21 พ.ค. 2021 เวลา 13:49 • สุขภาพ
วันนี้มีข่าวการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียเป็นคลัสเตอร์ในกรุงเทพมหานคร
หลายคนคงตั้งคำถามในใจว่า
ประชาชนอย่างเราควรจะต้องทำอย่างไร
และภาครัฐควรต้องทำอย่างไร
สายพันธุ์อินเดียเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (variant of concer, VOC) ที่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่า คงจะสกัดได้ลำบาก เดิมเราตั้งความหวังว่าอย่างน้อยขอให้ยันให้อยู่จนกว่าคนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนก่อน
แต่ข่าวการพบเชื้อสายพันธุ์อินเดียจำนวน 36 ใน 80 ตัวอย่าง (1) หรือคิดเป็น 45% ของโควิดที่ระบาดในคลัสเตอร์ที่เป็นแคมป์คนงาน อาจทำลายความหวังของเรา
จากจำนวนที่สูงพอสมควรทำให้คิดได้ว่า เชื้อสายพันธุ์นี้น่าจะเข้ามาสักระยะแล้ว ประกอบกับ ถ้าเราสังเกตรูปแบบการระบาดที่เปลี่ยนจากชุมชนแออัด เป็นที่ตลาดหลายแห่ง คล้ายๆ กับที่เกิดในกรณีของมหาชัย และล่าสุดเป็นแคมป์คนงาน
ทั้งสองแหล่ง (ตลาดและแคมป์คนงาน) มีปัจจัยร่วมกันคือ คนงานพม่า
ซึ่งคาดการณ์ได้อยู่แล้วว่าหากสายพันธุ์อินเดียจะเข้าไทยก็คงมาทางชายแดนพม่า
รูปที่ 1 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อล้านประชากร
ในขณะเดียวกัน ถ้าเราติดตามสถานการณ์การระบาดในสิงคโปร์และไต้หวัน (รูปที่ 1 แสดงจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อประชากรล้านคน) ก็พบการระบาดย่อมๆ ของโควิดสายพันธุ์อินเดียเช่นเดียวกัน
ในกรณีของประเทศไทย พบว่าการระบาดยังคงดำเนินอยู่ แม้ว่าจะมีมาตรการของรัฐออกมาก็ตาม
รูปที่ 2 Reproduction rate
ถ้าดูรูปที่ 2 ที่แสดงถึง Reproduction rate (R) ซึ่งถ้าค่ายิ่งสูงจะบ่งถึงการระบาดอย่างรวดเร็ว และค่าที่น้อยกว่า 1 บอกว่าควบคุมการระบาดได้ จะสังเกตว่าในช่วงหนึ่งค่า R ของประเทศไทย (สีฟ้า) สูงถึง 2.3 และลดลงเหลือ 1.3 หลังจากออกมาตรการของภาครัฐ แต่กลับไม่ลดลงต่อ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ จนล่าสุดอยู่ที่ 1.5
แสดงว่ามาตรการเท่าที่มีในปัจจุบันคงจะแค่เพียงชะลอการระบาดลงได้บ้าง แต่แนวโน้มของค่า R ที่กำลังขึ้นในช่วงหลัง แสดงว่าการแพร่ระบาดกำลังรุนแรงขึ้น ซึ่งการมาของสายพันธุ์อินเดียน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ
แล้วประชาชนจะทำอย่างไรดี
ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว คงต้องยกการ์ดสูงกว่าปีก่อน เพราะเชื้อแพร่ระบาดง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เรามีอาวุธ (วัคซีน) ครับ เพียงแต่ว่ามันอาจจะยังลำเลียงมาไม่ถึงเรา แต่ถ้ามีโอกาส อย่าปฏิเสธ มีหนังสติ๊ก กระบองไม้ไผ่ ดีกว่ามือเปล่า มันช่วยชีวิตคุณได้
ส่วนภาครัฐจะทำอย่างไรดี อันนี้ต้องบอกว่าเป็นงานหินสุดๆ
เหมือนผู้ใหญ่บ้านและคนในหมู่บ้านหลงอยู่ในถ้ำ หาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งมีคนไปพบแผนที่ถ้ำ รู้แล้วว่าจะออกยังไง (วัคซีน) แต่ดันมามีกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดมา คาดคะเนดูแล้วว่ากว่าจะไปถึงปากถ้ำแม้จะวิ่งแล้ว (ปูพรม) ก็ไม่ทัน
จะทำเหมือนเดิม แล้วปล่อยให้มีการสูญเสียบางส่วน
หรือจะยกหินไปกั้นเป็นเขื่อนชะลอน้ำไว้ก่อน แต่ก็สูญเสียพลัง (เงินชดเชย) ไปเยอะ
จะเลือกอย่างไหน เป็นเรื่องที่รัฐต้องตัดสินใจ
In My Humble Opinion
โฆษณา