20 พ.ค. 2021 เวลา 11:25 • กีฬา
ในกีฬาโอลิมปิก ไม่มีเหรียญทองเหรียญไหน ที่จะแปลกประหลาด และอยู่เหนือดวงชะตา มากเท่ากับเหรียญทองของสตีเว่น แบรดบิวรี่อีกแล้ว ชนิดที่คนต้องตะลึงทั้งโลก เขาทำได้อย่างไร วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
2
สตีเว่น แบรดบิวรี่ เป็นนักกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรเลีย ที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกฤดูหนาวได้ ซึ่งคนก็แซวกันว่า เป็นเหรียญทองที่ Very Australian Way (ออสเตรเลี้ย ออสเตรเลีย) หรือแปลง่ายๆว่า 'เพี้ยนที่สุด' นั่นเอง
แบรดบิวรี่ เป็นนักสเก็ตน้ำแข็ง ลงแข่งขันประเภทสปีดสเก็ตติ้ง คือสปรินท์ไถลไปกับลู่น้ำแข็ง ใครถึงเส้นชัยเร็วที่สุดชนะ โดยเขาลงแข่งทั้งประเภทเดี่ยว และประเภททีม
จริงๆผลงานของเขาก็พอใช้ได้ เจ้าตัวได้ 1 เหรียญทองแดงประเภท สเก็ตผลัด 5000 เมตร ในโอลิมปิกฤดูกาลปี 1994 ที่ลิลล์แฮมเมอร์ ประเทศนอร์เวย์
แต่กับผลงานเดี่ยวนั้น ไม่รู้โชคชะตาเล่นตลกอะไร เขากำลังมีลุ้นเหรียญอยู่ดีๆ ก็ดวงแตกทุกที ในปี 1994 เขากำลังจะเข้าเส้นชัยอยู่แล้ว แต่โดนคู่แข่งผลักจนล้ม แน่นอนคู่แข่งโดนดิสควอลิฟาย แต่ตัวเขาเองกว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นมา เข้าเส้นชัยก็ช้ากว่าคนอื่นไปแล้ว จึงตกรอบไปอย่างน่าเศร้า
จากนั้นในโอลิมปิก 1998 ที่นากาโนะประเทศญี่ปุ่น เขาอยู่ในฟอร์มที่ดี ระดับ 1 ใน 10 ของโลกและมีลุ้นเหรียญ แต่ก่อนแข่งดันเกิดอาหารเป็นพิษ ร่างกายหมดสภาพ สุดท้ายตกรอบไปทั้งอย่างนั้นแหละ
เหมือนโชคชะตาของเขาจะไม่มีดวงสำหรับการแข่งขันเลย จนมาถึงโอลิมปิกปี 2002 ที่ซอลต์เลก ซิตี้ สหรัฐอเมริกา แบรดบิวรี่ตอนนี้อายุ 29 ปี เป็นนักแข่งสปีดสเกตติ้งที่อายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ คือเขาไม่สดใหม่เหมือน 4 ปีที่แล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงขาลง และมาแข่งโอลิมปิกเพื่อเป็นเกียรติยศส่งท้ายให้ตัวเองก่อนเลิกเล่นแค่นั้น
แบรดบิวรี่ ลงแข่งขันประเภทสปีดสเก็ตติ้ง ชายเดี่ยว 1,000 เมตร แต่ก็ไม่มีใครคาดหวังอะไร เขาไม่ได้อยู่ในข่ายของตัวเต็งเลยด้วยซ้ำ
1
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ด้วยประสบการณ์ ทำให้แบรดบิวรี่ผ่านรอบแรกมาได้ก็จริง แต่พอเข้าสู่รอบต่อไปมันจะไม่ง่ายอย่างนั้นแล้ว มันจะทวีความเข้มข้นขึ้นมาก เพราะคู่แข่งเหลือแต่ตัวท็อปทั้งนั้น
1
ในรอบควอเตอร์ไฟนอล จะเหลือนักกีฬา 16 คนที่ดีที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ผู้ชนะอันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่มจะได้ผ่านเข้ารอบเซมิไฟนอลต่อไป
1
แบรดบิวรี่ อยู่ในกลุ่ม 2 ร่วมกับ อโปโล่ โอโน่ จากสหรัฐอเมริกาเต็งหนึ่งของรายการ, มาร์ก กาย่อน จากแคนาดา แชมป์โลกคนล่าสุด และ นาโอยะ ทามูระ จากญี่ปุ่น นักกีฬาที่ทำเวลาดีที่สุดของทวีปเอเชียในรอบแรก
การแข่งขันเริ่ม แบรดบิวรี่สู้เต็มที่ แต่เข้าได้แค่ลำดับ 3 เท่านั้น ตามหลังโอโน่ กับกาย่อน ซึ่งตามหลักเขาต้องตกรอบ แต่ไม่รู้โชคดีมาจากไหน มาร์ก กาย่อน จากแคนาดา ดันไปทำฟาวล์ใส่นาโอยะ ทามูระ ในการแข่ง สุดท้ายกาย่อนโดนจับดิสควอลิฟาย แบรดบิวรี่เลยได้อานิสงส์ จากเข้าที่ 3 เลื่อนมาเป็นที่ 2 ได้ผ่านเข้ารอบไปแบบงงๆ
4
จากนั้นในรอบรองชนะเลิศ มี 4 คนแข่งขันกัน มีแบรดบิวรี่จากออสเตรเลีย ส่วนอีกสามคนมาจาก จีน, แคนาดา และ เกาหลีใต้
แบรดบิวรี่อยู่อันดับ 4 เป็นบ๊วยของกลุ่ม กำลังจะตกรอบ เหลืออีกไม่ถึง 20 เมตรสุดท้าย อยู่ๆ อันดับ 1 กับอันดับ 2 ไปเกี่ยวขากันเองล้มกลิ้งกันดื้อๆ แบรดบิวรี่ที่อยู่อันดับ 4 จึงแซงขึ้นเป็นที่ 2 เฉยเลย เข้ารอบชิงชนะเลิศแบบตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาได้ไง
2
มาถึงรอบชิงชนะเลิศ เหลือ 5 คนสุดท้าย แบรดบิวรี่ เป็นเต็ง 5 ทุกคนมองข้ามเขาไปหมด เพราะสถิติก็แย่กว่าคนอื่นจริงๆ แถมผ่าน 2 รอบก่อนหน้านี้มาแบบดวงสุดๆ แต่ใครๆ ก็เชื่อว่า คุณไม่มีทางใช้ดวงได้ตลอดไปหรอก
2
"ก่อนแข่งขัน โค้ชบอกผมว่า นายไม่ได้เก่งเหมือนคนอื่นหรอกนะ เอางี้ นายอยู่ห่างๆพวกเขาไว้ เผื่อคนสองคนพลาดท่าไปชนกันเอง นายจะได้สอดแทรกได้เหรียญทองแดงก็ยังดี" แบรดบิวรี่เล่า ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับโค้ช เพราะอีก 4 คนที่เข้ารอบมา (จีน, เกาหลีใต้, อเมริกา, แคนาดา) เป็นตัวท็อปของวงการทั้งสิ้น คือถ้าคิดเชิงกลยุทธ์ 4 คนนี้ต้องเบียดกันสุดๆ และบี้กันเข้าเส้นชัยแน่ ดังนั้นเป็นไปได้ ที่จะไปพลาดเกี่ยวกันลื่นล้มสักคนสองคน
20
ในรอบชิงชนะเลิศ ชายเดี่ยว 1,000 เมตร จะเป็นการสเก็ตรอบริงค์น้ำแข็ง 10 รอบ ซึ่งเมื่อออกสตาร์ต 4 คนแรกก็ไล่บี้กันอย่างดุเดือด ส่วนแบรดบิวรี่เป็นคนเดียวที่เต็มใจจะอยู่ข้างหลังสุด เขารอเก็บตก มันต้องมีสักคนที่พลาดสิน่า ขอทองแดงก็ยังดี
4
4 คนแรก สลับกันนำสลับกันตามอย่างดุเดือด ส่วนแบรดบิวรี่ ตามหลัง 4 คนแรกห่างไปเรื่อยๆ มากกว่า 15 เมตรแล้ว การแข่งเข้าถึงรอบสุดท้ายแล้ว แบรดบิวรี่ท่าทางจะหมดสิทธิ์แน่ๆ
2
จนมาถึง 20 เมตรสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ทั้ง 4 คนหน้า ที่บี้กัน บดขยี้กันสุดขีด และสุดท้ายไปชนกันเองจนล้มกลิ้ง และไม่ใช่ล้มแค่ 1 หรือ 2 คน แต่ล้มทั้ง 4 คนพร้อมกัน!
3
นั่นทำให้แบรดบิวรี่ที่อยู่ไกลลิบ สเก็ตแซงทั้ง 4 คนที่ล้มระเนระนาดไปแบบชิลล์ๆ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง คว้าเหรียญทองไปแบบเหลือเชื่อสุดๆ
2
เจ้าตัวเองกางแขนชูมือ ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ล้มกลิ้งกันเละเทะขนาดนี้ ในการแข่งเลเวลนี้มาก่อน จนนี่เป็นเหรียญทองที่ถูกขนานนามว่า Luckiest โชคดีที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ ในโอลิมปิกฤดูหนาว
1
"ผมกลายเป็นคนแรกของประเทศที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาว แต่ผมไม่แน่ใจว่าควรจะขึ้นไปรับด้วยความรู้สึกแบบไหน คือผมไปยืนอยู่บนโพเดี้ยมก็จริง แต่ผมเองก็รู้สึกประหลาดเหมือนกันนะ" แบรดบิวรี่เล่า
4
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนเหลืออีก 3 รอบ แล้วตามหลังคู่แข่งไกลลิบ ยังหวังไหมว่า 4 คนข้างหน้าจะล้ม แบรดบิวรี่ตอบว่า " ไม่แล้ว ผมว่าผมจบที่ 5 ชัวร์ๆ ตอนนั้นคิดอย่างเดียว เมื่อยขาไม่ไหวแล้ว!"
 
แบรดบิวรี่ขึ้นรับเหรียญอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งก็สมควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะแม้จะโชคดี แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกติกา แถมจะว่าไปกลยุทธ์หวังคนเก่งกว่าแพ้ภัยตัวเองของเขามันก็ได้ผล แต่มันไม่ได้ล้มแค่คนสองคนเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก แต่ล้มทุกคนในสนาม
1
หลังจากจบการแข่งขันรายการนี้ แบรดบิวรี่อำลาวงการสปีดสเกตติ้งไปเลย เรียกได้ว่าปิดฉากด้วยเหรียญทองโอลิมปิกอย่างตำนานที่สุด
4
จริงๆเหตุการณ์นี้ ใครๆก็ต้องยอมรับว่าแบรดบิวรี่โชคดีนั่นแหละ เขาเองก็รู้ แต่ก็ต้องให้เครดิตเขาด้วย ที่ไล่บี้ตาม 4 คนแรกมาตลอด โดยไม่ถอดใจ ซึ่งพอคนข้างหน้าพลาด เขาก็เสียบได้ทันที คือรอคอยโอกาสอย่างอดทน ส่วนโอกาสนั้นจะมีหรือไม่มี ไม่รู้ แต่ถ้ามีเขาจะไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่า
15
หลังจากแบรดบิวรี่ ได้เหรียญทองโอลิมปิก คนออสเตรเลียจึงสร้างสำนวนภาษาอังกฤษใหม่ขึ้นมาคือ Do a bradbury นั่นคือ ถ้าคุณทำสิ่งมหัศจรรย์อะไรขึ้นมาได้ แบบที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จะสามารถใช้คำว่า Do a bradbury ได้เลย
เหตุการณ์นี้แม้จะผ่านมานานเกือบ 20 ปี แต่ผู้คนก็ยังยกย่องว่าเป็นช็อตเหลือเชื่อที่สุดของโอลิมปิกอยู่เสมอ เพราะปกติการแข่งโอลิมปิก มันคือการแข่งที่วัดฝีมือที่สุด ดังนั้นไม่มีใครหรอกที่จะชนะด้วยดวงมากขนาดนี้
แต่แบรดบิวรี่ ดวงแข็งมาตลอด 3 รอบ จากรอบควอเตอร์ไฟนอล รอบเซมิไฟนอล จนได้เหรียญทอง อะไรมันจะขนาดนั้น
เคยมีคำกล่าวว่า ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน แต่กับกรณีของแบรดบิวรี่ต้องขอเป็นข้อยกเว้นจริงๆ!
2
#Bradbury
โฆษณา