18 พ.ค. 2021 เวลา 06:42 • หนังสือ
5 เทคนิคหักมุมจากซีรี่ส์ Vincenzo ทนายมาเฟีย ใช้แล้วเป็นต้องร้องว้าวแน่!
ในฐานะที่เป็นนักเขียน ตอนน้ำผึ้งดูซีรี่ส์ก็ได้โอกาสตกตะกอนกับตัวเองว่า อะไรกันนะที่ดึงดูดให้ผู้ชมอย่างเราอยากตามต่อเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะจุงกิหล่ออย่างเดียวแน่ๆ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น และในวันนี้น้ำผึ้งได้คำตอบแล้วค่ะกับ 5 เทคนิคเด็ดที่ตกคนดูอย่างเราให้ติดกับ! และน้ำผึ้งเชื่อว่าถ้านักเขียนอย่างเราลองหยิบไปใช้ อาจทำให้นักอ่านอยากอ่านนิยายของเราต่อไปเรื่อยๆ จนติดงอมแงมเหมือน Vincenzo เลยก็ได้
แน่นอน มีสปอยล์ด้านล่างนะจ๊ะ ถ้ายังไม่พร้อม ผ่านไปก่อนได้เลย!
Vincenzo ทนายมาเฟีย
ซีรี่ส์ Vincenzo ทนายมาเฟีย เป็นแนว Anti-Hero และ Dark Comedy ที่บอกเล่าเรื่องราวของวินเซนโซ่ กาซาโน่ ทนายความหนุ่มชาวอิตาลี ผู้เป็น “คอนซีลเยเร (Consigliere)” ทนายที่ปรึกษาหัวหน้าแก๊งมาเฟียอิตาลี เขาเดินทางกลับมาเกาหลี บ้านเกิดเมืองนอนของตน ไม่ใช่เพราะสำนึกรู้คุณอะไรหรอกนะ แต่เป็นเพราะจะมาเอาทองที่ซ่อนไว้ใต้ตึกคากึมพลาซ่า แล้วหนีไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่มอลตาต่างหาก!
แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด มันไม่ใช่แค่การระเบิดตึกแล้วจากไป เมื่อเขาต้องเข้ามาพัวพันกับบาเบลกรุ๊ป ธุรกิจมืดขนาดใหญ่ รวมถึงวงการกฏหมายที่แสนเน่าเฟะในเกาหลี แต่เพื่อทองของเขาแล้ว...วินเซนโซ่จึงต้องลงมือมาจัดการเรื่องนี้เองด้วยวิธีแบบมาเฟีย
หักมุม #1 : เปิดตัวพระเอกอย่างอลัง แต่ใส่ความฮาจนปอดโยก
จุดหักมุมแรกอยู่ที่คาแร็กเตอร์ของวินเซนโซ่ พระเอกของเรื่องเลยจ้า ฉากเปิดตัวมาอลังการงานสร้าง จัดการศัตรูได้อย่างชาญฉลาดด้วยการเผาไร่องุ่นลามไปถึงคฤหาสน์อย่างแนบเนียน ก่อนหนีออกนอกอิตาลีไปยังเกาหลี ทีเด็ดอยู่ที่เมื่อมาถึงเกาหลีแล้ว ดันโดยมิจฉาชีพหลอกแบบงงๆ เล่นเอาคนดูขำ
แถมพอดูซีรี่ส์ไปเรื่อยๆ คุณทนายของเราไม่ได้มีดีแค่บู๊บุ๋นเท่านั้น แต่ยังมีมุมน่ารักนุ้บนิ้บ มุ้งมิ้งกับนกพิราบ มีจังหวะโบ๊ะบ๊ะภายใต้ท่าทีนิ่งเฉยของเขา แถมยังสวมบทบาทได้ทุกอย่าง จะให้เป็นคนทรงหรือหนุ่มวายก็ทำได้แนบเนียน ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครมีเสน่ห์เหลือเกิน
ลอง: ใส่มุมที่นักอ่านคาดไม่ถึงลงไปในตัวละครเอกของเรา ทำให้นักอ่านรู้สึกว่า ว้าว...เขาก็มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอนี่? เช่น ถ้าปกติตัวละครเรามีนิสัยเย็นชา อาจจะลองนำเสนอมุมอ่อนโยนให้นักอ่านได้เห็น เพื่อสร้างความหลากหลายและเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวละครมากขึ้น
หักมุม #2 : สร้างตัวละครให้ดูใสซื่อ ก่อนแปลงร่างกลายเป็นวายร้ายโรคจิต
ในช่วงต้นเรื่อง เราจะได้รู้จัก “จางจุนอู” ทนายความรุ่นน้องสุดนุ่มนิ่ม บุคลิกต๊องๆ ร่าเริง ไร้เดียงสา และดูไร้สติในบางครั้ง เขาแอบชอบทนายรุ่นพี่ ฮงชายอง นางเอกของเรื่อง ดูแล้วก็เหมือนหนุ่มน้อยวัยใสที่พยายามพิชิตหัวใจรุ่นพี่ แต่โปรดจดจำชื่อจุนอูไว้ค่ะ เพราะมันจะเป็นชื่อที่เปลี่ยนความคิดเราไปตลอดกาล
หลังจากเนื้อเรื่องดำเนินไปสักพัก กลับกลายเป็นว่าทนายความไร้เดียงสา กลับไม่ไร้เดียงสาอย่างที่คิด เพราะแท้จริงแล้ว เขาคือจางฮันซอก ประธานบาเบลกรุ๊ปตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังอำนาจมืดทั้งหมดทั้งมวล แถมยังเป็นตัวละครที่โรคจิตจนคาดไม่ถึง ฆ่าคนไม่เลือกหน้าเลยแหละ เล่นเอาคนดูถึงกับกะพริบตาปริบๆ จากคนใสๆ กลายเป็นแบบนี้เฉย! คราวนี้เลยได้ดูการเฉือดเฉือนระหว่างนักธุรกิจมาเฟียกับมาเฟียอิตาลีสุดมันส์
สิ่งสำคัญสำหรับประเด็นนี้คือ ถ้าอยู่ๆ จะให้จุนอูเลวเลยก็ไม่ใช่ มันดูวายร้ายมากเกินไป ดังนั้นควรปูเรื่องให้สมเหตุสมผลด้วยว่า
เพราะอะไรเขาถึงได้โตมาเป็นวายร้ายแบบนี้?
เขาคิดอะไรอยู่?
เขาผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง?
เขามีความเจ็บปวดหรือล้มเหลวอย่างไร?
เขาต้องการยิ่งใหญ่เพื่ออะไร?
จำไว้ว่าวายร้ายทุกคนคือฮีโร่ของเรื่องราวของพวกเขาเอง นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการสร้างวายร้ายให้น่าสนใจ
ลอง: เรื่องราวส่วนใหญ่มักให้นักอ่านได้รู้จักตัวร้ายในครั้งแรกที่เปิดเรื่อง ไม่ได้มีชั้นเชิง หรือหักมุมทีหลังว่านี่เป็นวายร้ายนะ อย่างเช่นในแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรารู้ทันทีเลยว่าโวลเดอมอร์เป็นตัวร้าย แต่ถ้าเราลองปูให้นักอ่านรู้สึกว่า วายร้ายของเราดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่วายร้าย แล้วหักมุมทีหลังว่าเป็นวายร้าย มันจะทำให้เรื่องราวของเราน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้อย่าลืมใส่เป้าหมาย แรงจูงใจ ไปจนถึงบุคลิกภาพ ภูมิหลัง โลกทัศน์และอื่นๆ ที่สมเหตุสมผลกับการทำให้เขากลายเป็นวายร้าย และเรายังควรทำให้มันลึกซึ้งด้วย ถามตัวเองหน่อยซิ...ทำไมวายร้ายต้องการยึดครองโลก? ทำไมล่ะ? “เพียงเพราะพวกเขาชั่วร้าย” ไม่เพียงพอนะ เราต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ อย่าลืมด้วยว่า พวกเขาวางแผนที่จะยึดครองโลกอย่างไร?
หักมุม #3 : เปลี่ยนศัตรูให้มาอยู่ฝั่งเรา แค่นี้ก็ชนะใสๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่พี่รู้สึกว้าวในซีรี่ส์ Vincenzo คือวายร้ายกลับใจ นานๆ ทีจะเจออะไรแบบนี้ เริ่มตั้งแต่แก๊งของพัคซอกโด อันธพาลนักเลงหัวไม้ที่ได้รับคำสั่งจากบาเบลกรุ๊ปให้มาทำลายตึกคากึมพลาซ่า ทว่ากลับโดนวินเซนโซ่เล่นงานจนอ่วม ถึงกับไม่ถูกชะตากับคุณทนายวินเลยทีเดียว แต่หลังจากที่เขาโดนพวกบาเบลกรุ๊ปลงโทษที่ทำลายตึกไม่สำเร็จ พวกพัคซอกโดก็กลับใจกลายมาเป็นผู้เช่าในตึกคากึมพลาซ่า และกลายเป็นสมาชิกกาซาโน่แฟมิลี่ สาขาคากึมในภายหลัง
นอกจากนี้จางฮันซอ วายร้ายรุ่นน้องสุดน่ารักผู้เป็นน้องชายของจางฮันซอก ก็ยังผันตัวมาเป็นพันธมิตรใหม่แบบที่ไม่มีใครคาดคิด ตอนแรกวินเซนโซ่ก็ปฏิเสธที่จะรับมาเป็นพรรคพวกเดียวกัน แต่เพราะจางฮันซอกพิสูจน์ตัวเองด้วยการช่วยเหลือผู้เช่าในพลาซ่า และยังบอกอีกว่าอยากบริหารบาเบลกรุ๊ปด้วยวิธีโปร่งใส ทำให้เขาเริ่มได้รับความไว้วางใจจากวินเซนโซ่ และในช่วงท้ายๆ จางฮันซอกได้กลายเป็นน้องชายที่ดีของคุณทนายด้วย
สาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ฝั่งวินเซนโซ่นั้นคงมีหลากหลาย อาจเป็นเพราะคุณทนายของเราเทพ ฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยม วางหมากเป็น ดูเป็นผู้นำที่เหนือชั้นกว่าฝั่งตัวเอง แถมยังเป็นมาเฟียเต็มตัว ความเป็นไปได้ที่จะชนะสูงกว่าแน่นอน สุดท้ายถ้าอยากชนะ ก็ต้องอยู่ข้างที่มีแนวโน้มจะชนะสิ!
หรือสำหรับบางคนเช่นจางฮันซอก อาจรู้สึกว่าพี่ชายของตัวเองทำเกินกว่าเหตุ เลยหนีไปอยู่ฝั่งคุณทนาย เพราะรู้ว่าวินเซนโซ่นี่แหละสามารถหยุดพี่เขาได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลไหน แค่ทำมันให้สมเหตุสมผล มีจุดเปลี่ยนที่รับได้ นักอ่านก็จะไม่รู้สึกอิหยังวะ
ลอง: แม้การเปลี่ยนศัตรูให้มาอยู่ฝั่งตัวเอกอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มันก็เป็นจุดที่น่าสนใจและน่าหยิบมาใช้ คิดดูสิว่ามันดีแค่ไหนที่อยู่ๆ ก็หักมุมให้นักอ่านหงายเงิบ จากเป็นตัวร้ายอยู่ดีๆ ข้ามไปอยู่ฝั่งพระเอกเฉย ซึ่งพี่ลองลิสต์สาเหตุการเปลี่ยนฝั่งของตัวละครมาให้ดู เผื่อใครอยากเอาไปใช้
- การไถ่ถอนความผิด ตัวละครเริ่มมีความเมตตาและความกรุณาในทุกคน
- ตระหนักรู้ข้อผิดพลาดของสิ่งที่ทำไป จึงทำให้เปลี่ยนฝ่ายอย่างง่ายดาย
- ก่อกบฏต่อตัวร้ายอื่นๆ (ซึ่งมักจะเป็นหัวหน้าที่แสนเผด็จการของพวกเขา) เขาอาจได้รับรู้บางอย่าง หรืออาจถูกทำร้าย และสุดท้ายมันคือสาเหตุที่ทำให้หลุดพ้นจากอิทธิพลมืด
- พลังแห่งความรัก เพราะความรักนำความเมตตามาสู่หัวใจที่เย็นชา
หักมุม #4 : ตัวประกอบไม่ธรรมดา​ มีอะไรให้ร้องหาอยู่เสมอ
ซีรี่ส์ปูบทมาให้ตัวประกอบหรือตัวละครรองเรื่องนี้ เหมือนจะเป็นผู้เช่าตึกธรรมดาๆ แต่พอดูไปเรื่อยๆ กลับไม่ใช่ เพราะแต่ละคนมีภูมิหลังไม่ธรรมดา แถมบางคนเนี่ย ฝีมือขั้นเทพ คอยช่วยเหลือคุณทนายได้ไม่แพ้ตัวละครหลัก รู้อดีตของตัวละครถึงกับพีคเลยทีเดียว เช่น ผอ.ซอมีรี ครูสอนเปียโนในตึกคากึมที่จริงๆ แล้วเป็นแฮกเกอร์มือฉมัง แถมเธอมีบทบาทสำคัญสำหรับภารกิจขนทองของวินเซนโซ่ในอนาคต หรือแม้แต่ทักฮงชิก เจ้าของร้านซักอบรีดที่แท้จริงแล้วมีฉายากรรไกรสายฟ้า จากแกงค์นกฮูกชุงจู รวมทั้งตัวละครอื่นๆ ที่พอได้รู้ภูมิหลังแล้วถึงกับอึ้งไปเลย
แน่นอนว่าในฐานะนักเขียน เราควรให้ความสำคัญกับตัวละครรองด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ตัวละครหลักก็ตาม เราควรสร้างตัวละครรองให้มีมิติเช่นเดียวกับตัวละครหลัก งานของเราในฐานะนักเขียนคือการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวละครของเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม โดยสังเกตว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัวอย่างไร ตัวละครก็เหมือนคนจริงๆ ในชีวิตจริงนั่นแหละ พวกเขามีงานอดิเรก สัตว์เลี้ยง ประวัติความเป็นมา นิสัยใจคอและความหลงใหล นอกจากนี้พวกเขายังมีเรื่องราวเบื้องหลังเช่นเดียวกับตัวเอก
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนิยายของเราที่เราจะต้องเข้าใจแง่มุมเหล่านี้ของตัวละคร เพื่อจะได้เข้าใจว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรภายใต้ความกดดันของเหตุการณ์ที่พวกเขาพบเจอ
ลอง: ทำให้ตัวละครของเราน่าสนใจ ตัวละครเหมือนคนนั่นแหละ พวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องถูกใจ แต่ต้องน่าสนใจ บางครั้งตัวประกอบก็เป็นตัวละครที่ผลักดันได้ง่ายที่สุด เราควรตั้งเป้าหมายที่จะสร้างตัวละครที่น่าสนใจ ซึ่งตรงกับเป้าหมายของตัวเอก หรือขัดกับเป้าหมายของตัวเอก
หักมุม #5 : สร้างตัวละครให้คนรัก แล้วฆ่าอย่างเลือดเย็น
พูดแล้วก็เจ็บปวดใจ ซีรี่ส์ Vincenzo ฆ่าตัวละครได้เปลืองมาก พอๆ กับ Game of Thrones ผู้กำกับทำให้เราตกหลุมรักตัวละครมากๆ และฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็นจนคนดูน้ำตาตก ตั้งแต่พ่อของทนายฮงชายอง ทั้งที่วินเซนโซ่เพิ่งเริ่มสนิทด้วยและคิดว่าอาจจะเป็นคู่หูที่ดี กลับกลายเป็นว่าพ่อของทนายฮงชายองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา หรือจะเป็นน้องฮันซอ เมื่อคนดูเริ่มตกหลุมรักในความน่ารักนุ้บนิ้บของน้อง และเอาใจช่วยน้องตลอด! อยู่ๆ ดันถูกพี่ชายตัวเองฆ่าตายซะอย่างนั้น บอกเลยว่าช็อตนี้อยากทุบคนเขียนบทมาก ทำไมฆ่าเก่งเบอร์นี้ เศร้า
มีหลายเหตุผลที่ผลักดันให้ผู้เขียนฆ่าตัวละคร บางครั้งก็มีผลกระทบทางอารมณ์ บางครั้งก็เป็นศูนย์กลางของเนื้อเรื่องและบางครั้งก็ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการตายของพวกเขา ไม่มีเวลาที่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไป มีแต่เวลาที่เหมาะสมในการฆ่าสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
หากมีจุดประสงค์เพื่อก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ ก็มักจะส่งผลดีกว่าที่จะให้ผู้อ่านทำความรู้จักกับตัวละครสักพักก่อน ในทางกลับกันหากมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้สึกถึงอันตราย ตัวละครอาจตายได้ในหน้าแรก เช่นนักวิจัยของบาเบลเคมิคอลล์ที่ถูกฆ่าทันทีในช่วงต้นเรื่อง
ลอง: ตัวละครควรถูกฆ่าทิ้งในช่วงเวลาที่จุดประสงค์ของการตายของพวกเขาจะส่งผลกระทบมากที่สุด เช่น เราทำความรู้จักน้องฮันซอมาจนถึง EP.19 และพบว่าเราชอบตัวละครนี้มากๆ จากนั้นน้องก็ตาย ซึ่งมันส่งผลให้ผู้ชมหลายคนหัวใจสลาย น้ำตาคลอ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 5 เทคนิคหักมุมจากซีรี่ส์วินเซนโซ่ที่น้ำผึ้งนำมาฝากในวันนี้ ลองหยิบไปปรับใช้ดูได้นะคะ ไม่แน่นะอาจทำให้นักอ่านทึ่งจนต้องบอกต่อ สำหรับซีรี่ส์ Vincenzo น้ำผึ้งมองว่าเป็นซีรี่ส์ที่เต็มไปด้วยการหักหลัง ไม่ใช่แค่หักหลังกันเอง แต่ยังหักหลังคนดูหลายชั้นจนต้องร้องขอชีวิต มีการสร้างปมทีละนิด วางหมาก บีบคั้นหัวใจคนดู แต่ก็ไม่ตึงเครียดขนาดนั้น เพราะยังมีจังหวะโบ๊ะบ๊ะ หรือเรื่องเบียวๆ ให้คนดูอมยิ้มได้ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด อยากให้ลองไปดู ไม่แน่นะ...บางคนอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ต่อยอดกับงานเขียนของเราได้ค่ะ
อ่านบทความเต็มที่ dek-d.com/writer/57681/
โฆษณา