21 พ.ค. 2021 เวลา 07:21 • ปรัชญา
ไ พ่ ท า โ ร ต ์ ด อ ก ไ ม้ กั บ ชี วิ ต
หากพูดถึงไพ่ทาโรต์ืหลายๆคนก็คงจะรู้จักกันดีในฐานะไพ่ที่ใช้สำหรับการพยากรณ์ทำนายทายทักใช่มั้ยครับ
แต่รู้หรือไม่ว่า ไพ่ทาโรต์ เป็นมากกว่าไพ่ที่ใช้สำหรับการทำนายครับ
หากเราเข้าใจในตัวตนและการสื่อสารของไพ่ เราจะเห็นวิธีนำไปใช้ที่หลากหลาย และหนึ่งในวิธีใช้ไพ่ทาโรต์นั่นก็คือ การใช้เพื่อการบำบัด
แน่นอนครับว่า การใช้เพื่อการบำบัด แตกต่างกับการพยากรณ์ เพราะเราจะไม่ได้อ่านไพ่เพื่อ บอกอนาคต หรืออ่านใจผู้มาปรึกษา แต่เราจะดึงเอาปรัชญาที่แฝงอยู่ในไพ่ อาจเป็นสัญลักษณ์ที่ใส่มา หเรื่องราวของไพ่แต่ละสำรับ เราจะดึงเอาปรัชญา คำสอนเชิงบวกนั้นมาเพื่อการให้คำแนะนำ กับการพัฒนาตนเอง และปรับใช้ในส่วนอื่นๆในชีวิต
โดย เราจะเริ่มจากการรับฟังปัญหา แล้วเปิดไพ่ เชื่อมโยงเรื่องราว แล้วดูไพ่ที่ขึ้นมา เราเห็นปรัชญาแบบไหน ที่จะเอามาเป็นคำแนะนำเชิงบวกที่เข้ากับการปรัชใช้ในปัญหาที่ผู้มาปรึกษาพบเจอ เราก็จะอ่านในสิ่งนั้น
วันนี้ผมจึงอยากจะยกตัวอย่างไพ่ที่น่าสนใจใบนึงครับ นั่นก็คือไพ่ The Tower จากไพ่สำรับ Fleurot A Floral Tarot Deck
เรื่องราวของไพ่สำรับนี้ จะเป็นการเชื่อมโยงทาโรต์กับภาษาดอกไม้ หน้าไพ่จึงต่างกับทาโรต์ทั่วไป
สำหรับไพ่ The Tower โดยทั่วไปเราจะเห็นถึงความหมายที่พูดถึงในเชิงลบ เช่น การพังทะลาย จบสิ้น กระทันหัน เจ็บปวด และอีกมากมายที่จะเห็นในมุมมองต่างๆ หรือหากเป็นความหมายที่ดี ก็อาจบอกถึง รวดเร็วฉับพลัน เรื่องเซอร์ไพรส์ ออกมาจากความเจ็บปวด ฯลฯ
เรามาดู การสื่อสารของไพ่ที่เรานำมายกตัวอย่างกันครับ จะได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า การนำปรัชญาจากไพ่มาใช้เพื่อบำบัดใจและพัฒนาตนเองได้เป็นอย่างไร
1
ไพ่ The Tower ใบนี้ ดอกไม้ที่ใช้เป็นตัวแทนคือดอก Cyclamen ซึ่งมีความหมายถึง การลาจาก การเปลี่ยนแปลงอันเหมือนกับ การสิ้นสุดฤดูกาลนึง แล้วเข้าสู่ช่วงฤดูกาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเจ็บปวด เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้ว เราก็ย่อมต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นไปกับอดีต แล้วก้าวไปข้างหน้า เริ่มต้นใหม่ ชีวิตใหม่ ให้ตัวเอง
บางครั้งเราจึงอาจมองได้ว่า ถึงเวลาที่เราจะลาจากสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือสิ่งที่เราไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว
หรือบางครั้ง เราก็อาจมองเห็นถึง ความจริงของชีวิต ที่ ถึงเวลานึง เราต้องลาจากไม่ว่า เราจะต้องหรือไม่ แต่การจากลามันคือความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเพียงต้องยอมรับ แล้วก้าวต่อไป สู่การเปลี่ยนแปลง
บางครั้งชีวิตก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และเมื่อช่วงเวลานั้น ตัวเราเต็มไปด้วยความเจ็บ ความเศร้า เหมือนดอก Cyclamen ที่รวมเอาทุกความโศกเศร้าเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดเราจึงจะต้องกอดความเจ็บปวดนั้นไว้ เราควรปล่อยไปดีกว่ามั้ย วางมันลงดีกว่ามั้ย
บางครั้งไพ่ใบนี้ก็สอนเราว่า ไม่มีอะไรที่แน่นอนและถาวร จะเป็นความทุกข์ หรือสุข วันนึงการจากลาก็ย่อมมาถึง จะช้าจะเร็วก็ต้องเกิดขึ้น ถ้าเราวางใจไม่ติดทุกข์ ไม่ติดสุข เราก็จะไม่เป็นศูนย์รวมของความเจ็บปวด ดั่งเช่นกานสื่อความหมายของดอก Cyclamen ที่เป็นตัวแทนของสุจสุดท้ายของปี ที่จะถึงเวลาเปลี่ยนผ่าน
หากใจเราไม่โหยหาความสุขและเข้าใจความทุกข์ ใจเราจะเป็นกลาง และนั่นแหละที่จะตัดเราออกจากวงจร สุข สุขมาก สุขหมดลง แล้วเป็นทุกข์ แล้วต้องวนกลับมาหาความสุข เพื่อหนีทุกข์อีกครั้ง
ภาษาดอกไม้ คือภาษาของธรรมชาติ ที่สื่อสารให้เราเข้าใจชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเราอยู่อย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวหรือต้องโหยหามากๆอีกต่อไป
แน่นอนมันไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ บางครั้ง โลกใบนี้จึงสอนคนเหล่านั้นด้วยการปล่อยให้เขาได้ก้าวไปเจอช่วงเวลาที่ระทมที่สุด เจ็บที่สุด ดั่งเช่นการพังทะลาย และความเจ็บปวดของ The Tower ที่เขาจะเจ็บจนใจเปลี่ยนไป เพราะมันไม่มีอะไรจะเจ็บไปกว่านั้น แต่หากเราเข้าใจความเป็นไปของชีวิตกับธรรมชาติก่อนแล้ว เราก็วางแผนวางใจตัวเองได้ดีและพร้อมมากกว่า
โฆษณา