21 พ.ค. 2021 เวลา 12:41 • บ้าน & สวน
Melocactus แคคตัสสุดอึด สุดทน
cr: World Of Succulents
หายไปนานมากกกก วันนี้กลับมาเลยจะมาแนะนำแคคตัสสายพันธุ์โปรดที่ชอบปลูกนั่นคือ Melocactus หรือ เมโล เป็นพันธุ์ที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดและราคาถูก ขนาดต้นเล็ก ๆ ราคาตั้งแต่ 20 - 50 บาท จนถึงขนาดใหญ่600+ บาท
ขนาดต้นตอนเล็ก (ความจริงมีเล็กกว่านี้ แต่ที่บ้านมีเล็กสุดคือต้นนี้ 😅)
Melocactus เป็นแคคตัสชนิดแรก ๆ ที่จะแนะนำให้คนเริ่มเลี้ยงหามาเลี้ยง เนื่องจากความอึดทน ตายยาก ราคาที่ไม่แพงหาซื้อได้ไม่ยากของเขา จากประสบการณ์เลี้ยงแบบงง ๆ ของคนรู้จักที่ซื้อมาแล้วเลี้ยงปล่อยเจ้าMelocactus ก็สามารถโตและรอดมาได้ถึงแม้จะเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยความชื้น
เป็นแคคตัสที่ขึ้นชื่อเรื่องความถึกทนเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยพบโรคและแมลงรบกวนบ่อย ถึงแม้จะเป็นโรค/โดนหนูกับหอยทากแทะจนเป็นรอยแหว่งก็ไม่มีอาการงอแงเน่าตาย พอรักษาพ่นยาก็หายเติบโตต่อไปได้ และจุดเด่นคือฝนทนความชื้นมากกว่าสายพันธุ์อื่นเนื่องจากเป็นแคคตัสที่พื้นเพของเขาชอบบรรยากาศความชื้นและน้ำ ดูเป็นแคคตัสที่มีข้อดีหลายอย่าง แต่ข้อเสียข้อเดียวของเขาคือเป็นแคคตัสที่อัตราการเติบโตช้า ใช้เวลานานกว่าจะเห็นดอกต้องใช้เวลาจากต้นเล็ก 6-7ปี ถึงจะเริ่มผลิต "เซฟาเลี่ยม" เป็นปุยขนตรงบริเวณยอดของต้นบริเวณนี้จะมีดอกออกมา จัดเป็นแคคตัสที่ออกดอกบ่อยทั้งปีและติดฝักเองบ่อยมาก ๆ (ถ้ามีเซฟาเลี่ยมแล้ว) จนทำให้ช่วงแรกที่ปลูกเมโลต้องทำใจคิดเสียว่า เลี้ยงไว้ดูหนามดูผิวก่อนในช่วงก่อนมีเซฟาเลี่ยมครับ 😅
เมื่อโตจนได้เซฟาเลียมแล้วส่วนใหญ่เมโลจะไม่ค่อยขยายขนาดเพิ่ม แต่การเติบโตจะไปที่เซฟาเลียมแทน จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
รูปบนเมื่อปีที่แล้ว รูปข้างล่างคือรูปตอนปัจจุบัน จะเห็นว่าขนาดไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่ตัวเซฟาเลี่ยมนั้นเปลี่ยนแปลงชัดสุด
ข้อเสียอีกข้อคือดอกเขามีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นและความสวยงามก็น้อยกว่า แต่แลกกับการออกดอกได้บ่อยและติดฝักเองได้ก็คุ้มค่ามากครับ
เซฟาเลี่ยม เป็นปุยขนและหนามเล็ก ๆ บริเวณยอดจะมีเมื่อต้นมีอายุมากขึ้น เป็นจุดไว้ออกดอกและผลิตฝัก
การดูแล
☀แดด: สามารถอยู่แดด 50% ใต้สแลนได้(ผิวจะค่อนข้างสวย) หรือรับแดด100%ช่วงเช้าจนถึงแดด100% ทั้งวันได้
💧 น้ำ: เป็นแคคตัสที่ชอบน้ำมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ สามารถให้น้ำได้ทุกครั้งที่ดินแห้ง (บางท่านตีเป็น 2-3ครั้งต่อสัปดาห์) ถ้าดินระบายน้ำดี+รากเดินดี+อากาศถ่ายเท สามารถปลูกแดด100ฝน100ได้เลยครับ
🌵 วัสดุปลูก: ดินแคคตัสถุงทั่วไป / ดินร่อน+ทรายหยาบ
💐 การดูแลเพิ่มเติม: ปุ๋ยออสโมโคท/ ปุ๋ยพ่นทางใบ (ex.จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง)/ พ่นกันแมลงและรา/ น้ำส้มควันไม้พ่นช่วงเย็น ๆ
ปลูกแบบแดด100ฝน100 น้องสามารถอยู่ได้และเติบโตได้แต่ผิวจะไม่สวยเท่าแบบใต้สแลน 50%
การขยายพันธุ์
เมโลเป็นแคคตัสที่ไม่ค่อยพบการแตกหน่อแบบบางสายพันธุ์ การขยายพันธุ์จึงเน้นไปที่การเพาะเมล็ด ซึ่งอัตราการเพาะแล้วงอกค่อนข้างสูงมาก สามารถเพาะได้ทั้งระบบปิด ระบบเปิดหรือทำแบบเราที่เพาะในกระถางต้นแม่ไปเลยก็ได้ (วางฝักบนหน้สดินปล่อยให้แห้งรดน้ำปกติก็งอก) 😅 แต่แนะนำให้เพาะแบบปกติก็ได้ครับ โดบเฉพาะระบบเปิดจะดีต่อแคคตัสมากกว่าตรงที่โตมาจะทนโรคทนแดดทนอากาศมากกว่าแบบปิดแต่จำนวนต้นแบบปิดจะได้เยอะกว่าและสิ่งรบกวนภายนอกจะน้อยกว่า
ส่วนตัวเท่าที่ดูจากหลาย ๆ ท่านพบว่าเมโลเป็นแคคตัสที่งอกง่ายเพาะง่ายมาก ๆ อีกชนิดหนึ่ง
เอาฝักวางไว้ที่กระถางต้นแม่ ฝักแห้งแล้วเม็ดงอกเติบโตได้ปกติ
ถ้ามีเซฟาเลี่ยมแล้วเขาจะออกดอกได้ถี่และบ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงที่ได้รับน้ำรับฝน
⚡ข้อควรระวังคือถึงแม้เมโลจะเลี้ยงง่ายมาก ๆ แต่ก็ควรให้ปุ๋ย พ่นสารป้องกัน&กำจัดแมลง/เชื้อรา เพื่อให้เมโลสวยและสมบูรณ์ อีกทั้งเรื่องการปลูกขึ้นอยู่กับพื้นที่สภาพแวดล้อมพท้นที่ปลูกของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ผู้เลี้ยงต้องลองปรับวัสดุปลูกการดูแลให้เข้ากับตัวเองจะดีที่สุด
โฆษณา