จากเด็กติดนิยาย สู่นักเขียนติดท็อปตั้งแต่เรื่องแรก!
‘816’ ผู้แต่งนิยาย "ซุป'ตาร์บ้านนา"
ชอบอ่านนิยายกันไหมคะ?
ถ้าเราเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
มาลองเขียนนิยายของเรากันบ้างดีไหม?
บอกเลยว่าการเริ่มต้นเขียนนิยายไม่ยากเลยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นนักอ่านอยู่แล้ว ยิ่งเขียนนิยายได้ง่ายขึ้นมากๆ สังเกตจากนักเขียนเด็กดีหลายๆ คนได้เลยค่ะ ก่อนจะมาเป็นนักเขียนติดท็อปขายดีอย่างทุกวันนี้ พวกเขาก็อาศัยประสบการณ์จากการเป็นนักอ่าน มาช่วยในการเขียนนิยายเรื่องแรกกันไม่น้อย
แม้แต่นักเขียนที่เรานำมาแชร์ประสบการณ์ในวันนี้อย่าง วีนัส หรือ 816 นักเขียนนิยายเรื่อง ซุป'ตาร์บ้านนา ก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบอ่านมาตั้งแต่เด็ก อ่านได้ทุกเรื่องทุกแนว ทั้งการ์ตูน ทั้งนิยาย หนังสืออ่านเล่น เธออ่านมาเยอะมากๆ จนมาติดนิยายสมัยเรียนมหาวิทยาลัย อ่านมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็อ่านมานานกว่าสิบปีได้แล้วค่ะ
วีนัส เล่าว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอมาเขียนนิยายของตัวเองดูบ้าง ก็มาจากการชอบอ่านนิยายนี่แหละค่ะ อ่านแล้วขัดใจ อยากมีตัวละครของตัวเองบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติของนักอ่านเลยก็ว่าได้
พอได้ลองเขียนไปเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่า ตอนเริ่มเขียนนิยายไม่ได้ยาก แต่มายากเอาตอนกลางๆ เรื่องว่าจะไปต่อยังไงให้จบมากกว่า
นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าการเริ่มเขียนนิยายไม่ได้ยากจริงๆ ยิ่งคนที่ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านเยอะๆ จะซึมซับวิธีการเขียนมาหลายรูปแบบ มีคำแปลกๆ ในนิยายให้ได้เรียนรู้เยอะมากๆ เวลาเขียนนิยาย อยากใช้คำไหนก็คิดออกได้เลยทันที บางทีเขียนๆ อยู่แอบติดสำนวนนักเขียนที่ชอบไปโดยไม่รู้ตัวก็มีเหมือนกัน
โดยหลังจากเป็นนักอ่านมานาน เธอก็ได้จังหวะเขียนนิยายในช่วงโควิดที่ผ่านมานี่เองค่ะ เนื่องจากงานบรรณารักษ์ห้องสมุดซึ่งเป็นงานบริการที่เธอทำอยู่ มีเวลาว่างมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจเขียนนิยายเรื่อง ซุป'ตาร์บ้านนา ขึ้นมา ซึ่งตอนแรกเธออัปนิยายแค่เพียงสามตอนเท่านั้น แต่ในหน้าลงนิยาย เธอเกิดสงสัยว่า “การขายคืออะไร” จึงเข้าไปศึกษาและได้อ่านเงื่อนไขต่างๆ จนเข้าใจ จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอัปนิยายเพิ่มตามเงื่อนไข เพราะอยากลองขายตอนอ่านล่วงหน้าดู คิดแค่ว่าจะหารายได้เล็กๆ น้อยๆ เพียง 70 บาท ไปจ่ายค่าเช่าพื้นที่บนกูเกิ้ลไดร์ฟเท่านั้น
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า หลังจากที่เธอเขียนนิยายทุกวันหลังเลิกงานประจำ และตื่นมาอัปนิยายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะทำให้นิยายเรื่องแรกที่เธอเขียนติดท็อปนิยายขายดีนานกว่าสามเดือน และมีรายได้จากนิยายที่ยังเขียนไม่จบมากถึงห้าหลักต่อเดือน!
ในบทความนี้ ‘วีนัส’ ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ “คนติดนิยาย” ที่เขียนนิยายเรื่องแรกจนติดท็อปนิยายขายดี ให้นักอ่านที่อยากเขียนนิยายของตัวเองดูบ้าง ได้เห็นเรื่องราวในอีกมุมหนึ่งว่าคนที่ติดนิยาย หรืออ่านนิยายมาเยอะ สามารถเริ่มต้นเขียนนิยายได้ง่ายๆ แถมยังสามารถเขียนนิยายจนติดท็อปได้อีกด้วย ขอเพียงแค่อ่านบทความนี้จนจบ และลงมือเขียนนิยาย คุณก็เป็นนักเขียนได้เหมือนกัน
ชอบอ่านนิยาย จนได้งานประจำที่ใช่
และงานอดิเรกที่ชอบ
สวัสดีค่ะ ชื่อ ‘วีนัส’ นะคะ นามปากกา 816 ค่ะ นักเขียนนิยายเรื่อง ‘ซุป'ตาร์บ้านนา’ ค่ะ ตอนนี้เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด แล้วก็ช่วยพ่อทำสวนอยู่ค่ะ
ก่อนจะมาทำงานเป็นบรรณารักษ์ก็เปลี่ยนสายงานมาสองสามครั้งเหมือนกัน กว่าจะมาลงตัวที่ตรงนี้ถามว่างานบรรณารักษ์เป็นความฝันเลยไหม น่าจะเป็นเพราะชอบอ่านหนังสือมากกว่าค่ะ ตอนเด็กๆ เห็นย่าอ่านตลอดเวลา พอกลับไปอยู่ที่สวนกับย่า ท่านจะชอบนอนอ่านหนังสือ พ่อก็อ่านหนังสือ เราก็เลยอ่านไปกับเขาด้วยค่ะ
ครั้งแรกที่เขียนนิยายก็น่าจะมาจากการอ่านนิยายของคนอื่นนี่แหละค่ะ เหมือนเราขัดใจตัวละครคนอื่น เราก็อยากจะมีตัวละครเป็นของตนเองบ้าง แล้วพอเราแต่งไปได้สักพักหนึ่ง เราก็อยากจะรู้ว่าคนอื่น เขาจะคิดเหมือนที่เราคิดหรือเปล่า ก็เลยลองลงในเว็บไซต์ ปรากฏว่าเราไม่ได้วางแผนอะไร ด้นสด ไม่วางโครงเรื่อง ไม่วางพล็อต ไม่มีการวางแผน มันก็จะตันง่าย เขียนไม่จบ ลบทิ้งในเวลาต่อมา
แต่ว่าเราไม่ได้เลิกเขียนนะคะ คิดพล็อตอะไรได้เราก็สร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ แล้วก็นั่งวางพล็อต ตามที่เคยอ่านในบทความว่า วิธีการเขียนเป็นยังไง เราวางแบบนี้จะทำให้สามารถดำเนินเนื้อเรื่องไปได้ยังไง เราก็ลองศึกษาบ้าง จากนั้นก็เเขียนเอง อ่านเอง นักเลงมาก ไม่เปิดเผยให้ใครอ่านเลยค่ะ แต่งเอง อ่านเอง สนุกอยู่คนเดียว
เริ่มต้นเขียนนิยายไม่ยาก
ประสบการณ์นักอ่านช่วยได้
ตอนเริ่มต้นเขียนนิยาย ตอนนั้นคิดว่ามันไม่ยากนะคะ แล้วตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ยากอยู่ น่าจะเป็นเพราะว่าชอบอ่านหนังสือค่ะ แล้วก็อ่านมาตลอด อ่านมาตั้งแต่เด็กจนปัจจุบันก็ยังอ่านอยู่ ทุกวันนี้อ่านทุกวันค่ะ มันก็เลยเหมือนซึมซับไปในตัวว่า เราจะสามารถเขียนไปในแนวไหนได้บ้าง
บางทีเราจะติดสำนวนของนักเขียนที่เราชอบโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยนะคะ เวลาอ่านเยอะๆ เราก็จะได้ฝึกพวกคำไทยผิดๆ บางทีเขาจะมีคำแปลกๆ มาให้เราคิดว่า เขียนแบบนี้เหรอ คำนี้เขียนแบบนี้เหรอ เราก็จะได้เรียนรู้ไปในตัว
เราว่าเริ่มต้นไม่ยากนะ ยากตรงกลางๆ เรื่องนี่แหละค่ะ ว่าจะไปต่อยังไงให้จบ
อย่างนิยายเรื่อง ซุปตาร์บ้านนา ก็มาจากช่วงนี้เลยค่ะ ที่เขากำลังฮิตกัน นิยายย้อนเวลากลับมามีชีวิตใหม่ เรารู้สึกว่าเราชอบพล็อตเรื่องสไตล์นี้ อยากมีตัวเอกที่เป็นสไตล์นี้บ้าง ส่วนทำไมถึงเป็นบ้านนา น่าจะเป็นเพราะคุณพ่อค่ะ คุณพ่อชอบเปิดดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเกษตรกร แล้วก็ชอบมาฝากเราซื้อของ เราก็ไม่รู้จัก เลยต้องไปเปิดยูทูปดูด้วย พอเรานั่งดูมันก็น่าสนใจดีค่ะ เพราะในอนาคตเราก็ต้องทำสวนเหมือนกัน เราก็เลยนั่งฟัง ก็ทะลุไปฟังของชาวนาบ้าง ก็ได้ความรู้ใหม่ด้วย
พอเขียนไปสักพักมันจะมีคอมเมนต์ของนักอ่านมาว่า ตัวละครตัวนี้มันดูง่ายเกินไป บางตัวก็ดูออกง่ายไปว่าตัวนี้ตัวร้าย ตัวนี้ดี พระเอก นางเอก ซึ่งตรงนี้มันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องซ่อนสักหน่อย พอซ่อนสักหน่อยเท่านั้นแหละ วางปมก็ต้องมีพล็อต มีพล็อตก็ต้องมีแผน มีโครงเรื่อง มีนั่นนี่ตามมา
นิยายเรื่อง ซุป'ตาร์บ้านนา
แบ่งเวลาทำงานประจำ และเขียนนิยายไปพร้อมกันได้
ก่อนหน้านี้ ไม่ได้เผยแพร่นิยายบนอินเทอร์เน็ตเลยสัก 8-9 ปีได้แล้วค่ะ คืออยู่กับนิยายที่ตัวเองแต่งตลอดเวลา ที่กลับมาเขียนเพราะว่าเรามีเวลาให้มันมากขึ้นค่ะ อย่างนิยายเรื่อง ซุป’ตาร์บ้านนา ก็เขียนมาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วค่ะ ช่วงโควิด เราทำงานบริการก็มีเวลามากขึ้น เราก็จะใช้เวลานี้เขียนนิยาย
ตื่นมาอัปนิยายแล้วก็นอนต่อ เสร็จแล้วก็อาบน้ำไปทำงาน ช่วงเวลาทำงานถ้าคิดอะไรออกก็จะจดโน้ตเอาไว้ แล้วก็ถ้ามีโอทีก็เหมือนกำไรนิดๆ เราก็จะมีเวลาแต่งนิยายบ้างนิดหน่อย แล้วก็กลับบ้านมา กินข้าว อาบน้ำ ขึ้นห้องเลย แต่งนิยายต่อ รวดเดียวเลยยาวๆ จนกว่าจะนอน
(ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง) พอมาอัปนิยายแล้วก็ดีกว่าที่คิด เกินคาดสุดๆ ค่ะ ตอนเห็นนิยายติดท็อป ตกใจมากค่ะ คิดว่าใช่เหรอ นี่นิยายเราเหรอ ตอนที่ติดท็อปนิยายวายก็ว่าเยอะแล้วค่ะ เจอติดท็อปหมวดทั่วไป ก็ โอ้โหเลย
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเราอัปนิยายทุกวันค่ะ นักอ่านบางคนเขาบอกว่ามีดองไว้สามสี่วันก่อนจะตามซื้ออ่านทีเดียวเยอะๆ ก็มี ส่วนบางคนบอกว่าอัปนิยายทุกวันดีมากเลย เพราะเหมือนเขามีอะไรให้ตั้งตารอ ถ้ารอสามวันสี่วันมันนานเกินไป เขาจะลืมเนื้อเรื่องก็มี
ลองขายนิยายที่ยังเขียนไม่จบ
จนมีรายได้มากกว่างานประจำ
ไม่ได้ตั้งใจขายเลยค่ะ แค่คิดว่าจะมาอัปนิยายไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเหมือนจะลงไปแค่สามตอน แล้วก็เขียนไว้ว่าจะอัปทุกสามวัน แล้วตอนเข้าหน้าเว็บไป รู้สึกข้องใจกับปุ่มสีส้มๆ ข้างบนมากเลยค่ะ มีทั้งสร้างนิยายกับการขาย มันคืออะไร เราเรียนไอทีมาค่ะ เรียนสายคอมพิวเตอร์มา เราก็จะชอบกดนู่นกดนี่
มันก็จะมีแบบขายรายตอน ตอนอ่านล่วงหน้า ขายแบบแพ็กเกจ มันคืออะไร? เราเห็นมีบทความข้างๆ ที่จะแนะนำนักเขียนว่าระบบขายนี้สามารถสร้างรายได้ได้ เราก็เข้าไปอ่านดู มันน่าสนใจดี งั้นลองเลย เอาลงสิบตอนรวดตามเงื่อนไข แล้วก็ส่งยื่นเลยว่าขอติดเหรียญล่วงหน้า
ปุ่มการขาย สามารถส่งนิยายเข้าระบบขายตอนอ่านล่วงหน้าได้
เราคิดว่ามันเป็นทางเลือกหนึ่งนะ เราขายรายตอนแถมอ่านล่วงหน้าด้วย นักอ่านเลือกได้ ขายตอนละบาทห้าสิบมั้งคะ คนที่ไม่สะดวกจ่ายก็สามารถกดซื้อเหรียญเพื่ออ่านได้ เราก็ตอบแทนด้วยการอัปทุกวันเลย เพื่อให้เป็นทางเลือกหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็บอกนักอ่านว่า ‘เดี๋ยวจะขอเก็บค่าเช่าพื้นที่กูเกิลไดร์ฟสัก 70 บาทนะคะ’ ขอแค่นี้แหละต่อเดือน ไม่คิดว่าจะมีคนซื้อนะ แต่เปิดดูแทบทุกวัน มีบาทหนึ่ง มีสองบาท ตอนออกไปวิ่งกับรุ่นพี่ยังบอกเขาเลยว่าตอนนี้ได้เจ็ดสิบบาทแล้วนะ
แล้วถัดมาก็ค่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นหลักพัน เราก็ โห ได้หลักพันแล้วอ่ะ ยังไม่ครบเดือนเลย ช่วงมกราคมที่พีคสุดๆ แล้วคือ เจ็ดหมื่นบาท คุณพระจริงๆ ค่ะ คือตอนธันวาคมได้ประมาณหมื่นแปดเราก็ว่าเยอะแล้ว เพราะว่า… เยอะนะ รายได้จากงานเขียนคือใช้ได้เลย บวกกับเงินเดือนแล้วอยู่ได้สบายมาก
รายได้ที่ได้มาส่วนหนึ่งเราก็เก็บค่ะ เก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ไปซื้อสลากออมสิน เอาไปซื้อหุ้นนิดหน่อยให้พ่อแม่ แล้วก็เอาไปซื้อหนังสือนิยายที่ไม่เคยซื้อได้เลย เพราะว่าเงินเดือนไม่พอ ตอนนี้ก็เหมือนแต่งนิยายเพื่อไปพรีนิยายคนอื่นอีกทีหนึ่งค่ะ
ตอนแรกเราไม่ได้บอกใคร เพราะว่ากลัวเขาจะบอกว่าไร้สาระบ้าง เสียเวลาบ้าง ไปทำงาน หรือไปสอบดีกว่า เราก็เลยรอเขียนของเราไปเงียบๆ มีแค่แฟนที่รู้แค่นั้นก็พอ จนมันทำเงินก้อนแรกให้ได้ เราก็เลยเริ่มบอกคนใกล้ตัว เหมือนขายตรงค่ะ มาเขียนนิยายด้วยกันไหม
ตัวอย่างการขายนิยายแบบอ่านล่วงหน้า
เป้าหมายในอนาคต
อยากเป็นนักเขียนในดวงใจ
ทุกอย่างมีครั้งแรกค่ะ ถ้าเราไม่ลองครั้งแรก มัวแต่คิดว่าจะได้ฟีดแบ็กยังไง กังวลว่าจะเขียนไม่จบ หรือว่าเราอาจจะทำรายได้ไม่ได้ ครั้งต่อไปก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำก็ได้ แต่ถ้าเราลองตั้งแต่วันนี้ ครั้งแรกอาจจะไม่ดีแต่ครั้งถัดไป มันก็จะเป็นประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนมีครั้งที่เราประสบความสำเร็จค่ะ
ตอนที่ได้เห็นว่ามีคนกดสนับสนุนเป็นครั้งแรก รู้สึกมีไฟเลยค่ะ แต่งวันนั้นได้ประมาณสิบหน้ากระดาษได้ แต่พอช่วงหลังๆ ก็อืดนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็อัปทุกวันนะ โชคดีที่มีสต็อกเก็บไว้ทำให้เราอุ่นใจว่า เวลาที่เราตัน คิดไม่ออก เรายังมีนิยายอัปให้คนอ่านสามารถอ่านได้
ในมุมการทำเป็นอาชีพ เราคิดว่าเรายังควรมีงานประจำเป็นหลักแหล่งค่ะ ถึงรายได้จากงานเขียนมันจะทำให้เรามีรายได้มากกว่างานประจำ แต่ว่าเราก็ต้องมีทางถอยให้ตัวเอง เพราะว่าเรื่องถัดไปเราอาจจะไม่ได้ดังแบบนี้แล้วก็ได้
ส่วนเป้าหมายในอนาคตที่คิดและอยากจะทำให้ได้คือ อยากมีฐานคนอ่านที่นามปากกานี้คลิกอ่านได้ เข้ามาอ่านนิยายของเราเพราะว่าเขาเห็นนามปากกานี้เป็นนามปากกาของเรา เขาเลยเลือกที่จะมาอ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ อยากเป็นแบบนั้นให้ได้ค่ะ
กว่า “วีนัส” จะเขียนนิยายจนกลายเป็นนักเขียนติดท็อปขายดีได้ตั้งแต่เรื่องแรกอย่างทุกวันนี้ เบื้องหลังของเธอคือกองนิยายที่ผ่านการอ่านมาแล้วนับไม่ถ้วน!
ใครที่ชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ รู้สึกว่าตัวเองอ่านนิยายมาเยอะมากๆ เหมือนนักเขียนสาวคนนี้ มาลองสร้างโลกจินตนาการ สร้างตัวละครในแบบที่เราชอบกันดูไหม ยิ่งเราเป็นนักอ่านมาก่อน เรายิ่งต้องรู้อยู่แล้วว่านักอ่านต้องการนิยายแบบไหน เรื่องราวของเราอาจจะมีคนที่ชอบและจินตนาการเหมือนกันอยู่ก็ได้ มาลองใช้ประสบการณ์การเป็นนักอ่านของเราให้คุ้มค่ากันเถอะ
เพราะอย่างที่วีนัสบอกว่า “การเขียนนิยายไม่ยากอย่างที่คิด” ใครที่คิดว่าการเขียนเป็นเรื่องยาก หรืออยากเขียนนิยายแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี “ลงมือเขียนนิยายดูสิ” ให้โอกาสตัวเองได้ลองทำดูสักครั้ง ไม่แน่ว่านักเขียนคนต่อไปอาจเป็นคุณ!
เริ่มต้นเขียนนิยาย https://bit.ly/writer-howto
คลิปสัมภาษณ์ https://www.youtube.com/watch?v=pB6_2DIKad8
อ่านนิยาย ซุป'ตาร์บ้านนา https://writer.dek-d.com/kumavseries/writer/view.php?id=2165651
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
