🔍รีวิวกองทุนระดับโลกจาก Wellington Management
กองทุนมาตรฐานสูงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
มาต่อกันที่ SERIES รีวิวกองทุนแต่ละค่ายดังกันต่อ ล่าสุดเราได้รีวิว Blackrock กับ Baillie Gifford ไปแล้ว วันนี้ขอมารีวิวกองของค่าย Wellington กันหน่อย เด็กการเงินเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกองของค่ายนี้แน่ๆ เพราะเมื่อก่อนก็ฮอตฮิตไม่แพ้ ARK ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ กองที่คนอาจจะคุ้นหูคือ B-CARE, B-GLOBAL, TMBGQG มาเริ่มกันเลย ‼️
บริษัท Wellington Management ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1933 นับว่า 88 ปีผ่านมาแล้ว ที่สหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งคือ Walter L. Morgan ปัจจุบันบริษัทบริหารเงินมากกว่า $1 TN มีพนักงานกว่า 2,217 คน
มารีวิวกันเลยดีกว่า วันนี้จะรีวิวเฉพาะกองแม่ที่ได้ 4 ดาวขึ้นไป จาก Morning Star
B-CARE – กองแม่ Wellington Global Health care equity fund (5 ดาว)
TMBGQG – กองแม่ Wellington Global Quality Growth Fund (4 ดาว)
B-GTO – กองแม่ Wellington Global Innovation Fund (4 ดาว)
จริงๆ มีอีกกองคือ UOB-SGB - กองแม่ Wellington Global Bond Fund (4 ดาว)
มาเริ่มกันที่กองแรก
1️⃣ Wellington Global Health care equity Fund 🏩🏥🩺🧑⚕
กองนี้เป็นกอง Active ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Health Care ทั่วโลก โดยดูที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก และกองนี้ไม่ได้ตั้งมาเพื่อให้คล้ายกับ Benchmark ที่ใช้อย่าง MSCI World Health Care index ใช้แค่เป็น Reference เท่านั้น โดยกองนี้ถือหุ้น 100-150 ตัว และมีสัดส่วนการลงทุนในรายประเทศหรือ Sector ได้ราว 10% ถึงสูงสุด 50% แต่จะไม่ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Emerging Market (EM) เกิน 20% ปัจจุบันกองนี้ลงทุนในอเมริกาสูงถึง 76.3% รองลงมาคือ ยุโรป 13.7%, ญี่ปุ่น 5.3% และ EM 4.7% อันนี้เรียกได้ว่าแตกต่างกับ Benchmark นะเพราะ ใน Benchmark ไม่มีสัดส่วนจาก EM เลย กองนี้เป็นอีกกองที่ทำผลตอบแทนได้ดีหากดูย้อนหลัง แต่ต้องบอกก่อนว่าเหมาะกับนักลงทุนระยะยาว
📍นโยบายการลงทุนของกองนี้
เลือกหุ้นที่มี Valuation น่าสนใจ และมีแนวโน้มการเติบโตระยะยาว รวมไปถึงผู้บริหารที่มีคุณภาพ เพราะกองนี้เขาเชื่อว่าถ้าทีมบริหารที่ดีคือเป็นตัวแปรหลักสู่ความสำเร็จ โดยลงทุนทั้งในกลุ่ม Healthcare service, Biotech, Pharmaceuticals, Medical tech
📍ความน่าสนใจของกองนี้
ความน่าสนใจคือวิธีการเลือกกอง กองนี้เวลาเขาจะเลือกหุ้นเขาจะสแกนหุ้นใน Universe ที่เป็น Healthcare มากกว่า 1,000 ตัวทั่วโลก และก็มาดูด้านปัจจัยพื้นฐานอีกที เช่น ผลการดำเนินงาน ลักษณะ Product ว่าเป็น Breakthrough life-science ไหม แล้วก็มาดู Supply/Demand หลักๆ ก็คือจะเลือกจากการวิเคราะห์แบบ Bottom Up ดูที่ตัวบริษัทก่อน แล้วถึงมองภาพรวมตลาด Top Down ไว้สำหรับการติดตามประเด็นความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งกองนี้เวลาเขาจะเลือกหุ้นมีการทำการบ้านเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเข้าไปพบผู้บริหารจดทะเบียน การประชุมด้าน Medical / Scientific หรือมีการ discuss กันเกี่ยวกับ Medical & Scientific Journals รวมไปถึงมองเรื่องกฎเกณฑ์ต่าง และนโยบายของรัฐด้วย
2️⃣ Wellington Global Quality Growth Fund
กองนี้ก็เป็นกอง Active ที่มุ่งเน้นหาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หากมาดูไส้ในก็อาจจะเห็นหุ้น Tech เยอะนิดนึง มีตั้งแต่ Alphabet , Microsoft, Amazon, Facebook, Tencent, Taiwan Semi และ Alibaba แต่จริงๆ เขาก็ถือแบบอื่นด้วยเช่น United Health, JPMorgan, Mastercard หากมาดูแบบสัดส่วนตามอุตสาหกรรมพบว่าลงทุนใน Info Tech 28.4%, Financials 18%, Consumer Discretionary 16.6%, Industrials 12.3% ถ้าไม่ได้ดูแต่ Top Holding พอมามองรายอุตสาหกรรมก็ไม่ได้มี Tech สูงขนาดนั้นหากเทียบอุตสาหกรรมอื่น โดยกองนี้จะถือหุ้นราว 60-90 ตัว
📍นโยบายการลงทุนของกองนี้ และความน่าสนใจ
กองนี้จะดูทั้งหมด 4 ปัจจัย คือ Quality, Growth, Value, Capital Return โดยอันดับแรกคือ Quality ตามชื่อกองเลย คือเขาจะวัดจาก business model มีความแข็งแกร่งไหมที่จะสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มากกว่ากำไรขาดทุนตามบัญชี และสองคือ Growth เลือกจากบริษัทมีรายได้เติบโตแบบ Organic สูงมาก (เติบโตตามธรรมชาติของธุรกิจ มากกว่าการเข้าซื้อกิจการอื่น) และสามคือ Value เป็นการวิเคราะห์ภาพรวมอนาคตของบริษัทแล้วประเมินหามูลค่าเหมาะสม โดยพิจารณาจากกระแสเงินสด การเติบโตของรายได้ และสุดท้าย Capital Return กองนี้เขาจะดูว่าบริษัทที่เข้าลงทุน บริหารจัดการเงินส่วนเกินดีแค่ไหน จ่ายปันผลออกมาหรือเปล่า หรือการซื้อหุ้นคืน เพราะเขาเชื่อว่านี้คือวิธีนี้จะสามารถให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนได้ โดยเขาจะไม่เลือกลงทุนในหุ้นในอุตสาหกรรมที่พื้นฐานไม่ดี หรือ Market share ไม่โตแล้ว รวมถึงบริหารจัดการเงินได้ไม่มีประสิทธิภาพ เด็กการเงินมองว่ากองนี้วิธีเลือกหุ้น ก็เป็นวิธีแบบวิเคราะห์หุ้นปัจจัยพื้นฐานทั่วไปคือ สแกนหุ้นทั่วโลกจาก 3,000 ตัว มาก่อนแล้วมาจัด Ranking ตาม Quality, Growth, Value, Capital return ลดเหลือ 500 ตัว จากนั้นก็มาทำ Research และประเมินมูลค่าหุ้นอีกที ก่อนจะถือหุ้น 60-90 ตัวในพอร์ต
3️⃣Wellington Global Innovation Fund
กองนี้มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่คิดค้นและได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมใหม่ๆ ในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่อเมริการาว 74.1% รองลงมาคือ EM 14.5% และยุโรป 9.8% โดยหุ้น 5 อันดับแรกคือ Alphabet, Amazon, Visa, Facebook, Nike คือต้องเข้าใจก่อนว่ากองนี้ไม่ใช่กองเทคทั่วไปซะทีเดียว สำหรับนโยบายการลงทุนนั้น กองนี้จะลงทุนพวกเกี่ยวกับนวัตกรรมด้าน Healthcare, อุตสาหกรรมการเงิน, Machine Learning, Automation หรือพวก Theme ใหญ่ๆ เช่น Climate Change รวมไปถึงพวก Online / On-demand / Mobile เหมือนกัน โดยในกองยังมีหุ้น Healthcare แบบ UnitedHealth, Walt Disney ถือตัวนี้เพราะตัว Disney Plus, China Gas, Prologis, AstraZeneca
กองทุนจาก Wellington ไม่ได้หวือหวา โฉบเฉี่ยว แต่มาตรฐานสูง และน่าลงทุนในระยะยาว บ่อยครั้งจึงถูกเลือกมาใส่ในพอร์ตแนะนำของหลายเจ้า ใครชื่นชอบบ้างครับ 🙌🙌
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
