21 พ.ค. 2021 เวลา 00:29 • นิยาย เรื่องสั้น
ไม้ผลัดใบ EP.02: คนกลาง
ปี 2519
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่ “ท่าน” วางไว้อย่างดี หลังจากที่อดทนรอมากว่า 2 ปี วันนี้เขาเรียนรู้ถึงคำว่า “สุขงอม” นั้นเป็นอย่างไร
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี ณ ที่ประชุมหน่วยปฏิบัติการสร้างชาติต้านคอมมิวนิสต์ (สตค.)
“ปี 2516 หลังนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการตั้งคณะรัฐบาลที่มีพลเรือนเป็นเสียงข้างมากคือ 19 คน และมีตำรวจทหารเพียง 5 คน ซึ่งส่วนมากดำรงตำแหน่งในส่วนกลาโหมและมหาดไทย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรัฐประหารเดือนพฤศจิกายน 2494 เป็นต้นมา แต่ผลกลับปรากฏว่าพลเรือนนั้นไม่สามารถที่จะบริหารจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เลย อาทิ การขึ้นราคาน้ำมันส่งผลให้สินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังไม่สามารถจัดการกับการประท้วงที่เกิดจากประชาชนจนต้องลาออกจากตำแหน่งไปครั้งหนึ่งก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะร่างเสร็จ
จากนั้นก็เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 26 มกราคม 2518 แต่กลับกลายเป็นว่าเสียงข้างมากซึ่งเลือกพรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ แต่กลายเป็น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม ที่รวบรวมเสียงจากพรรคย่อยแทน แต่สุดท้ายก็บริหารต่อไปได้ไม่เกิน 1 ปี แล้วจบด้วยการยุบสภา
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบุคคลเหล่านี้เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศ และนี่คือสาเหตุที่ท่านจอมพล ถนอม ถึงได้เลือกที่จะรัฐประหารรัฐบาลตัวเองในปี 2514 เพื่อจะได้นำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ทางหลวงหลายสายที่กระจายความเจริญสู่ชนบทก็มาจากยุคของท่านทั้งสิ้น ถ้ามีพวกนักการเมืองเหลือบไร ป่านนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้สร้างหรือเปล่า
นอกจากนี้ ยังมีขบวนนักศึกษาที่คอยปลุกปั่นประชาชน โดยปลุกระดมคนกลุ่มต่าง ๆ เช่น กรรมกร ชาวนา ชาวประมง ฯลฯ โดยมีแนวทางที่คล้ายคลึงกับ พรรคคอมมิวนิสต์ไทยอย่างยิ่ง โดยไม่ตระหนักถึงสถานการณ์ทางการคลังและการเมืองระหว่างประเทศ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำมาสู่ความมั่นคงของประเทศในการต่อต้านกับภัยที่มาจากภายนอก
จากข้อมูลเหล่านี้ ทุกท่านก็เห็นแล้วว่าปัจจุบันรัฐบาลที่มาจากพลเรือนนั้นล้มเหลวในการบริหารประเทศอย่างสิ้นเชิง นายกรัฐมนตรีแต่ละคนก็ไม่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศได้ การเลือกตั้งจากประชาชนก็มีแต่ความล้มเหลว นักการเมืองสนใจแต่ผลประโยชน์ของตนเอง อย่างนี้ประเทศไปต่อไม่ได้แน่นอน ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราควรจะต้องทำการตัดไฟแต่ต้นลมครับ” ร.ต. เชษฐ์ นำเสนอต่อที่ประชุม
แม้ว่าเชษฐ์ จะเป็นนายทหารหัวกะทิของรุ่น แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เขาถูกเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วย สาเหตุที่เขาถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยนั้นเนื่องจากทัศนคติที่เอาจริงเอาจังต่อการปราบคอมมิวนิสต์ให้หมดไป และเชื่อมั่นในการให้ “คนดี” ปกครองบ้านเมือง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ สตค. ต้องการมากที่สุด พล.ต. ณรงค์ จึงดึงเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสนำเสนอต่อที่ประชุม
“พวกนี้มันคิดว่าเก้าอี้นายกเป็นเก้าอี้ดนตรีหรือไงกัน” นายทหารท่านหนึ่งกล่าวออกมาหลังจากที่ได้ฟังการนำเสนอ
“ประวัติศาสตร์ก็มีให้เห็นอยู่ว่าถ้าไม่มีพวกเราจะเป็นอย่างไร ทำไมถึงไม่จำกันบ้างเลย ให้ได้รับบทเรียนกันเสียบ้างก็ดี” นายทหารอีกท่านกล่าวเสริม
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาคิดเล็กคิดน้อยแล้ว ถ้าหากพวกเราไม่ดำเนินการยึดอำนาจในตอนนี้ ประเทศไทยจะไปต่อไม่ได้แน่นอน ตอนนี้สหรัฐก็ถอนกำลังไปจากเวียดนามแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วเราจะโดนคอมมิวนิสต์กลืนไปแน่นอน ขอท่านพิจารณาด้วยครับ” พล.ต. ณรงค์กล่าว
ตอนนี้ ในห้องประชุมถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ การตัดสินใจในคราวนี้เป็นเรื่องสำคัญ หากพลาดเมื่อไรอาจจะกลายเป็น “กบฏ” ได้ทันที ทุกคนในที่ประชุมต่างกำลังรอ “ท่าน” อ่านข้อมูลที่มีในมืออยู่เพื่อประกอบการตัดสินใจ
เวลาผ่านไปราว 10 นาที “ท่าน” จึงได้กล่าวขึ้น
“สถานการณ์ตอนนี้เปรียบเสมือนต้นมะม่วงที่ออกผลแล้วแต่ยังไม่ “สุกงอม” ถึงกินได้ แต่ก็คงจะฝืดคอยิ่งนัก เรายังต้องสะสมความชอบธรรมกับทหารให้มากพอก่อนที่จะสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติ เพื่อให้สถานการณ์สุกงอมกว่านี้ เราต้องเน้นให้มีปฏิบัติการทั้งภายนอกและภายใน โดยใช้สื่อที่เรามีอยู่ในมือกระพือข่าวที่ไม่ดีของพวกนักศึกษาเพื่อลดความชอบธรรม นอกจากนี้ ในหมู่นักการเมืองที่ได้รับเลือกเข้าไปก็มีคนของเราอยู่ ซึ่งจะช่วยผลักดันท่าน “จอมพล” กลับมาสู่แผ่นดินไทยได้ โดยเบื้องต้นเราได้วางกลไกเพื่อสร้างความชอบธรรมในการกลับมาเอาไว้แล้ว อย่างไรขอให้พวกท่านติดตามเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ ขอในณรงค์นำข้อมูลที่ได้นำเสนอไปขยายผลเพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้กับฝ่ายเราในการทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ต่อไป”
“ครับ” ทุกคนในห้องตอบเสียงพร้อมเพียง
“มีใครมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่”
“สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้วไม่ทราบว่ามีการสรุปว่าใครจะผู้ดำเนินการงานใหญ่งานนี้ครับ” หนึ่งในผู้ร่วมประชุมถาม
“สงัด”
ภาคผนวก
- บุคคลในที่ประชุมทั้งหมด เป็นตัวละครสมมติ
- หน่วยงาน สตค. ไม่มีอยู่จริง
- พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ ที่ถูกกล่าวถึงในตอนท้ายเป็นบุคคลที่มีอยู่จริง แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หน่วยงาน สตค.
ช่วงโฆษณา
สำหรับท่านที่เพิ่งเข้า เพจนี้ตั้งมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ “หนังสือคือสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้” ดังนั้นหนังสือของผมทุกเล่มจะแจก File E-Book ฟรี โดยรายละเอียดของโครงการและลิงค์ดาวน์โหลดอยู่ในลิงค์ด้านล่างครับ
ท่านสามารถ Pre – order ได้ผ่านการแสกน QR Code ที่ปกหลังของหนังสือแต่ละเล่ม โดยสาเหตุที่ทำเป็น Pre - order นั้นเนื่องจากผู้แต่งนั้นไม่มีทุนแล้วครับ ปัจจุบันยอดขายของหนังสือ “เมื่อคุณพ่อเป็นสมาธิสั้น” และนิทานชุด “ปุ๊กปิ๊กทำได้” อยู่อย่างละ 5 ชุด เท่านั้นครับ เลยต้องขออนุญาตออกมาโฆษณาดื้อ ๆ เลยครับผม
ทั้งนี้ App blockdit นั้นจะเหมาะกับการอ่านนิยายเรื่องนี้มากกว่า Facebook นะครับ เพราะเฟสนั้นชอบปรับการเว้นวรรคโดยอัตโนมัติ ทำให้การเว้นช่องของโคลงสี่สุภาพนั้นไม่ค่อยสบายตานัก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา