18 พ.ค. 2021 เวลา 09:12 • ประวัติศาสตร์
“เพชรโฮป (Hope Diamond)” เพชรล้ำค่าที่ต้องคำสาป
เพชรที่เห็นนี้คือ “เพชรโฮป (Hope Diamond”
เพชรโฮปคือเพชรขนาด 45.52 กะรัต และมีชื่อเสียงจากความล้ำค่า สวยงาม เป็นที่ถูกใจของผู้ที่พบเห็น
1
แต่สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้เพชรนี้อีกอย่างก็คือเรื่องของ “คำสาป”
ที่ผ่านมา ผู้ที่ครอบครองเพชรนี้ล้วนแต่มีจุดจบที่ไม่ดีนัก มีเพียงบางคนที่รอดจากคำสาปนี้ไปได้ แต่ก็ไม่มากนัก
ตามตำนาน ได้มีพ่อค้าชาวฝรั่งเศสชื่อ “ฌ็อง-บาติสต์ เทเวอร์เนียร์ (Jean-Baptiste Tavernier)” ได้เดินทางเข้ามาในอินเดียในปีค.ศ.1653 (พ.ศ.2196) และเกิดเห็นเพชรเม็ดงามคู่หนึ่งบนดวงตาของเทวรูป
เทเวอร์เนียร์เกิดถูกใจเพชรคู่นี้ และคิดว่าต้องเอามาให้ได้
เทเวอร์เนียร์ได้งัดเพชรเม็ดหนึ่งออกมาจากดวงตาของเทวรูป ก่อนจะเดินทางกลับฝรั่งเศส สร้างความโกรธแค้นให้นักบวชในอินเดียเป็นอย่างมาก และนักบวชก็ได้ทำการสาปแช่งให้ผู้ที่ครอบครองเพชรเม็ดนี้ มีจุดจบที่ไม่ดี
ฌ็อง-บาติสต์ เทเวอร์เนียร์ (Jean-Baptiste Tavernier)
เทเวอร์เนียร์ได้ขายเพชรนี้ให้แก่ “พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIV)” ก่อนจะย้ายไปรัสเซีย
ภายหลังจากย้ายไปรัสเซีย ว่ากันว่าเขาถูกฝูงสุนัขรุมกัดจนเสียชีวิต
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIV)
เมื่อเพชรนี้มาอยู่ในการครอบครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพชรนี้ก็เริ่มสร้างความอาถรรพ์ โดยเริ่มจากผู้ดูแลเครื่องเพชรของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ชื่อ “นิโคลัส ฟูเก (Nicholas Fouquet)”
ภายหลังจากเพชรนี้มาอยู่ในการครอบครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ไม่นาน พระองค์ก็ทรงขุ่นเคืองในตัวของฟูเก และรับสั่งให้จับฟูเก ก่อนจะนำตัวไปประหาร
1
นิโคลัส ฟูเก (Nicholas Fouquet)
ถึงแม้ว่าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะไม่ได้รับผลกระทบจากคำสาป แต่ดูเหมือนว่าทายาทของพระองค์จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
“พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส (Louis XVI)” และ “พระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette)” ได้ถูกประหารด้วยกิโยตินในคราวปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อนที่เพชรเม็ดนี้และมงกุฎเพชรจะถูกขโมย
1
การประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ไม่เพียงแค่สองพระองค์ที่มีจุดจบไม่สวย หากแต่หนึ่งในข้าราชสำนักและคนสนิทของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ก็ถูกผู้ชุมนุมฆ่าและตัดหัวเช่นกัน
1
ในทีแรกที่เทเวอร์เนียร์ขโมยเพชรมานั้น เพชรมีขนาดใหญ่มากกว่า 115 กะรัต แต่ได้ถูกนำมาตัด
ช่างเพชรที่ตัด คือช่างเพชรชาวดัทช์ที่ชื่อ “วิลเฮล์ม ฟาลส์ (Wilhelm Fals)”
ฟาลส์นั้นถูกลูกชายของตนฆ่า ก่อนที่ผู้เป็นลูกจะฆ่าตัวตาย
1
20 ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส เพชรนี้ก็ได้ตกไปอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย “เฮนรี ฟิลลิป โฮป (Henry Phillip Hope)” ได้ซื้อเพชรนี้ไปในปีค.ศ.1839 (พ.ศ.2382) และเพชรนี้ก็ได้ชื่อว่า “เพชรโฮป (Hope Diamond)” มาตั้งแต่ตอนนั้น
เฮนรี ฟิลลิป โฮป (Henry Phillip Hope)
ดูเหมือนว่าโฮปจะรอดจากคำสาป หากแต่ “ลอร์ด ฟรานซิส โฮป (Lord Francis Hope)” ทายาทของเขานั้นไม่รอด
1
ท่านลอร์ดได้รับมรดกเป็นเพชรนี้ในวันเกิดอายุ 21 ปีของตน จากนั้นเขาก็ได้แต่งงานกับนักแสดงชาวอเมริกัน และใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟู่ฟ่า
ต่อมา ท่านลอร์ดประสบปัญหาการเงิน ถูกตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย ภรรยาก็ทิ้งเขาไปหาศัตรูของเขา และบั้นปลายของท่านลอร์ดก็ต้องเสียชีวิตอย่างเดียวดายและหมดตัว
1
ลอร์ด ฟรานซิส โฮป (Lord Francis Hope)
จากนั้น เพชรนี้ก็ถูกเปลี่ยนมือไปอีกหลายทอด และผู้ที่ครอบครองมันก็ล้วนแต่มีจุดจบที่ชวนสังเวช ไม่ว่าจะกลายเป็นบ้าจนต้องฆ่าตัวตาย ถูกฆ่า ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
รายที่หนักที่สุดคือ “สุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 (Abdul Hamid II)” เนื่องจากหลังจากที่พระองค์ทรงซื้อเพชรนี้ไปในราคา 400,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 12 ล้านบาท) ได้ไม่นาน พระองค์ก็ต้องทรงสูญเสียอาณาจักรอ็อตโตมันไปในการปฏิวัติ
หนึ่งในมเหสีคนโปรดของพระองค์ซึ่งได้ใส่เพชรนี้ ก็ถูกพบเป็นศพ ถูกแทงจนเสียชีวิต
สุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 (Abdul Hamid II)
จากนั้นเพชรโฮปก็ตกไปถึงมือของ “ปีแยร์ คาร์เทียร์ (Pierre Cartier)” พ่อค้าเพชรชาวอเมริกัน
คาร์เทียร์ไม่ได้รับผลจากคำสาปของเพชรนี้ แต่เขาน่าจะเป็นคนแรกที่พูดเรื่องคำสาปของเพชรนี้
1
คาร์เทียร์ขายเพชรนี้ให้แก่หญิงไฮโซชาวอเมริกันที่ชื่อ “เอเวลีน วอลช์ แม็คลีน (Evalyn Walsh McLean)” ในปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455)
หลังจากซื้อเพชรนี้มา ชีวิตของแม็คลีนก็ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เริ่มจากลูกชายของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวก็ฆ่าตัวตายตามในเวลาไม่นาน จากนั้นสามีของเธอก็ทิ้งเธอไปหาผู้หญิงอื่น
1
เอเวลีน วอลช์ แม็คลีน (Evalyn Walsh McLean)
แม็คลีนสติแตกและต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ทรัพย์สินก็ถูกนำออกขายจนหมด
เพชรนี้ถูกส่งต่อมาถึง “แฮร์รี วินสตัน (Harry Winston)” พ่อค้าเพชรชื่อดัง ซึ่งเขาก็ไม่โดนคำสาป และได้ขายเพชรนี้ให้แก่พิพิธภัณฑ์ในวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา
แต่คำสาปนี้ดันไปเกิดแก่พนักงานไปรษณีย์ผู้นำเพชรมาส่ง
ภายหลังจากนำเพชรโฮปมาส่งไม่นาน พนักงานไปรษณีย์ก็ถูกรถบรรทุกชนจนบาดเจ็บสาหัส จากนั้น ภรรยาและสุนัขของเขาก็เสียชีวิตกระทันหัน ตามมาด้วยบ้านของเขาที่ถูกไฟไหม้
ในปัจจุบัน เพชรโฮปถูกเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานานกว่า 60 ปี และก็มีการกล่าวอ้างว่าเพชรนี้ปลอดคำสาปแล้ว
ในทุกวันนี้ ราคาประเมินของเพชรเม็ดนี้อยู่ระหว่าง 200 ล้าน-250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,000 ล้าน-7,500 ล้านบาท)
โฆษณา