21 พ.ค. 2021 เวลา 00:00 • ความคิดเห็น
“น่าขยะแขยง แม้กับพวกนิยมแนวคิดของฟรอยด์ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนผสมแย่ ๆ ของความจริงที่น่าเกลียดและแฟนตาซีที่ไม่น่าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้คุณฝังต้นฉบับนี้ใต้ก้อนหินนานสักพันปี”
2
นี่เป็นจดหมายของบรรณาธิการสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งปฏิเสธตีพิมพ์นวนิยายเรื่อง Lolita ของ วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ
6
เจอ ‘คำชม’ แบบนี้ ต่อให้เป็นนักเขียนมือฉมังที่สุดในโลกก็คงท้อเหมือนกันเพราะ แม้ Lolita ซึ่งเป็นนวนิยายเกี่ยวกับสัมพันธ์สวาทของศาสตราจารย์วัยกลางคนกับเด็กสาววัยสิบสองจะล่อแหลมท้าทายศีลธรรมสักเพียงไร คำปฏิเสธเชิงเหยียดหยามของบรรณาธิการก็รุนแรงเอาการ ดูเหมือนโลกหนังสือตะวันตกจะเต็มไปด้วยบรรณาธิการที่ปากกาคมกว่ามีด!
5
The Spy Who Came in From the Cold นวนิยายเรื่องแรกของ จอห์น เลอ คาร์เร ถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธพร้อมจดหมายสั้น ๆ ว่า “เชิญพบ เลอ คาร์เร เจ้าหมอนี่ไม่มีอนาคต”
2
นวนิยาย Lord of the Flies ของ วิลเลียม โกลดิง ถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธ 20 ครั้ง รายหนึ่งเขียนว่า “เรื่องแฟนตาซีบ้า ๆ และไม่น่าสนใจ มันเป็นแค่ขยะและน่าเบื่อ”
1
สำนักพิมพ์หนึ่งปฏิเสธงานนิยายอิงประวัติศาสตร์แนวเสียดสี Catch-22 ของ โจเซฟ เฮลเลอร์ ด้วยเหตุผลว่า
1
“ผมไม่รับรู้เลยสักนิดเดียวเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้เขียนพยายามเล่า เห็นชัดว่าผู้เขียนตั้งใจให้มันเป็นเรื่องตลก หรือเสียดสี แต่มันไม่ตลกเลยสักนิดสำหรับคนมีสติปัญญา”
2
อุ๊ย! เจ็บ!
2
.
สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักเขียนไม่น้อยท้อถอยคือคำวิพากษ์วิจารณ์งานของตนในเชิงลบ บางคนเสียกำลังใจหลังจากถูกปฏิเสธงานเพียงครั้งสองครั้ง พาลเลิกเขียนไปเลย
1
แต่วงการนักเขียนก็เหมือนวงการอื่น ๆ เต็มไปด้วยคนชอบวิพากษ์วิจารณ์ แต่ตาไม่ถึง
3
วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ เดินหน้าหาคนพิมพ์ Lolita จนได้ มันกลายเป็นนวนิยายคลาสสิกตลอดกาล ถูกจัดเป็นหนึ่งในร้อยของสุดยอดนวนิยายโลกแห่งศตวรรษที่ 20
3
เมื่อได้รับการตีพิมพ์ The Spy Who Came in From the Cold กลายเป็นหนังสือสายลับที่จัดว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก และ ‘เจ้าหมอที่ไม่มีอนาคต’ จอห์น เลอ คาร์เร คนนี้เป็นนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ซึ่งจัดอยู่ในทำเนียบนักเขียนอังกฤษที่ดีที่สุด
1
วิลเลียม โกลดิง เดินหน้าหาคนพิมพ์งานของเขาจนได้ Lord of the Flies กลายเป็นวรรณกรรมคลาสสิก นักเขียนได้รับรางวัล บุคเกอร์ และรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
.
หนทางสู่การเป็นนักเขียนของแต่ละคนขรุขระต่างกัน แต่ยากที่ใครคนหนึ่งจะเป็นนักเขียนระดับเยี่ยมโดยไม่เคยถูกปฏิเสธ
กว่าจะกลายเป็นนักเขียนนวนิยายเบสต์เซลเลอร์สระดับโลก นวนิยายเรื่องแรกของ สตีเฟน คิง Carrie ถูกปฏิเสธมาสามสิบครั้งเท่านั้นเอง! หนึ่งในคำปฏิเสธเขียนว่า “เราไม่สนใจนิยายวิทยาศาสตร์ที่พูดถึงโลกในด้านลบ มันขายไม่ได้หรอก”
1
เจอคำพูดเชิงลบแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องสามสิบครั้ง สตีเฟน คิง ก็ล้มเลิกความคิดเป็นนักเขียน เหวี่ยงต้นฉบับลงถังขยะ โชคดีที่ภรรยาของเขาตาถึง หยิบมันขึ้นมาจากถังขยะ ขอให้เขาส่งไปหาสำนักพิมพ์ใหม่อีกสักรอบ ที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์!
6
หนังสือ The Diary of Anne Frank ของ แอนน์ แฟรงก์ ถูกสำนักพิมพ์สิบห้าแห่งปฏิเสธ รายหนึ่งส่งต้นฉบับกลับมาด้วยข้อความ “ผมรู้สึกว่าผู้เขียนไม่มีการรับรู้หรือความรู้สึกที่จะช่วยยกระดับหนังสือให้น่าอ่านเลย”
The Diary of Anne Frank กลายเป็นหนังสือที่คนนิยมอ่านทั่วโลก แปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่าหกสิบภาษา
นวนิยาย Gone With the Wind ของ มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ ถูกสำนักพิมพ์ 38 แห่งปฏิเสธก่อนได้รับการตีพิมพ์ มันกลายเป็นหนังสือที่โด่งดังที่สุดเล่มหนึ่งในอเมริกา เมื่อสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็เป็นภาพยนตร์รายได้สูงสุดตลอดกาลของโลก
3
นักเขียนชาวไอริช จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ เขียนบทละครนานเก้าปี ผ่านคำปฏิเสธมามากมายกว่าจะมีคนรู้จัก ช่วงเวลาเก้าปีนั้นเขามีรายได้จากการเขียนเพียงยี่สิบเหรียญเท่านั้น
2
รวมเรื่องสั้น Dubliners ของ เจมส์ จอยส์ ถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธ 22 ครั้ง แม้หลังตีพิมพ์ก็ขายไม่ดี แต่เป็นหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของโลก
เซน เกรย์ นักเขียนนิยายผจญภัยมีชื่อเสียงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เดิมเป็นหมอฟัน แต่ชอบเขียนนิยายมากกว่า ถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน ใคร ๆ ก็บอกให้เขาล้มเลิกความคิดเป็นนักเขียน เป็นหมอฟันอย่างเดิมเถอะ จนย่างเข้าวัยกลางคน งานของเขาจึงได้รับการตีพิมพ์ เขาเขียนหนังสือร่วมร้อยเล่ม พิมพ์ขายมากกว่าห้าสิบล้านเล่มทั่วโลก
2
หนังสือ On the Road ของ แจ็ค เครูแอค ถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธมานานหกปีกว่าจะได้ตีพิมพ์ มันกลายเป็นหนังสือที่คนอ่านมากที่สุดและกระทบความคิดของคนมากที่สุดเล่มหนึ่งก่อนที่ รัดยาร์ด คิปลิง ผู้เขียนนวนิยายยอดเยี่ยมจำนวนมากเช่น The Jungle Book, Just So Stories, Kim, The Man Who Would Be King ฯลฯ จะมีชื่อเสียงโด่งดัง บรรณาธิการสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งเขียนจดหมายถึงคิปลิงหลังจากอ่านต้นฉบับเรื่องหนึ่งของเขาว่า “ขอโทษนะ คุณคิปลิง แต่คุณไม่รู้จักใช้ภาษาอังกฤษจริง ๆ”
1
นักเขียนที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่เป็นคนนี้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรมในปี 1907
2
บรรณาธิการสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งปฏิเสธงาน Lady Chatterley’s Lover ของ ดี. เอช. ลอว์เรนซ์ ว่า “เพื่อเห็นแก่ตัวคุณเอง อย่าตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้เลย”
ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ โด่งดังจากวรรณกรรมคลาสสิก Little Women ก่อนจะเป็นนักเขียน เธอผ่านคำปฏิเสธมามาก บางคนแนะนำเธอว่า “ทำงานเป็นคนใช้จะเหมาะกว่า”
2
ซิลเวีย แพลท ถูกบรรณาธิการวิจารณ์ว่า “ความสามารถในเชิงกวีของเธอไม่มีอะไรพิเศษ มองไม่เห็นความสามารถโดดเด่นอะไร”
ต่อมากวีผู้นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวี-นักเขียนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอเมริกา
บทกวีของกวีชาวอเมริกัน เอมิลี ดิกกินสัน ถูกวิจารณ์ว่า อย่าตีพิมพ์เลย เพราะมันประหลาดเกินไป
ประหลาดเกินไปหรือไม่ไม่รู้ แต่ เอมิลี ดิกกินสัน กลายเป็นกวีที่มีชื่อเสียง เขียนบทกวีกว่า 1,800 บท
1
.
1
ในปี 1990 นักเขียนหญิงคนหนึ่งนั่งรถไฟไปลอนดอนคนเดียว ระหว่างทางความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาทันใด เธอมองเห็นภาพเด็กชายผมดำ สวมแว่น ท่าทางราวพ่อมดน้อย คืนนั้นเธอก็เริ่มลงมือเขียนเรื่องของเด็กชายคนนี้
3
นักเขียนหญิงคนนี้คือ เจ. เค. โรว์ลิง เธอใช้เวลาหกปีเขียน Harry Potter and the Philosopher’s Stone ส่งงานไปให้สำนักพิมพ์หลายแห่ง ถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วน ล้วนเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แต่ที่ได้รับการตีพิมพ์เพราะลูกสาวอายุแปดขวบของเจ้าของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งขอร้องพ่อให้ตีพิมพ์มัน บอกพ่อว่า นิยายเรื่องนี้ “so much better than anything else.” (ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ ม้ากมาก)
4
โชคดีจริงที่มีเด็กตาถึงช่วยไว้!
4
นิยายไซไฟ The Left Hand of Darkness ของ เออร์ซูลา ลา กวิน ถูกปฏิเสธพร้อมจดหมายแนบมาว่า
“หนังสือของคุณซับซ้อนไม่จบไม่สิ้น ให้รายละเอียดมากเกินไป ตำนานเชื่อมเรื่องแม้ว่าจะเกี่ยวข้องก็น่ารำคาญจนเรื่องอุดตันอย่างช่วยไม่ได้ และท้ายที่สุดหนังสือก็อ่านไม่ได้ความ โดยรวมเรื่องแห้งแล้ง ขาดจังหวะจะโคนจนดรามาและความน่าตื่นเต้นอะไรก็ตามที่นวนิยายอาจจะมี กระจายหล่นหายไป หลายครั้งก็ไม่เกี่ยวกับเรื่อง”
2
The Left Hand of Darkness ได้รับรางวัลฮิวโกและเนบิวลา รางวัลสูงสุดของนิยายไซไฟ
มหานิยายไซไฟ Dune ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต ถูกปฏิเสธยี่สิบครั้ง
Dune กวาดทั้งรางวัลฮิวโกและเนบิวลา และจัดว่าเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่ขายดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก
นวนิยาย Animal Farm ของ จอร์จ ออร์เวลล์ ถูกปฏิเสธพร้อมเหตุผลว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะขายเรื่องสัตว์ในอเมริกา”
หนังสือไซไฟที่ถูกปฏิเสธยาวนานที่สุดย่อมต้องเป็น Paris in the Twentieth Century ของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ระดับปรมาจารย์ จูลส์ เวิร์น เขาจินตนาการปารีสในปี 1960 ประมาณหนึ่งร้อยปีจากยุคของเขา (เขียนในปี 1863) สำนักพิมพ์ยิงเรื่องนี้ตกด้วยความเห็นว่าเรื่องไม่น่าเชื่อเกินไป!
2
หนังสือได้รับการตีพิมพ์ในปี 1994 หนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดปีให้หลัง
2
.
2
ในบรรดาหนังสือ ‘ถูกยิงทิ้ง’ ทั้งหลาย นวนิยายคลาสสิก The Eyre Affair ของ แจสเปอร์ ฟอร์ด น่าจะครองสถิติถูกปฏิเสธสูงสุดคือ 76 ครั้ง
1
นักเขียนอื่น ๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า!...
A Wrinkle in Time ของ มาเดอลีน แลงเกิล ถูกปฏิเสธ 26 ครั้ง มันได้รับรางวัล Newbery Medal ในปี 1963
1
Lust for Life ของ เออร์วิง สโตน ถูกปฏิเสธ 16 ครั้ง พร้อม ‘คำชม’ : “นิยายเกี่ยวกับศิลปินที่ยาวเหยียดและน่าเบื่อเหลือเกิน”
นวนิยายเรื่องนี้ขายได้ 25 ล้านเล่ม
1
หนังสือเล่มแรกของ ธีโอดอร์ ซูส ไกเซิล หรือ ดร. ซูส เรื่อง To Think That I Saw It on Mulberry Street ถูกปฏิเสธ 27 ครั้ง
2
ต่อมาเขาเป็นผู้เขียนหนังสือเด็กที่มีชื่อเสียงมาก เช่น The Cat in the Hat, Green Eggs and Ham ฯลฯ
The Princess Diaries ของ เม็ก คาบ็อต ถูกปฏิเสธ 17 ครั้ง
นิยาย The Kon Tiki Expedition ของ ทอร์ เฮดาห์ล ถูกปฏิเสธ 20 ครั้ง
นวนิยายเรื่องแรกของ จอห์น กริแชม A Time to Kill ถูกสำนักพิมพ์ร่วมยี่สิบแห่งปฏิเสธ ต่อมามันเป็นหนังสือขายดีทั่วโลก
1
หากคิดว่ามีแต่นักเขียน ‘โนเนม’ หรือมือใหม่ที่ถูกปฏิเสธ ก็เข้าใจผิด นักเขียนกระดูกเบอร์ใหญ่ล้วนถูกปฏิเสธมาแล้วทั้งนั้น เช่น วิลเลียม โฟล์คเนอร์, แจ็ค ลอนดอน, ฮอร์เฮ ลูอิส บอร์เฮส ฯลฯ
2
นวนิยายยาวเหยียด In Search of Lost Time (หรือ Remembrance of Things Past) ของ มาร์เซล พรูสท์ ถูกวิจารณ์จากสำนักพิมพ์ที่ปฏิเสธการตีพิมพ์ว่า “เพื่อนเอ๋ย ต่อให้ผมตายตั้งแต่คอขึ้นไป แต่ผมใช้สมองเต็มกำลังแล้ว ผมก็มองไม่เห็นว่าทำไมต้องใช้สามสิบหน้าบรรยายตัวละครพลิกตัวบนเตียงก่อนเข้านอน”
2
In Search of Lost Time กลายเป็นนวนิยายสำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของศตวรรษที่ 20 ที่แม้แต่นักเขียนเช่น เวอร์จิเนีย วูลฟ์, วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ ยังยกนิ้วให้ตัวอย่างมากมายเหล่านี้บอกเราว่า การถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ กระทั่งสบประมาทและเหยียดหยามเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกิน
4
คนที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องผ่านด่านสบประมาทนี้ไปได้
คำวิพากษ์เหยียดหยามทั้งหลายในโลกนี้ หากยอมให้มันทับถมเรา เราก็จะจมอยู่ใต้ดินตลอดไป แต่หากใช้เป็นบันได มันก็สามารถพาเราไปสู่ความสำเร็จ
6
นักอยากเขียนจะกลายเป็นนักเขียน และนักเขียนกลายเป็นนักเขียนชั้นเลิศ ต้องอดทนและทำงานหนัก
จูดี บลูม นักเขียนวรรณกรรมเด็กชาวอเมริกัน ผ่านการถูกปฏิเสธมาสองปีเต็มก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
เธอกล่าวว่า “ฉันเข้านอนตอนค่ำรู้สึกว่างานของฉันคงไม่ได้ตีพิมพ์งาน แต่พอตื่นเช้า ฉันบอกตัวเองว่างานของฉันจะได้ตีพิมพ์ ทุกครั้งที่ฉันส่งงานไปตามสำนักพิมพ์ ฉันนั่งลงและเริ่มเขียนงานชิ้นใหม่ ฉันเรียนรู้มากขึ้นจากความพยายามแต่ละครั้ง ฉันมุ่งมั่นแน่วแน่ ความมุ่งมั่นและการทำงานหนักสำคัญมากเท่าความสามารถ”
2
ไม่ว่าในวงการนักเขียนหรือวงการอื่นใด สูตรสำเร็จของความสำเร็จมักเหมือน ๆ กันคือ อดทน + ทำงานหนัก
5
ไม่ใส่ใจคำวิพากษ์ที่ใช้อารมณ์และอคติ ไม่โกรธที่ถูกวิจารณ์ มองคำวิจารณ์เป็นยาขมที่ทำให้มีภูมิคุ้มกันดีขึ้น
4
.
บทกวี The Enormous Room งานชิ้นแรกของ อี. อี. คัมมิงส์ นักเขียนชาวอเมริกัน ถูกปฏิเสธสิบห้าครั้ง ในที่สุดเขาก็พิมพ์เอง มันกลายเป็นงานคลาสสิกชั้นเยี่ยม
1
เขาอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้แก่สำนักพิมพ์สิบห้าแห่งที่ปฏิเสธมัน
2
.
จากหนังสือ #ท้องฟ้าไม่ปิดทุกวัน / https://bit.ly/3en45dZ
โฆษณา