Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The MemoLife
•
ติดตาม
17 พ.ค. 2021 เวลา 09:33 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์การถือศีลอดในศาสนาอิสลาม
.
เดือนรอมฎอน เดือนถือศีลอดสำหรับชาวมุสลิม เชื่อว่าหลายคนทราบถึงการถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ทว่าบางคนอาจยังไม่รู้ประวัติศาสตร์การถือศีลอดนี้เป็นอย่างไร The MemoLife จึงขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกันเพิ่มขึ้นค่ะ
.
หากเริ่มที่สมัยท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ชาวมุสลิมไม่ใช่กลุ่มแรกที่ถือศีลอด แท้จริงการถือศีลอดและอดอาหารมีความเกี่ยวข้องกับหลายศาสนา หลายชนชาติมาแต่โบราณ เช่น ชาวอียิปต์โบราณ ชาวกรีก ชาวโรมัน หรือจะเป็นศาสนาพุทธ พราหมณ์ ฮินดู และซิกข์ ทั้งอัลกุรอ่านเองยังบอกไว้ว่าชนกลุ่มอื่นถือศีลอดมาก่อนหน้ามุสลิมแล้ว โดยอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงเป็นผู้กำหนดให้ชนเหล่านั้นถือศีลอด
.
นับย้อนไปยุคนบีคนแรกคือนบีอาดัม (อ.ล.) ยังไม่มีบันทึกเรื่องราวการอดอาหาร จน 5000 ปีที่ผ่านมาในสมัยนบีนุฮฺ (อ.ล.) จึงมีการกล่าวถึง คือวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม ซึ่งเชื่อกันว่านบีนุฮฺ (อ.ล.) นำเรือที่หลบภัยจากน้ำท่วมใหญ่ขึ้นไปจอดบนยอดเขาญูดียฺตามที่ระบุไว้ในอัลกุรอ่าน โดยวันนั้นมีบันทึกของชาวยิวว่ามีการถืออดอาหาร
.
กระทั่ง 4000 ปีที่ผ่านมาในสมัยนบีอิบรอฮีม (อ.ล.) โดยหะดีษบันทึกคำพูดของนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ว่าการถือศีลอดของนบีอิบรอฮีม (อ.ล.) เป็นรูปแบบที่ชาวมุสลิมยึดถือกันในภายหลัง
.
และ 3500 ปีที่ผ่านมาสมัยนบีมูซา (อ.ล.) มีบันทึกการอดอาหาร 40 วันสองช่วง คือก่อนขึ้นเขาซีนาย และก่อนการข้ามทะเลแดง ซึ่งชาวยิวในยุคนั้นถือศีลอดเพื่อรำลึกถึงการเตรียมตัวในเหตุการณ์นี้
.
จนสมัยนบีอีซา (อ.ล.) หรือพระเยซู ทั้งนี้พระเยซูบนไม้กางเขนไม่ใช่นบีอีซา (อ.ล.) ชาวคริสต์จะทำการถืออดอาหารกัน 40 วัน ก่อนวันอีสเตอร์หรือปัสกา เนื่องจากมีบันทึกว่าพระเยซูเคยอดอาหารกลางทะเลทราย 40 วัน
.
สืบมาสมัยนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) อีกครั้ง ขณะที่ท่านอพยพไปเมืองมะดีนะฮ์ ชาวยิวที่นั่นต่างถือศีลอดในวันอาซูรอฮ์ หรือวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม ท่านได้สอบถามชาวยิว จากนั้นจึงแนะนำให้ชาวมุสลิมถือศีลอดด้วย ซึ่งท่านแนะนำให้มุสลิมถือศีลอดสองวันคือวันที่ 9 และ 10 หรือวันที่ 10 และ 11 ของเดือนมุฮัรรอม
.
บันทึกที่กล่าวทั้งหมดนี้ ล้วนมาจากอิสลามบ้าง คริสต์บ้าง ยิวบ้าง ซึ่งถือเป็นศาสนาที่ต่อเนื่องกัน
.
ปัจจุบันเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มุสลิมถือศีลอดกันเต็มเดือนหรือ 30 วัน เพราะเป็นเดือนประเสริฐที่อัลกุรอ่านถูกประทานลงมา มีหลักฐานจากอัลกุรอ่านและซุนนะห์ (คำพูดหรือการกระทำ) ของนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ว่าอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า
"เดือนรอมฎอนเป็นเดือนซึ่งพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานถูกประทานลงมา เพื่อเป็นทางนำสำหรับมนุษยชาติ และเป็นการแสดงข้อเท็จจริงเรื่องทางสว่างและการแยกแยะ (ระหว่างความจริงกับความเท็จ) ดังนั้น ใครที่อยู่ในเดือนนี้ ก็ให้เขาถือศีลอด"
[บันทึกโดยบุคอรีย์และมุลิม]
.
อีกทั้งเป็นเดือนแห่งการประกอบคุณงามความดีและสะสมผลบุญ ดังที่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) กล่าวว่า ทุก ๆ กิจกรรมที่ทำในเดือนนี้จะได้รับผลตอบแทนเป็นทวีคูณ หนึ่งความดีจะได้สิบเท่าถึงเจ็ดร้อยเท่า
.
เป้าหมายการถือศีลอดไม่ใช่แต่เพียงการอดอาหารหรืองดกิเลส แต่ยังสะท้อนถึงการศรัทธาที่แท้จริง และมีผลทางจริยธรรม คือการอดกลั้นไว้ซึ่งการกระทำความชั่ว ละจากสิ่งที่ศาสนาบัญญัติห้ามไว้ เช่น การพูดโกหกหลอกลวง การใส่ร้ายป้ายสี อีกทั้งทำให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้ยากไร้
.
ในด้านร่างกาย การถือศีลอดนับว่าสร้างประโยชน์ให้เช่นกัน หากใครอยากรู้เพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ
โดย แอดมินแพรวา
References :
https://1th.me/snV8T
https://1th.me/rvpdC
https://1th.me/xjR8x
https://1th.me/FmXcw
ตัดต่อรูปโดย แอดมินวา
#ถือศีลอด #รอมฎอน #อิสลาม #History #TheMemoLife
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย