ควรร่วมลุ้นรับวัคซีน จากภาษีที่จ่ายไป หรือ
สละสิทธิ์เพื่อใช้ของดีกว่ากับเอกชน? 🤔
เมื่อเอกชนได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีน USA (สักที) ทำให้คนที่ลังเลมีทางเลือก
ดูเหมือนคำว่า "บริการของเอกชนมักดีกว่ารัฐเสมอ" จะใช้ได้กับวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้ด้วยภาษีของเราเลยเนอะ
เดี๋ยวก่อน! เราไม่ควรกล่าวหารัฐบาลแบบนั้น ยังมีหน่วยงานที่ให้บริการดีระดับ 5 ดาว ใส่ใจดูแล ติดตามประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา อย่าง "กรมสรรพากร" อยู่นะ 👍 (ไม่เกี่ยวกับวัคซีนแค่อยากชมพี่เขาเฉยๆ 😅 )
เข้าเรื่องดีกว่า!
ผมดีใจที่สุดท้ายเอกชนได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนประสิทธิภาพสูงมาให้บริการได้แล้ว ซึ่งจะกลายเป็นทางเลือกให้ผู้ที่ยังลังเลกับวัคซีนที่รัฐบาลเลือกให้ 🤔 แต่! คนขี้เอ๊ะ! อย่างผมก็ยังถามตัวเองว่า...
💉 ถ้าเราเลือกฉีดกับเอกชน ก็แสดงว่าเราสละสิทธิ์การ(ลุ้น)รับวัคซีนที่รัฐบาลอุตส่าห์จัดหามาให้ด้วยภาษีเราสินะ?
ลองมาดูกันว่าวัคซีน "ตัวเลือก" ตอนนี้เหมือนจะมีอะไรบ้าง?
💉 ซิโนแวท
เป็นวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้ ซึ่งดูจากข้อมูลเรื่องราคาและประสิทธิภาพแล้วต่อมเอ๊ะสั่นอีกละ เอ๊ะ! ราคาขนาดนี้ซื้อตัวที่ประสิทธิภาพสูงกว่าได้เลยน้า? เอ๊ะ!ใครถือหุ้นบริษัทนี้บ้างน้า?
🏣 นำเข้าโดย : องค์การเภสัชกรรม เนื่องจากไม่มีบริษัทตัวแทนในไทย
✍️ การขึ้นทะเบียน อย. : 22 ก.พ. 2564
🧪 จำนวนโดส : ฉีด 2 โดส ห่างกัน 14 วัน
🧬 การทำงาน : เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย เป็นการผลิตขึ้นจากการนำเชื้อโควิด-19 มาทำให้ตายด้วยสารเคมีหรือความร้อนก่อนฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส เก็บรักษาง่ายในตู้เย็นทั่วไป
🤢 ผลข้างเคียง : ปวด บวม แดง หรือช้ำตรงจุดฉีดวัคซีน คลื่นไส้ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีรายงานพบอาการข้างเคียงคล้ายอัมพฤกษ์ (ความผิดปกติทางระบบประสาทชั่วคราว) แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน
👉 บางประเทศยกเลิกการฉีดวัคซีนซิโนแวทแล้ว แต่บ้านเรายังใช้อยู่เพราะว่าเราอยู่ในฐานะ "มีวัคซีน ดีกว่าไม่มีเลย" เออเห็นด้วย!
💉 แอสตร้าเซนเนกา
เป็นวัคซีนที่ตั้งใจผลิตโดยไม่หวังผลกำไรจึงทำให้ราคาขายต่ำกว่ารายอื่นๆ และเป็นวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้ รวมทั้งจะเป็นวัคซีนที่ไทยผลิตเองโดย"บริษัทไทย"
🏣 นำเข้าโดย : บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด
🏭 ผลิตในไทยโดย : บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จํากัด
✍️ การขึ้นทะเบียน อย. : 20 ม.ค. 2564
🧪 จำนวนโดส : ฉีด 2 โดส ห่างกัน 28 วัน
🧬 การทำงาน : เป็นวัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ พัฒนาโดยการนำไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลงแล้ว หรือไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก มาตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นพาหะ แล้วฝากสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เก็บรักษาง่ายในตู้เย็นทั่วไป
🤢 ผลข้างเคียง : ปวด บวม แดง หรือช้ำตรงจุดฉีดวัคซีน คลื่นไส้ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีรายงานพบผู้ฉีดวัคซีนนี้มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
💉 โมเดอร์นา
เป็นวัคซีนที่จัดอยู่ในกลุ่ม "วัคซีนทางเลือก" ที่จะเป็นการนำเข้าโดยภาคเอกชนเท่านั้น ซึ่งราคานั้นก็ถือว่าจับต้องได้เลยทีเดียว 2 โดสในราคา 4,000 บาท
🏣 นำเข้าโดย : บริษัท ซิลลิคฟาร์มา จำกัด
✍️ การขึ้นทะเบียน อย. : 13 พ.ค. 2564
🧪 จำนวนโดส : ฉีด 2 โดส ห่างกัน 28 วัน
🧬 การทำงาน : เป็นวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิต วัคซีนชนิดนี้จะใช้สารพันธุกรรมของโควิด-19 (SARS-CoV-2) เข้าไปกำกับการสร้างโปรตีนส่วนหนาม (spike protein) เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19
🤢 ผลข้างเคียง : บริเวณแขนที่ถูกฉีดวัคซีน : ปวด มีรอยแดง บวม ร่างกาย : มีอาการเหนื่อย ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนาวสั่น มีไข้ วิงเวียน คลื่นไส้ อย่างไรก็ตาม โดยปกติผลข้างเคียงดังกล่าวจะเกิดขึ้นใน 1-2 วัน หลังจากฉีดวัคซีน แต่ควรจะต้องดีขึ้นหลังจากนั้นในระยะเวลา 2-3 วัน
💉 จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
วัคซีนตัวนี้ฉีดเพียงเข็มเดียว แถมราคาก่อนเข้าไทยไม่ถึง 500 บาท และผ่าน อย. แล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดการชัดเจนว่าจะเข้าไทยเมื่อไร
🏣 นำเข้าโดย : บริษัท แจนเซ่น-ซีแลก จำกัด
✍️ การขึ้นทะเบียน อย. : 25 ม.ค. 2564
🧪 จำนวนโดส : ฉีด 1 เข็มเท่านั้น
🧬 การทำงาน : เป็นวัคซีน Adenovirus-based หรือ ไวรัสเป็นพาหะ โดยใช้ไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ แต่ไม่ทำให้ป่วย ไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก ตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นพาหะ โดยฝากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่เลียนแบบให้ใกล้เคียงกับการติดเชื้อโดยธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดในกลุ่มคนอายุ 18 ปีขึ้นไป และเป็นวัคซีนที่ฉีดเพียง 1 โดสเท่านั้น
🤢 ผลข้างเคียง : ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการแพ้ เป็นผื่นลมพิษชนิดไม่รุนแรง อาการลิ่มเลือดอุดตันและภาวะเกล็ดเลือดหลังการฉีด โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2564 เดนมาร์กประกาศยกเลิกใช้เนื่องจากจากภาวะลิ่มเลือด และก่อนหน้านี้ยุโรปและสหรัฐฯ เคยระงับการใช้ก่อนกลับมาให้ฉีดอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้
🦠 สรุป เราควรเข้าร่วมลุ้นรับวิคซีนรัฐหรือรอของเอกชนดี?
เอาจริงจากข้อมูลที่เจอ วัคซีนทุกตัวมีผลข้างเคียงหมดเลย ซึ่งสุดท้ายก็อาจจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน แต่วัคซีนทุกตัวก็สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เราได้ตามประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นๆ
👉 ผมว่า! ถ้าคุณมีความเสี่ยงเช่น ต้องออกไปทำงานนอกบ้านตลอด ต้องเจอคนตลอด ไปฉีดเถอะมันดีกว่าไม่ฉีดแน่นอน ดีกว่าทั้งสำหรับตัวคุณและประเทศด้วยเพราะสุดท้ายจะทำให้การแพร่เชื้อลดลง
👉 แต่! หากคุณยังสามารถรอได้และยังสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้เช่น ทำงานที่บ้านได้ยาวๆ ก็รอไปก่อนก็ได้นะครับและให้โอกาสคนที่ต้องการวัคซีนมากกว่าเราได้ฉีดก่อน โชคดีที่ราคาวัคซีนเอกชนมันไม่ได้สูงจนเอื้อมไม่ถึง การสละสิทธิวัคซีนที่ได้มาจากภาษีเราจึงตัดใจไม่ยากเท่าไร (สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างผม)
🦠 แต่! ฝากไว้ให้คิดเรื่อง "การจัดหาวัคซีนของรัฐบาล"
ถึงแม้ว่าการจัดหาวัคซีนครั้งนี้จะกระตุกต่อมเอ๊ะ! ของผมหนักมากก็ตาม ผมก็ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้เพราะไม่มีข้อมูลมากพอ แต่หากมีการ "คอรัปชั่นเรื่องการจัดหาวัคซีน" จริงๆ นี้น่าจะเป็นการกระทำที่อุบาทมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย!!
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องปากท้องของประชาชนที่นักการเมืองมักเอามาเป็นมุกหาเสียง แต่มันเป็นเรื่อง "การมีชีวิตอยู่ของประชาชน"
จบการรีวิว
Tom Story
ที่มา:
"สรุป! มันไม่ค่อยดีเท่าไรหรอก แต่ก็ดีกว่าไม่มี"
"วัคซีนที่ดีที่สุดคือ วัคซีนที่มาถึงตัวคุณเร็วที่สุด"
ฝากติดตาม Tom Story ด้วยนะครับ ❤️
- 28
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
