประทับใจเอามากๆ จนเก็บเอาไว้ไม่ยอมขายต่อนั้น
จัดเป็น signature ของ 'เซซาน'
จึงนำ ๑ ในหลายๆ ภาพวาดของชุดนี้มาให้เพื่อนๆ ชมค่ะ 🤗💕🎶
'The Basket of Apples'
'โต๊ะอาหารที่จิแวร์นี่'
เรื่องปิดท้าย ที่บรรยายภาพบรรยากาศ ภายในอาณาจักรบั้นปลายชีวิตของ 'โคลด โมเนท์' ในเมืองเล็กๆ แสนงดงาม 'จิแวร์นี่' อย่างน่าประทับใจ
จนผู้อ่านอย่างดิชั้นนี่ แทบจะหอบผ้าหอบกระเป๋า เดินทางข้ามทวีปไปชมให้เห็นกะตาสักกะที ยังไงยังงั้นทีเดียวเชียวค่ะ อิอิ 🥳☘⏰
จะว่าไป ขอดิชั้นเม้าท์ท่าน 'โมเนท์' สักหน่อยเถอะค่ะ
คือ ถ้าจะเปรียบช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตแล้ว ความมั่งคั่งสะดวกสบายของศิลปินใหญ่เนี่ยะ
ของท่านผู้นี้ กินขาดท่าน 'แวนโก๊ห์' ราวฟ้ากะ... ( แหะๆ )
เพราะท่าน 'โมเนท์' สามารถดีลงานกับนายหน้าขายงานศิลป์ฝีมือดี
จนสามารถตั้งตัวเป็นเศรษฐีได้ตั้งแต่ช่วงวัยกลางคน
เย้ๆๆ นานๆ ทีจะมีศิลปินดังที่ร่ำรวยแบบนี้สักที ดิชั้นล่ะปลื้มใจจุง 🤩💝🎨
ผลงานยุคแรกๆ ของท่าน 'โมเนท์'
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าค่ะ แหะๆ
ตอน 'โต๊ะอาหารฯ' นี้ จะเล่าถึงช่วงบั้นปลายชีวิตที่ท่านป่วยด้วยโรคต้อกระจก จนส่งผลต่องานวาดภาพของท่าน
โดยผ่านมุมมองของ 'บล็องช์' ลูกเลี้ยงที่เป็นคนดูแลท่าน และยังเป็นลูกสะใภ้ของท่านด้วย ( อย่าเพิ่งงงค่ะ เดี๋ยวจะอธิบายต่อภายหลังให้นะคะ แฮร่รร์ )
ซึ่งเราจะได้เห็นภาพสตูดิโอบรรยากาศสดใสภายในบ้าน และสวนสวยขนาดใหญ่ รอบๆ บ้านของท่าน
จนทำเอาดิชั้นอยากแปลงร่างเป็นศิลปินมั่งจังค่ะ
จะได้ทำงานในสถานที่งดงาม& บรรยากาศแสนดีแบบนี้บ้าง ( ง่ะ )
😊🌸🌿
artist 'Claude Monet'
หมายเหตุ & เกร็ดชีวิต 'โมเนท์';
เมื่อ 'กามีย์' ภรรยาคนแรกป่วยและเสียชีวิต ต่อมาครอบครัวเพื่อนสนิท 'เออร์เนสท์' ก็ไปมาหาสู่อย่างสนิทสนม
และเมื่อ 'เออร์เนสท์' เสียชีวิต ท่าน'โมเนท์' ก็เลยแต่งงานกับ 'อลิซ' ภรรยาของเพื่อนสนิท
แล้วรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะแต่ละฝ่ายก็มีลูกติดกันมาฝ่ายละไม่น้อยคน
โดยใช้ชีวิตร่วมกันภายในคฤหาสน์ใหญ่ ในชนบทของเมือง 'จิแวร์นี่' 🍁🧭
'Water Lillies' collection by 'Monet'
เป็นไงคะ เพื่อนๆ
จุใจกันรึป่าวเอ่ยย..?
ก็ตอนแรกนั้น ดิชั้นเห็นมีเพื่อนๆ หลายคนบ่นว่าสั้นไป
ตอน๒นี้ เลยเม้าท์ซะยืดยาว จนได้หลายพารากราฟเลย ๕๕๕ สะใจจุง
😅🤣🤭
และก็ ยังมีของฝากเล็กๆ ค่ะ
คือ ลิ้งค์ของเพจด้านล่างนี้
ที่ดิชั้นถูกใจในความรีวิวหนังสือ ทั้งน้องยังจะรีวิวได้กระชับ & ใจความดีงาม
( ผิดกับดิชั้น ) อิอิ
แถมรูปปกหนังสือที่ประกอบโพสต์ น้องจัดวางได้น่ารักมากๆ ( ยิ่งกว่าดิชั้น หลายๆ เท่า ) 🥰📚💝
เลยขอฝากร้านให้น้องเค้าหน่อยอ่ะค่ะ
แล้วค่อยขุดมุกมาเม้าท์มอยกันใหม่นะคะ
c U next time kaaa.. 🎼🤩💕
- 23
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
