26 พ.ค. 2021 เวลา 03:56 • หนังสือ
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของ “ณ พรรณนา” เขียนนิยายออนไลน์จนกลายเป็นอาชีพหลัก!
สายนิยายแฟนตาซีจำนักเขียนที่ชื่อ “ณ พรรณนา” กันได้ไหมคะ
นิยายของนักเขียนหนุ่มคนนี้ มักจะเป็นเรื่องราวของชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีชีวิตเปลี่ยนไปเพราะโลกที่อาศัยอยู่เกิดความแฟนตาซีขึ้นมา ชายหนุ่มจึงต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรักษาสิ่งสำคัญในชีวิตเอาไว้ให้ได้... อ่านไปแล้วทุกคนอาจจะคิดเหมือนกันว่า ชายหนุ่มธรรมดาคนนี้ก็ดูเหมือนพระเอกแนวฮีโร่ทั่วไปใช่ไหมคะ แต่ประเด็นที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ความธรรมดาของเนื้อเรื่อง หรือพล็อตนิยายแต่อย่างใดค่ะ
“ชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะความแฟนตาซี”
ประโยคนี้ต่างหากที่เป็นใจความสำคัญของการพูดคุยกับ “ณ พรรณนา” ในวันนี้ เพราะเรื่องราวจากประโยคที่ว่ามานั้น เหมือนเป็นพล็อตชีวิตของนักเขียนหนุ่มจากแดนใต้ที่มีชีวิตเปลี่ยนไปตั้งแต่เขาเริ่มลงมือเขียนนิยายบนเว็บเด็กดีเลยค่ะ
“ณ พรรณนา” หรือ “จิน” คือ ชายหนุ่มวัย 23 ปี ผู้เขียนนิยายแนวแฟนตาซีบนเว็บเด็กดีมานานกว่า 3 ปี และมีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ อัจฉริยะทะลุโลก, Life never get easy. ( ชีวิตไม่เคยง่ายเลยจริงๆ ), I just a normal one ( ผมก็แค่คนธรรมดา ), A Game Of Life ( เกมชีวิต ) และเรื่องอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ
จินเป็นเด็กหนุ่มจังหวัดภูเก็ตที่เริ่มต้นมาจากการเป็นนักอ่านมาก่อนค่ะ เขาชอบอ่านนิยายแนวเกมออนไลน์มากๆ แถมยังเป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายเรื่อง ‘ยุทธภพออนไลน์’ ของปากกาแดงดำอีกด้วย จินเล่าว่าเขาถึงขั้นซื้อหนังสือนิยายเรื่องนี้มาเก็บสะสมไว้ทุกเล่ม เพราะชอบอ่านแนวนี้มากๆ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ เขาก็อยากให้เกมออนไลน์เข้ามาอยู่ในชีวิตจริงของมนุษย์ด้วยค่ะ
“จริงๆ ผมเริ่มอ่านแต่เกมออนไลน์ครับ ผมเริ่มอ่านจากยุทธภพออนไลน์ มีซื้อเก็บไว้ด้วยนะครับ ผมเริ่มจากตรงนั้นแล้วก็อ่านเกมออนไลน์มาเรื่อยๆ ผมว่าเกมออนไลน์เข้าข่ายความเป็นแฟนซีนะครับ แต่ผมอยากให้เกมออนไลน์มันหลุดเข้ามาอยู่ในชีวิตจริงด้วย จากเกมออนไลน์ก็กลายเป็นแฟนตาซีเรียบร้อย ถ้ามันอยู่ในชีวิตจริง เพราะผมชอบเขียนเกี่ยวกับพวกระบบ คนมีระบบ แบบ Easy Mode อ่ะครับ ผมชอบเขียนแบบนี้”
นิยายอัจฉริยะทะลุโลก
หลังจากที่จินได้แรงบันดาลใจจากการอ่านนิยาย เขาก็ลงมือเขียนทันทีเลยค่ะ นามปากกา “ณ พรรณนา” จึงเกิดขึ้นพร้อมๆ กับนิยายเรื่องแรกที่จินยอมรับว่าเป็นการเขียนที่มั่วมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับรู้สึกว่านิยายเรื่องแรกนั้นเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจมหาศาล เป็นการเขียนครั้งแรกที่อยากเขียนก็แค่ลงมือเขียน พอเขียนไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นเรื่องยาว มีคนอ่านติดตาม และเริ่มมีปัญหาสำหรับมือใหม่เกิดขึ้น นั่นก็คือ คอมเมนต์ในด้านลบ นั่นเองค่ะ
“มันไม่มีเรื่องราวแบบในนิยายหรอกครับ ผมก็แค่อยากเขียนก็เลยลองเขียน พอได้เขียนก็ยาวเลยครับ ผมก็เริ่มต้นจากตรงนั้นเลยครับ เริ่มจากเราไม่มีแบบที่เราชอบอ่าน คิดว่าเขียนอ่านเองดีกว่า ก็เลยเริ่มเขียน พอเริ่มเขียนแล้วก็ยาวเลยครับ”
“ผมจำได้ว่านิยายเรื่องแรกนั้นมั่วมาก แต่ก็เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ จบแบบตัดเลยครับ ผมรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้แล้วผมรู้สึกหมด passion กับเรื่องนี้ ก็เลยตัดจบไปเลย ตอนนั้นผมก็บอกนักอ่านตลอดนะว่าผมเป็นมือใหม่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องแปลกใจ ก็เลยได้เรื่องแรกที่ค่อนข้างโอเคครับ”
“แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่ผมไม่กล้าอ่านคอมเมนต์ ผมไม่อ่านเลย เพราะอะไร เพราะกลัว กลัวมาก น่ากลัวครับ น่ากลัวแบบน่ากลัว เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาไม่เปิดเผยหน้าตา แล้วเขาก็ด่าเราได้ เหมือนแทงมีดออกมาจากมุมมืดเลยครับ เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน น่ากลัวมาก ก็เลยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่หยุดเขียนไปทำใจ ไม่อ่านคอมเมนต์ เขียนอย่างเดียวเลยครับ แล้วพอมาช่วงหลังๆ มันก็ดีขึ้นครับ”
นิยาย Life never get easy. (ชีวิตไม่เคยง่ายเลยจริงๆ)
ช่วงที่จินเขียนนิยายเรื่องแรกนั้น เขายังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยอยู่ค่ะ ในช่วงที่ยังเรียนอยู่ และอยู่ในช่วงปิดเทอม ครอบครัวของจินอยากให้ทำงานหารายได้เสริม จินจึงตัดสินใจไปทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และในระหว่างนั้นเขาก็ได้ตัดสินใจเปิดขายนิยายออนไลน์บนเว็บเด็กดีเป็นครั้งแรก รายได้จากการเปิดขายครั้งแรก ประมาณ 3,000 บาท ทำให้จินตัดสินใจบอกแม่ว่าเขาสามารถหาเงินจากการเขียนนิยายออนไลน์ได้ เพื่อขอใช้เวลาเขียนนิยาย และไม่ไปทำงานพิเศษอีก
“ชีวิตมันมีทางไปเสมอครับ แต่ว่าจังหวะและโอกาสตอนนั้นมันลงล็อคกันพอดี มันก็เลยออกทางนี้ ซึ่งจังหวะกับโอกาสตอนนั้นนะก็คือ ผมเขียนนิยายมาได้เรื่องหนึ่งแล้วเปิดขายกับทางเด็กดีพอดี มันเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างที่ผมไปทำงานเซเว่นพอดี ตอนนั้นได้เงินมา 3,000 บาท ผมก็คิดว่าเงินสามพันเนี่ย อย่างน้อยก็ทำเป็นอาชีพเสริมได้แล้ว ตอนนั้นคือค่าขนมวันละร้อย เดือนหนึ่งถ้าเราหาได้สัก 3,000 บาท ก็เยอะนะ สิบเดือนก็ 30,000 บาท ค่าเทอม 2 เทอมชิลๆ”
“แล้วผมก็บอกแม่ว่ามีรายได้เสริม ก็บอกท่านว่าเราทำตรงนี้ได้ แม่ก็เลยให้มาทำตรงนี้แหละ จังหวะบอกว่าไม่อยากไปทำงานช่วงปิดเทอมเนี่ย ก็คือได้แค่ 3,000 บาท แต่ว่าจังหวะช่วงซิ่วคือได้โน้ตบุ๊ก 2 เครื่องไงครับ ก็เลยซิ่วออกมาได้”
โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง ในความหมายของจิน เด็กหนุ่มหมายถึงจำนวนรายได้จากการขายนิยายออนไลน์ค่ะ จินเปรียบเทียบให้ฟังว่ารายได้ในช่วงแรกที่เปิดขายนั้นอยู่ที่ประมาณสามพันบาทต่อเดือน จนกระทั่งเขาเขียนนิยายออนไลน์หลายเรื่องเข้า รายได้จากหลักพันก็ขยับขึ้นสู่หลักหมื่น และจังหวะชีวิตในตอนนั้น ทำให้จินตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตตัวเองอีกครั้ง นั่นก็คือการซิ่วเรียน ออกมาค้นหาตัวเอง และวางแผนในขั้นสุดท้ายถึงขั้นละทางโลกเพื่อออกบวชเลยทีเดียว
แต่ในระหว่างนั้น ช่วงที่จินยังอยู่กับครอบครัว เขาก็อยากจะแบ่งเบาภาระแม่ที่ต้องดูแลเขาและน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ จากเดิมที่จินเขียนนิยายเพื่อความสนุก หารายได้เสริมไปเรื่อยๆ ในช่วงที่ว่างจากการทำงาน เขาจึงยึดการเขียนนิยายออนไลน์เป็นอาชีพหลัก และพยายามเขียนนิยายให้ได้ทุกวันเหมือนที่ทำเป็นประจำตลอดสามปีที่ผ่านมา เพราะรายได้หลักของจินในปัจจุบันนี้มาจากนิยายออนไลน์ที่เขาเปิดขายบนเว็บเด็กดีนั่นเองค่ะ
“ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บเลยครับผมใช้เดือนชนเดือนเลยครับผม ก็ช่วยกัน อยู่บ้านก็ช่วยกันอยู่แล้วครับ ช่วงนี้กับแม่ ช่วยๆ กันนะครับ ตอนแรกจะเป็นคนหนึ่งเลี้ยง 3 คนแต่ตอนนี้เป็น 2 คนเลี้ยง 3 คน ตอนนี้มันก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ”
“แม่ผมเงินเดือนไม่เยอะ แม่ผมเป็นพนักงานทั่วไปอ่ะครับ ก็อาจจะมีรายได้ 10,000 - 12,000 บาทบ้าง พอผมมีรายได้ระดับนั้น แล้วมันไม่ได้มาแค่เดือนเดียว มันได้ติดกันสองเดือนสามเดือนมันก็เยอะนะครับ ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ แล้วก็ทำเป็นอาชีพเสริม ก็ทำๆ ไป คงเส้นคงวา มันก็ได้สม่ำเสมอครับ มันก็เห็นแล้วว่ามันทำเป็นอาชีพได้ ผมมีข้าวกินก็โอเค แล้วชีวิตก็สบายดี”
“พอได้เยอะมันก็ช่วยเป็นหลักฐานชิ้นใหญ่ว่าเราสามารถไปทางนี้ได้ ก็เลยแบบหลุดออกมาได้ เหมือนมันมีแรงดึงเยอะครับ จะนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตก็ได้ครับ รู้สึกว่ามันไร้ขีดจำกัดครับ ต้องขอบคุณนักอ่านด้วยแหละครับ นักอ่านเขาสนับสนุนนะ มันก็เหมือนเราขายความสนุกอ่ะครับเราเอาเงินเขามา เราก็ต้องขอบคุณเขาด้วย เขาอุตส่าห์ซื้อนิยาย เราอยู่ได้เพราะนักอ่านเลยครับ เพราะผมทำเป็นอาชีพหลักถ้าไม่ได้พวกเขาผมก็คงไม่มีข้าวกิน”
นิยาย A Game Of Life (เกมชีวิต)
เบื้องหลังชีวิตที่จินที่เล่าให้ฟังนั้นไม่ได้เศร้าหรือดราม่าเลยนะคะ เขายิ้มและหัวเราะตลอดการพูดคุยกันเลยค่ะ พอเล่ามาถึงนักอ่านที่สนับสนุนนิยายของเขา เขาก็มีเรื่องของนักอ่านมาเล่าให้ฟังอีกเยอะเลยค่ะ ว่าถึงแม้เขาจะเปิดขายนิยาย แต่หากใครที่ติดตามนิยายของเขามานาน จะเห็นว่าราคานิยายที่เขาตั้งนั้น มีราคาค่อนข้างน้อย และไม่ได้ขายตอนเป็นจำนวนมาก เขาเข้าใจทั้งนักอ่านฟรี และนักอ่านที่ยอมเสียเงิน เด็กหนุ่มอยากขอโอกาสอธิบายถึงคำผิดในนิยายที่นักอ่านท้วงติงมาเสมอว่า
“ตอนแรกก็รู้สึกเฟลครับ แต่ว่าหลังๆ ต้องบอกนั่งอ่านก่อนทุกครั้งเลยว่าจะมีคำผิดนะ ตอนแรกผมไม่รู้ตัวเลย ผมรู้สึกว่าผมทำดีแล้ว คิดว่าไม่มีแล้วนะครับ แต่ว่ามารู้ทีหลังว่าเออเราไม่ได้เก่งภาษาเลย อย่างน้อยเราก็บอกนักอ่านไปก่อนว่ามันจะมีคำผิดนะครับ ถ้าต้องเสียเงินมาเจอคำผิดก็ไม่ต้องแปลกใจ ผมเตือนไว้แล้วครับ ผมคิดว่าผมเตือนเขาเหมือนทางข้างหน้าระวังนะครับ เขาจะได้ไม่ด่าเรามาก”
จินบอกว่าเขาอยากค่อยๆ พัฒนาในเรื่องต่อๆ ไป ส่วนเรื่องที่จบไปแล้ว เขาอาจจะไม่ได้กลับไปรีไรต์หรือแก้ไขในเร็วๆ นี้แน่นอน เขาอยากขอโทษนักอ่าน และอยากจะทำให้ดียิ่งขึ้นในเรื่องต่อไป เพราะจินคิดว่านักเขียนในมุมมองของเขา อย่างแรกเลยคือ รับฟังความคิดเห็นของนักอ่าน
“อย่างแรกเลยนะต้องคิดเสมอว่านักอ่านก็คือ คน คนก็มีผิดพลาดได้ คนก็มีโกรธ มีโมโห ถ้างั้นคุณต้องใจเย็น คุณอย่าแรงกลับเด็ดขาด เพราะว่านิยายเขียนออนไลน์มันจะมีคอมเมนต์ที่เราไม่รู้ว่าจะมาดีมาร้าย คุณต้องทำตัวเป็นคนไม่รู้ตลอด แล้วก็รับฟังตลอด นักเขียนในแนวของผมต้องรับฟังตลอด ต้องไม่ทำตัวรู้มากเด็ดขาดครับ”
เป็นวิธีรับมือกับนักอ่านที่จินทำมาตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเลยค่ะ จินบอกว่าเขาเป็นนักอ่านมาก่อน เขาเข้าใจนักอ่านมากๆ และในมุมของนักเขียน เขาก็บอกว่าทุกคนที่เขียนนิยาย รู้กันอยู่แล้วว่าการจะเป็นนักเขียนได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้ว่าเขาจะมีรายได้หลักจากการเขียนนิยายออนไลน์ แต่เขากลับไม่แนะนำให้นักอยากเขียนทุกคนตั้งเป้าหมายตั้งแต่แรกว่าจะเขียนนิยายเป็นอาชีพ จินบอกว่าทุกคนควรได้ลองลงมือเขียนนิยายก่อน ลองทำดูก่อน เริ่มต้นด้วยความสนุก และความชอบ จะดีกับทุกคนมากๆ เพราะอาชีพนักเขียนนั้นยากลำบาก ต้องอดทน และผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวของคุณเอง
“มันทำเป็นอาชีพได้ครับ แต่คุณรักมันไหมล่ะ คุณชอบมันไหม ถ้าคุณรักมันได้ คุณก็ต้องทนมันได้ ถ้าคุณชอบมัน คุณก็ต้องทำมันได้ ถ้าคุณรับไม่ได้ คุณก็แค่ออกมาไม่ต้องไปฝืน ผมยึดหลักนี้ตลอด ถ้าทำอะไรแล้วมันไม่ใช่ มันไม่โดน ก็คือไม่ใช่ทางของเรา คนเราเกิดมาไม่ได้เป็นได้ทุกอย่าง ถ้าคุณรัก คุณชอบมันจริง ลองทนกับมันดูหน่อยครับ ถ้าทนกับมันแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้าย ไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันก็ไปต่อได้ครับ”
“เหมือนช่วงแรกที่ผมมีคอมพิวเตอร์ใช่ไหมครับ ผมก็เขียนวันละเล็กวันละน้อย ไม่ต้องไปฝืนครับ คุณอย่าเพิ่งออกตัวแรงเลยว่าจะทำเป็นอาชีพหลัก โดยที่คุณไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นอะไร คุณต้องรักมันจริงๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ารักจริงๆ เนี่ยมันเป็นยังไง ไม่มีใครบอกเราได้ว่าเรารักมันจริงๆ นอกจากตัวเราเอง คุณต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเรารักมันจริงๆ ไหม”
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของ “จิน” เด็กหนุ่มแดนใต้ที่เขียนนิยายเปลี่ยนชีวิตตัวละครชายธรรมดาคนหนึ่งให้มีชีวิตเปลี่ยนไปเพราะความแฟนตาซี ในวันนี้ เขาได้กลายเป็นนักเขียนภายใต้นามปากกา “ณ พรรณนา” ที่มีชีวิตเปลี่ยนไปเพราะเขียนนิยายออนไลน์ จนมีรายได้หลักมาช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง
เรื่องราวชีวิตของจินจึงคล้ายๆ กับพล็อตนิยายที่เขาเขียนอยู่เลยค่ะ ความแฟนตาซีที่เขาเขียนเพื่อเปลี่ยนชีวิตตัวละคร ก็เหมือนกับการที่เขาใช้จินตนาการของตัวเองมาเขียนนิยาย และใช้นิยายออนไลน์นำมาหารายได้เสริม จนกลายเป็นรายได้หลักที่ช่วยเหลือครอบครัวได้นั่นเองค่ะ
หากใครที่ชื่นชอบในการอ่านนิยาย มีจินตนาการ มีความฝันบนเส้นทางนักเขียน พี่แนนนี่เพนขอให้ทุกคนลงมือเขียนนิยายเหมือนที่จินทำกันค่ะ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เราทุกคนสามารถเริ่มทำกันได้ง่ายๆ และหากใครอยากลองดูว่าจะหารายได้เสริมจากการขายนิยายได้เหมือนจินรึเปล่า ตอนนี้ระบบขายเด็กดีมีระบบสนับสนุนนักเขียนที่ยังเขียนนิยายไม่จบ อย่างการเปิดขายรายตอน และตอนอ่านล่วงหน้าด้วยนะคะ ไปลองเปิดขายกันได้ค่ะ หรือหากใครมีนิยายที่เขียนจบแล้ว การเปิดขายแบบแพ็กเกจก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันนะคะ
มาเริ่มเขียนนิยาย และศึกษาการขายได้ง่ายๆ ที่ลิงก์นี้เลยค่ะ : bit.ly/writer-howto
อ่านนิยาย Life Never Get Easy
อ่านนิยาย อัจฉริยะทะลุโลก
โฆษณา