#สหรัฐกลับลำ
#ยกเลิกคว่ำบาตรโครงการท่อก๊าซรัสเซีย
#เปิดทางรัสเซียผงาดเป็นเจ้าพลังงานในย่านยุโรป
โจ ไบเดน มาแปลก หลังจากที่ออกโรงงิ้วชุดใหญ่กับรัสเซียมาหลายงาน ทั้งคว่ำบาตร ทั้งขับฑูตรัสเซียออกจากประเทศ มาวันนี้กลับลำกะทันหัน ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร 2 หัวเรือใหญ่รัสเซียที่รับผิดชอบงานสัมปทาน Nord Stream 2 Pipeline โครงการท่อส่งก๊าซรัสเซีย-เยอรมัน ที่จัดเป็นหนึ่งในโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ซึ่ง 2 คีย์แมนคนสำคัญที่สามารถรอดตัวจากการคว่ำบาตรของสหรัฐได้ก็คือ บริษัท Nord Stream 2 AG ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Gazprom บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย และ CEO ของบริษัท Matthias Warnig อดีตหน่วยสืบราชการลับชาวเยอรมันตะวันออก ที่เป็นหนึ่งในคนสนิทของ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
โดยทางรัฐบาลสหรัฐให้เหตุผลว่า สหรัฐยังไม่ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณาผลประโยชน์ของสหรัฐ และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเยอรมัน ที่จะเป็นผู้ที่ได้รับผล กระทบมากที่สุด หากโครงการ Nord Stream 2 สร้างไม่สำเร็จ จึงเห็นว่าการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
แต่ต่อให้สหรัฐไม่ยกเลิกการคว่ำบาตร ก็ไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะโครงการนี้ก็เสร็จไปแล้วถึง 95% เกือบจะส่งมอบงานกันอยู่แล้ว เหมือนกับพระจะสึก ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง ลูกจะออก *** จะแตก ของอย่างนี้มันห้ามกันไม่ได้
สำหรับโครงการ Nord Stream 2 เป็นการต่อยอดจากโครงการแรก Nord Stream ที่เป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติใต้ทะเลบอลติค จากรัสเซียมาขึ้นฝั่งที่เยอรมัน และกระจายต่อไปทั่วยุโรป ซึ่งโครงการ Nord Stream แรกเสร็จไปแล้วตั้งแต่ปี 2011 และสามารถขนส่งก๊าซธรรมชาติไปยุโรปได้ถึง 55 ล้านลูกบาศก์เมตรในแต่ละปี
แต่สำหรับโครงการ Nord Stream 2 สร้างคู่ขนานกับโครงการแรก แต่ใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ด้วยทุนสร้างถึง 1.1 หมื่นล้านเหรียญ และคาดว่าจะสามารถขนส่งก๊าซไปยุโรปได้มากถึง 110 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
โครงการนี้ รัสเซียก็ไม่ได้ลงทุนสร้างคนเดียว แต่เป็นการร่วมทุนระหว่าง Gazprom ของรัสเซีย และ Wintershall บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน และยังมีบริษัทอีกหลายประเทศมาช่วยกันลงขันด้วย เช่น ฝรั่งเศส โปแลนด์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงานในภูมิภาคยุโรป แล้วก็เริ่มลงเสาเข็มสร้างมาตั้งแต่ปี 2018 จนเสร็จไปกว่า 95%
แล้วอีก 5% จะเหลือไว้ทำไม?
ที่ยังไม่เสร็จซักที ก็เพราะสหรัฐอเมริกาเห็นท่าไม่ดีว่า ชาว EU จะพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากเกินไป และเริ่มมาตรการคว่ำบาตรบริษัทหลายแห่งของรัสเซียเรื่อยมา
จนกระทั่งเมื่อช่วงมกราคม 2021 นี้เอง โจ ไบเดน ที่เพิ่งได้เป็นประธานาธิบดีป้ายแดง ก็ประกาศว่าจะคว่ำบาตร Gazprom เพื่อฆ่าโครงการ Nord Stream 2 ของรัสเซียซะ เพราะยังไงเสีย การส่งออกน้ำมันเป็นเหมือนกล่องดวงใจของรัสเซีย ปูตินเอ๋ย คราวนี้เอ็งต้องตายแน่ๆ 😏
แม้แต่ แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐของไบเดน ยังเคยออกมาบอกเองว่า สหรัฐจะทำทุกทางเพื่อสกัดโครงการ Nord Stream 2 ไม่ให้เกิดให้ได้
แต่พอมาวันนี้ มีข่าวมาว่า รัฐบาลสหรัฐเปลี่ยนใจ ปล่อยจอยโครงการ Nord Stream 2 แล้ว เพราะเห็นแก่เยอรมันหรอกนะ ที่ร่วมลงทุนไปกับรัสเซียแล้ว และยังมีชาวเยอรมันนับล้าน ที่ยังต้องพึ่งพาพลังงานจากโครงการนี้ ไหนๆมันก็เสร็จไปแล้ว 95% ก็ช่วยไม่ได้ละกัน
เล่นเอางงไปทั้งบาง เออ! บทจะเท ก็เทง่ายๆเลยรึ
ซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนท่าทีของสหรัฐ ก็เกิดขึ้นหลังจากมีการประชุมระดับสูงระหว่าง แอนโทนี บลินเคน และ เซอร์เก้ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐ-รัสเซีย ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ตอนแรกดูเหมือนงานประชุมเครียด เพราะมีประเด็นหลายอย่างที่หยิบมาพูดกัน ทั้งการรุกรานของรัสเซียที่ชายแดนยูเครน หรือ ประเด็นของอเล็กเซ นาลวานี ฝ่ายค้านเดนตายที่ยังถูกจำคุกในรัสเซีย แต่ก็ปรากฏภาพหลังการประชุมก็แลดูชื่นมื่นดี
และหลังจากที่จบงานประชุม ก็มีข่าวการปลดล็อค sanction บริษัท Nord Stream 2 AG ของ Gazprom ออกมานี่เอง
จึงทำให้ฝ่ายค้านอย่าง รีพับลิกัน ต้องออกมาโจมตี โจ ไบเดน ว่าไม่จริงจังเรื่องการสกัดอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคยุโรป และเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ไม่ต่างจากการเตะหมูเข้าปากหมา
ส่วนรัฐบาลยูเครนก็ออกมาคัดค้านการตัดสินใจถอยให้กับรัสเซียในครั้งนี้ว่า เป็นสัญญาณอันตราย เพราะโครงการท่อก๊าซรัสเซียนี้ จะเป็นทำให้รัสเซียสามารถสร้างอิทธิพลด้านพลังงานครอบงำยุโรป ที่รัสเซียมักชอบใช้เป็นข้อต่อรองทางการเมืองเมื่อมีปัญหากับชาติอื่น
แต่สำหรับรัสเซีย เวลาเจ็บเรานิ่ง เวลาได้เปรียบก็ไม่พูดมากให้โฉ่งฉ่าง เพราะอย่างที่รู้ๆกัน โครงการท่อก๊าซเป็นหนึ่งในนโยบายภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญของรัสเซีย และในเมื่อมีคนหามหมูมาส่งที่ปากแล้ว ก็เอาคานมารับไปเงียบๆ ทิ้งไว้แต่ใบหน้ากรุ้มกริ่มของป๋าปูตินไว้ให้ดูต่างหน้า
ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน ทุกคำสั่งประธานาธิบดีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และไม่จำเป็นต้องรอเปลี่ยนรัฐบาลสมัยหน้า วันนี้ปล่อย ก็อาจไปตัดสินใจกลับไป sanction ใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่รัสเซียควรทำเมื่อมีโอกาส คือจบงานให้เร็วที่สุด
ซึ่งจากกำหนดเดิม คาดว่า Nord Stream 2 น่าจะเสร็จโครงการได้ภายในปีนี้ และจะสามารถสร้างงาน และรายได้ให้กับคนทำงานในยุโรปได้มากกว่า 1 หมื่นตำแหน่งทีเดียว
แหล่งข้อมูล
- 38
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
